สมาชิกของพรรคเดโมแครตและพรรครีพับลิกันในวุฒิสภาอเมริกัน ซึ่งมีท่าทีโอนอ่อนพร้อมรับฟังกันและกันมากกว่าในสภาผู้แทนราษฎร ยังคงไม่สามารถตกลงกันได้เมื่อวันอาทิตย์ (13 ต.ค.) เกี่ยวกับเงื่อนไขเพื่อเปิดทำการหน่วยงานรัฐบาลกลางอีกครั้ง รวมทั้งการขยายเพดานการก่อหนี้ของประเทศ ขณะที่เหลืออีกเพียงไม่กี่วันก็จะถึงเส้นตายซึ่งสหรัฐฯจะย่ำแย่ถึงขั้นผิดนัดชำระหนี้ ทั้งนี้มีความเป็นไปได้ว่าอาจต้องลุ้นกันเหนื่อยจนถึงนาทีสุดท้าย ล่าสุดทั้งสภาสูงและสภาล่างต่างเรียกสมาชิกถกหาทางออกต่อในวันจันทร์ (14)
การเจราจาต่อรองกันของเหล่า ส.ว. ในวันอาทิตย์ (13) เพื่อหาทางผ่าทางตันที่ยืดเยื้อมากว่า 2 สัปดาห์แล้ว ยังคงไร้ข้อสรุปเช่นเดิม ท่ามกลางความกังวลของนานาชาติที่ว่า เศรษฐกิจโลกจะถูกหางเลขจากการผิดนัดชำระหนี้ครั้งแรกในประวัติศาสตร์ของอเมริกา หากรัฐสภายังไม่สามารถตกลงขยายเพดานการก่อหนี้ของรัฐบาลสหรัฐฯได้ภายในวันพฤหัสบดีนี้ (17)
ขณะที่หน่วยงานหลายแห่งของรัฐบาลกลางยังคงต้องปิดทำการนับตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคมเป็นต้นมา หลังจากสภากับทำเนียบขาวไม่สามารถบรรลุข้อตกลงเพื่อออกงบประมาณฉบับฉุกเฉินชั่วคราว ส่งผลให้ความเชื่อมั่นภายในประเทศคลอนแคลน และทำลายชื่อเสียงของอเมริกาในฐานะมหาอำนาจเศรษฐกิจโลก
ด้วยเหตุนี้วุฒิสภาจึงนัดประชุมในวันอาทิตย์แบบที่ไม่เกิดขึ้นบ่อยนัก โดยหลังฉากนั้น ส.ว. แฮร์รี รีด ของเดโมแครต ซึ่งมีตำแหน่งเป็นผู้นำเสียงข้างมากในสภาสูง ได้หารือกับ ส.ว. มิตช์ แมกคอนเนล ผู้นำเสียงข้างน้อยจากรีพับลิกัน จากนั้น รีด ออกมาแถลงว่า น่าจะได้ข้อสรุปที่ดี แต่ไม่ได้เปิดเผยข้อตกลงรูปธรรมใดๆ
ทั้งรีพับลิกันและเดโมแครตต่างรับรู้ความไม่พอใจของประชาชน และผลกระทบที่จะเกิดกับเศรษฐกิจโลก จึงต่างประกาศว่า จะต้องบรรลุข้อตกลงไม่ว่าต้องแลกด้วยสิ่งใด ทว่า ทั้งสองพรรคยังไม่สามารถคลี่คลายความขัดแย้งได้ และทั้งสภาสูงและสภาล่างต่างมีกำหนดเปิดประชุมในวันจันทร์ แม้เป็นวันหยุดราชการเนื่องในวันโคลัมบัสก็ตาม
การเจราจาต่อรองกันของเหล่า ส.ว. ในวันอาทิตย์ (13) เพื่อหาทางผ่าทางตันที่ยืดเยื้อมากว่า 2 สัปดาห์แล้ว ยังคงไร้ข้อสรุปเช่นเดิม ท่ามกลางความกังวลของนานาชาติที่ว่า เศรษฐกิจโลกจะถูกหางเลขจากการผิดนัดชำระหนี้ครั้งแรกในประวัติศาสตร์ของอเมริกา หากรัฐสภายังไม่สามารถตกลงขยายเพดานการก่อหนี้ของรัฐบาลสหรัฐฯได้ภายในวันพฤหัสบดีนี้ (17)
ขณะที่หน่วยงานหลายแห่งของรัฐบาลกลางยังคงต้องปิดทำการนับตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคมเป็นต้นมา หลังจากสภากับทำเนียบขาวไม่สามารถบรรลุข้อตกลงเพื่อออกงบประมาณฉบับฉุกเฉินชั่วคราว ส่งผลให้ความเชื่อมั่นภายในประเทศคลอนแคลน และทำลายชื่อเสียงของอเมริกาในฐานะมหาอำนาจเศรษฐกิจโลก
ด้วยเหตุนี้วุฒิสภาจึงนัดประชุมในวันอาทิตย์แบบที่ไม่เกิดขึ้นบ่อยนัก โดยหลังฉากนั้น ส.ว. แฮร์รี รีด ของเดโมแครต ซึ่งมีตำแหน่งเป็นผู้นำเสียงข้างมากในสภาสูง ได้หารือกับ ส.ว. มิตช์ แมกคอนเนล ผู้นำเสียงข้างน้อยจากรีพับลิกัน จากนั้น รีด ออกมาแถลงว่า น่าจะได้ข้อสรุปที่ดี แต่ไม่ได้เปิดเผยข้อตกลงรูปธรรมใดๆ
ทั้งรีพับลิกันและเดโมแครตต่างรับรู้ความไม่พอใจของประชาชน และผลกระทบที่จะเกิดกับเศรษฐกิจโลก จึงต่างประกาศว่า จะต้องบรรลุข้อตกลงไม่ว่าต้องแลกด้วยสิ่งใด ทว่า ทั้งสองพรรคยังไม่สามารถคลี่คลายความขัดแย้งได้ และทั้งสภาสูงและสภาล่างต่างมีกำหนดเปิดประชุมในวันจันทร์ แม้เป็นวันหยุดราชการเนื่องในวันโคลัมบัสก็ตาม