ยูนิเวอร์แซล แอดซอร์บเบ้นท์ฯ เตรียมทยอยรับรู้รายได้จากโครงการ PPP เข้ามาครึ่งปีหลังประมาณ 120 ล้านบาท ส่งผลมั่นใจรายได้ปีนี้มีอัตราการเติบโตเฉลี่ย 20-30% ตามที่คาดการณ์ ด้าน “กิตติ” เผย UAC ตั้งบริษัทย่อยร่วมทุนอิตาลี “UAC Energy” ลุยโครงการ Bio-gas หวังเพิ่มศักยภาพ และโอกาสทางธุรกิจทั้งไทย และต่างประเทศ
นายกิตติ ชีวะเกตุ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการ บริษัท ยูนิเวอร์แซล แอดซอร์บเบ้นท์ แอนด์ เคมิคัลส์ จำกัด(มหาชน) หรือ UAC เปิดเผยว่า ขณะนี้โครงการผลิตผลิตภัณฑ์ปิโตรเลียม (Petroleum Production Project หรือ PPP จ.สุโขทัย ในการผลิตก๊าซธรรมชาติอัด (Compressed natural gas : CNG) เปิดดำเนินการผลิตในเชิงพาณิชย์ และสามารถทยอยส่งมอบให้แก่ บมจ .ปตท. (PTT) ได้เป็นที่เรียนร้อยแล้ว ส่งผลให้ในไตรมาส3/2556 บริษัทฯ จะรับรู้รายได้จากโครงการดังกล่าวเข้ามาเฉลี่ยไม่ต่ำกว่า 60 ล้านบาทต่อไตรมาส ซึ่งส่งผลให้ในช่วงครึ่งปีหลังบริษัทฯ จะมีรายได้จากโครงการ PPP เข้ามาประมาณ 120 ล้านบาท
“บริษัทฯ จะเริ่มทยอยรับรู้รายได้จากโครงการ PPP เข้ามาประมาณ 120 ล้านบาท หรือเฉลี่ยไม่ต่ำกว่า 60 ล้านบาทต่อไตรมาส และคาดว่าจะทยอยรับรู้รายได้เข้ามาเต็มที่ในปี 2557 เฉลี่ยประมาณ 300-350 ล้านบาทต่อปี โดยโครงการดังกล่าวมีกำลังการผลิตรวมประมาณ 20,000 ตันต่อปี แบ่งเป็น CNG 65%, LPG 30% และ NGL 5%” นายกิตติกล่าว
ขณะที่โครงการโรงงานผลิตก๊าซชีวภาพอัดความดันสูง (Compressed Bio-Methane Gas หรือ CBG) นั้น นายกิตติ กล่าวว่า บริษัทฯ อยู่ระหว่างการเตรียมการก่อสร้าง โครงการผลิต CBG เพิ่มอีก 2 โครงการ บริเวณพื้นที่เชียงใหม่ และขอนแก่น ซึ่งในเบื้องต้นคาดว่าจะเริ่มดำเนินการและผลิตในเชิงพาณิชย์ได้ภายในปี2557 จากปัจจุบัน บริษัทฯ มีโรงผลิตก๊าซอยู่แล้ว 1 แห่ง ที่ อ.แม่แตง จ.เชียงใหม่ ส่วนการขยายโครงการที่เหลืออีก 17 โครงการนั้น อยู่ระหว่างแผนการศึกษาในการลงทุน
“UAC ตั้งเป้าการขยายโครงการ CBG จำนวน 20 แห่ง ในภาคเหนือ และอีสาน โดยจะแบ่งเป็นการลงทุนของบริษัทเอง 10 แห่ง และ Partner อีก 10 แห่ง ภายในปี 2558 ซึ่งการขยายโครงการ CBG ทั้ง 20 โครงการนี้จะสามารถสร้างรายได้ข้ามาไม่ต่ำกว่า 1,000 ล้านบาท” นายกิตติกล่าว
อย่างไรก็ตาม สำหรับประมาณการรายได้ในปีนี้ บริษัทฯ ยังคงตั้งเป้าอัตราการเติบโตของรายได้ เพิ่มขึ้น 20-30% โดยจะแบ่งเป็นสัดส่วนรายได้จากธุรกิจเทรดดิ้ง (ธุรกิจหลัก) ประมาณ 75% ขณะที่รายได้จากธุรกิจพลังงาน จะอยู่ที่ 25% ซึ่งมาจากการรับรู้รายได้จากโครงการ PPP ที่ จ.สุโขทัย ประมาณ 120-150 ล้านบาท และรายได้จากโรงงานผลิตก๊าซชีวภาพอัดความดันสูง(CBG) ประมาณ 30-50 ล้านบาทจากนี้
นายกิตติ ยังได้กล่าวถึงกรณีการลงนามสัญญาร่วมทุนกับบริษัท SEBIGAS (S.p.A) ผู้นำด้าน Bio-gas จากประเทศอิตาลี โดยจัดตั้งบริษัทย่อยร่วมทุน ภายใต้ชื่อ “UAC Energy” ว่า การร่วมทุนครั้งนี้จะเพิ่มรายได้ และโอกาสทางธุรกิจให้แก่บริษัทอย่างต่อเนื่อง โดย SEBIGAS (S.p.A) จะนำเอาเทคโนโลยีการผลิต Bio-gas การนำ Bio-gas ไปผลิตกระแสไฟฟ้า รวมถึงประสบการณ์ในการก่อสร้างโรงงาน การเดินเครื่องโรงงาน การบำรุงรักษา (O&M Service) มาใช้ในบริษัทร่วมทุนนี้ ซึ่งจะทำให้แนวโน้มธุรกิจมีอัตราการเติบโตอย่างมีศักยภาพมากขึ้น
สำหรับโครงการแรกที่บริษัทร่วมทุนจะรับดำเนินการ คือ โครงการ CBG แม่แตง 2 ของบริษัทฯ ที่อำเภอแม่แตง จังหวัดเชียงใหม่ และโครงการ CBG ของบริษัทฯ ในพื้นที่ภาคเหนือที่ได้รับเงินสนับสนุนจากสำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน กระทรวงพลังงาน (สนพ.) 9 โครงการ ขณะเดียวกัน ปัจจุบันก็มีผู้สนใจที่จะให้รับเหมาก่อสร้างโรงงานก๊าซชีวภาพอีก 6-7 โรง ซึ่งคาดว่าจะมีความชัดเจนภายในเดือนกันยายนนี้
“การร่วมทุนกับบริษัท SEBIGAS ผ่านการจัดตั้งบริษัทลูก ในการดำเนินธุรกิจเกี่ยวกับการรับเหมาออกแบบ และก่อสร้างโรงงานก๊าซชีวภาพ การให้บริการเดินเครื่องและบำรุงรักษา (O&M Service) ครอบคลุมประเทศภาคพื้นเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดย UAC Energy และ SEBIGAS (S.p.A) จะถือหุ้น 49% และมีบุคคลถือในส่วนที่เหลืออีก 2%” นายกิตติกล่าว