ASTVผู้จัดการรายวัน - เอเชีย กรีนฯ ตั้งเป้ายอดขายถ่านหินปีหน้าแตะ 3 ล้านตัน หนุนรายได้โตขึ้น 20% ใกล้เคียงปริมาณการขาย เล็งทำตลาดไปญี่ปุ่น เกาหลี และเอเชียเพิ่มเติม ยันปีหน้าเห็นราคาดีดขึ้น 90 เหรียญสหรัฐ/ตัน แผนผุดตั้งโรงไฟฟ้าชีวมวลมีความชัดเจนปี 57
นายพนม ควรสถาพร กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอเชีย กรีน เอนเนอจี จำกัด (มหาชน) (AGE) เปิดเผยว่า ในปีหน้าบริษัทฯ ตั้งเป้าหมายการขายถ่านหินเพิ่มเป็น 3 ล้านตันจากปีนี้ที่คาดว่ามีปริมาณการขายอยู่ที่ 2.4 ล้านตัน หรือโตขึ้น 20% ขณะที่รายได้ก็จะเติบโตใกล้เคียงปริมารการขายถ่านหิน โดยปี 2557 บริษัทฯ จะเน้นทำตลาดในต่างประเทศมากขึ้นทั้งจีนและอินเดีย เล็งขยายตลาดไปเกาหลีใต้ ญี่ปุ่น กัมพูชา และเวียดนาม เนื่องจากมีการทำโรงไฟฟ้าถ่านหิน
แนวโน้มราคาถ่านหินในปีหน้าน่าจะทยอยปรับตัวสูงขึ้น จากปีนี้ราคาถ่านหินไตรมาส 4 อยู่ที่ 84 เหรียญสหรัฐ/ตัน คาดว่าไตรมาส 4/2557 อาจเห็นราคาขยับไปอยู่ระดับ 90 เหรียญสหรัฐ/ตัน เนื่องจากเป็นช่วงฤดูหนาวทำให้มีความต้องการใช้ถ่านหินสูง
นายพนมกล่าวว่า จากราคาถ่านหินที่อ่อนตัวลงมาอยู่ระดับ 80 กว่าเหรียญสหรัฐ/ตัน ทำให้เป้าหมายรายได้ปีนี้ที่ตั้งไว้ 6 พันล้านบาทไม่เป็นไปตามคาดหมาย แม้ว่าปริมาณการขายถ่านหินจะเพิ่มขึ้น 40% จากปีก่อนที่ 1.7 ล้านตันเป็น 2.4 ล้านตันก็ตาม โดยปีนี้บริษัทฯ จะมีรายได้อยู่ที่ 5-5.5 พันล้านบาท ใกล้เคียงปี 2554 ที่มีรายได้รวม 5.2 พันล้านบาท โดยยืนยันว่าบริษัทฯ จะปันผลไม่ต่ำกว่า 40% ของกำไรสุทธิ จากผลการดำเนินงานงวดปี 2556 เนื่องจาก 9 เดือนแรกปีนี้บริษัทฯ มีกำไรสุทธิ 102 ล้านบาท หลังล้างขาดทุนสะสมหมดแล้ว
ในไตรมาส 4/2556 ราคาและปริมาณการขายถ่านหินจะดีกว่าไตรมาส 3 ที่ผ่านมา โดยล่าสุดบริษัทมียอดคำสั่งซื้อถ่านหินจากจีนเข้ามาแล้วกว่า 3 แสนตัน ส่งผลให้ยอดขายในต่างประเทศปีนี้อยู่ที่ 1 ล้านตัน เมื่อเทียบจากปีก่อนอยู่ที่ 5.5 แสนตัน เป็นผลจากความต้องการใช้ถ่านหินในจีนยังมีแนวโน้มโตต่อเนื่องจากการขยายตัวโรงไฟฟ้าถ่านหิน
อีก 5 ปีข้างหน้าบริษัทฯ ตั้งเป้ายอดขายถ่านหินในต่างประเทศจะสูงกว่าในไทยอย่างแน่นอน จากปัจจุบันการส่งออกอยู่ที่ 40% ของปริมาณการขายทั้งหมด เนื่องจากผู้ใช้ถ่านหินในไทยยังเป็นลูกค้าเดิม อีกทั้งการเกิดโรงไฟฟ้าถ่านหินในประเทศเป็นไปได้ยาก ทำให้ดีมานด์ถ่านหินในประเทศเติบโตช้าและการแข่งขันสูง
ส่วนกรณีที่จีนยกเลิกภาษีส่งออกถ่านหินนั้น จะมีปริมาณถ่านหินจากจีนส่งออกมาบ้างแต่ไม่กระทบต่อบริษัทฯ เนื่องจากบริษัทฯ ดำเนินธุรกิจเทรดดิ้ง เหมืองถ่านหินส่วนใหญ่ของจีนอยู่ที่ตอนกลางและตอนเหนือของประเทศ การส่งออกไปจำหน่ายต่างประเทศมีต้นทุนสูง ทำให้จีนยังต้องนำเข้าถ่านหินจากต่างประเทศอยู่มาก
สำหรับแผนการลงทุนโรงไฟฟ้าในประเทศนั้น ขณะนี้อยู่ระหว่างการศึกษารายละเอียดในการลงทุนโรงไฟฟ้าชีวมวล คาดว่าจะมีความชัดเจนในปี 2557 เช่นเดียวกับการซื้อเหมืองถ่านหินในอินโดนีเซีย ซึ่งอยู่ระหว่างการเจรจาแต่ยังไม่ได้ข้อสรุป แม้ว่าช่วงจังหวะนี้เป็นโอกาสดีในการซื้อเหมืองถ่านหินก็ตาม
