เอเอฟพี - วอลล์สตรีทวานนี้ (8) ดิ่งลงแรง หลังทางตันด้านงบประมาณและการขยายเพนดานหนี้ของสหรัฐฯยังไร้ทางออก อย่างไรก็ตามน้ำมันกลับขยับขึ้นเล็กน้อย และทองคำปิดลบในกรอบแคบๆ เนื่องจากนักลงทุนบางส่วนเชื่อว่าอเมริกาจะรอดพ้นวิกฤตนี้ไปได้
ดัชนีดาวโจนส์ ลดลง 159.71 จุด (1.07 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 14,776.53 จุด เอสแอนด์พี ลดลง 20.67 จุด (1.23 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 1,655.45 จุด แนสแดก ลดลง 75.54 จุด (2.00 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 3,694.83 จุด
นักลงทุนเทขายทั้งกระดาน โดยเฉพาะหุ้นกลุ่มเทคโนโลยี หลังประธานาธิบดี บารัค โอบามา ยังคงยืนกรานจะเจรจากับรีพับลิกันก็ต่อเมื่อไม่ถูกนำเศรษฐกิจของประเทศมาข่มขู่ ท่าทีดังกล่าวก่อความกังวลหนักหน่วงขึ้นถึงความเป็นไปได้ว่ารัฐบาลอาจต้องผิดนัดชำระหนี้ หากว่าไม่บรรลุข้อตกลงขยายเพดานหนี้ทันเส้นตาย 17 ตุลาคมนี้ “ข่าวนี้ไม่มีอื่นใดนอกเหนือไปจากความเป็นปรปักษ์ในวอชิงตัน ผู้คนจึงแห่ขาย” ไมเคิล เจมส์ นักวิเคราะห์จากเว็ดบุช ซีเคียวริตีระบุ
อย่างไรก็ตามนักลงทุนในตลาดเชื้อเพลิง ดูจะมีความเชื่อมั่นมากกว่าในวอลล์สตรีท ว่าสหรัฐฯจะสามารถหลีกเลี่ยงภาวะผิดนัดชำระหนี้ทันเส้นตาย ส่งผลให้ราคาน้ำมันวานนี้ (8) ยังยืนหยัดปิดบวกได้เล็กน้อย
สัญญาล่วงหน้าน้ำมันดิบชนิดไลต์สวีตครูดของสหรัฐฯ งวดส่งมอบเดือนพฤศจิกายน เพิ่มขึ้น 46 เซนต์ ปิดที่ 103.49 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ส่วนเบรนท์ทะเลเหนือลอนดอน เพิ่มขึ้น 48 เซนต์ ปิดที่ 110.16 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
ตลาดน้ำมันนิวยอร์ก แกว่งตัวอยู่ราวๆ 101-104 ดอลลาร์สหรัฐฯ หลังจากรัฐบาลสหรัฐฯต้องปิดหน่วยงานบางส่วนมาตั้งแต่สัปดาห์ที่แล้ว อย่างไรก็ตามอีกเส้นตายหนึ่งก็กำลังคืบคลานเข้ามาสำหรับการขยายเพดานหนี้ของประเทศ ซึ่งหากสภาคองเกรสไม่สามารถบรรลุข้อตกลงเพิ่มเพดานหนี้ได้ทันวันที่ 17 ตุลาคม อเมริกาก็เสี่ยงผิดนัดชำระหนี้ ซึ่งผู้เชี่ยวชาญเตือนว่าจะก่อความเสียหายทางเศรษฐกิจอย่างรุนแรง
ด้วยการคาดเดาต่างๆ นานา ทั้งแง่บวกและทางลบ ต่อความเป็นไปได้ที่สหรัฐฯอาจเข้าสู่ภาวะผิดนัดชำระหนี้ ก็ส่งผลให้ราคาทองคำวานนี้ (8) ปิดทรงตัวเท่านั้น โดยราคาทองคำตลาดโคเม็กซ์ ลดลง 50 เซนต์ ปิดที่ 1,324.60 ดอลลาร์ต่อออนซ์