ผู้นำระดับสูงของจีนจัดการประชุมใหญ่ครั้งที่สามของคณะกรรมการกลางแห่งพรรคคอมมิวนิสต์จีน ซึ่งเป็นการประชุมลับระหว่างวันที่ 9-12 พ.ย. เพื่อกำหนดแนวทางเศรษฐกิจจีนสำหรับช่วง 10 ปีข้างหน้า
ประธานาธิบดีสี จิ้นผิงกล่าวว่า การประชุมครั้งนี้จะมีการกำหนดมาตรการปฏิรูปแบบเบ็ดเสร็จ ขณะที่ผู้เชี่ยวชาญคาดว่า จะมีการกำหนด โครงร่างสำหรับนโยบายปฏิรูปในเรื่องแนวทางการปฏิรูปเศรษฐกิจจีนเพื่อลดการพึ่งพาการลงทุนและการส่งออก โดยหันมาเน้นการบริโภคและภาคบริการมากยิ่งขึ้น
ต่อไปนี้เป็นมาตรการปฏิรูปที่คาดว่าจะมีการหารือกันในการประชุมครั้งนี้:-
*การปฏิรูปการเงิน
คาดกันว่าผู้นำจีนจะผลักดันการปฏิรูป โดยปล่อยให้ตลาดเข้ามามีบทบาทมากยิ่งขึ้นในการกำหนดอัตราดอกเบี้ย โดยผู้นำจีนอาจประกาศเปิดตัวบัตรเงินฝากแบบเปลี่ยนมือได้ (NCD) และโครงการประกันเงินฝากธนาคารรวมทั้งลดการควบคุมของภาครัฐที่มีต่ออัตราดอกเบี้ยเงินฝากของธนาคารพาณิชย์
มาตรการปฏิรูปในครั้งนี้อาจรวมถึงการให้ภาคเอกชนเข้ามามีส่วนร่วมมากยิ่งขึ้นในภาคธนาคาร และการใช้มาตรการสนับสนุนการให้เงินทุนอุดหนุนโดยตรงแก่ภาคเศรษฐกิจที่แท้จริง โดยผ่านทางการขยายขนาดตลาดทุน และการขยายโครงการนำรองสำหรับการแปลงสินทรัพย์เครดิตเป็นหลักทรัพย์
นอกจากนี้ รัฐบาลจีนอาจย้ำถึงภาระผูกพันในการผ่อนคลายข้อจำกัดสำหรับการเคลื่อนย้ายเงินทุนเข้าและออกจากจีน และภาระผูกพันในการเปิดเสรีค่าเงินหยวน
*การปฏิรูปการคลังและภาษี
มีโอกาสน้อยมากที่จีนจะปฏิรูประบบการคลังและภาษีในทันที และไม่มีแนวโน้มที่จีนจะดำเนินการปรับเปลี่ยนครั้งใหญ่ในเรื่องการจัดสรรรายได้ระหว่างรัฐบาลกลางและรัฐบาลท้องถิ่น แต่มีความเป็นไปได้ที่จะมีการประกาศ ปรับภาษีทรัพยากรถ่านหิน เพื่อจัดเก็บภาษีถ่านหินตามมูลค่าการขาย แทนที่จะจัดเก็บตามปริมาณการขาย โดยการปรับเปลี่ยนนี้จะสอดคล้องกับแนวทางการจัดเก็บภาษีน้ำมันดิบและก๊าซธรรมชาติ
ส่วนมาตรการภาษีอื่นๆที่มีแนวโน้มจะมีการพิจารณาประกอบด้วย:-
--เริ่มต้นจัดเก็บภาษีบริโภคต่อสินค้าที่ก่อให้เกิดมลพิษทางสิ่งแวดล้อมอย่างร้ายแรง และสินค้าที่ส่งผลให้มีการใช้ทรัพยากรอย่างสิ้นเปลือง รวมทั้งจัดเก็บภาษีนี้ต่อสินค้าฟุ่มเฟือยบางประเภทด้วย
--ขยายมาตรการนำร่องสำหรับภาษีอสังหาริมทรัพย์ โดยให้จัดเก็บภาษี ดังกล่าวในเมืองใหญ่แห่งอื่นๆด้วย นอกเหนือจากเมืองเซี่ยงไฮ้และฉงชิ่ง โดยปัจจุบันนี้มีการจัดเก็บภาษีดังกล่าวแบบรายปีกับเจ้าของบ้านขนาดใหญ่และเจ้าของบ้านราคาแพงในเมืองใหญ่สองเมืองนี้
--ขยายโครงการนำร่องภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT) เพื่อให้ครอบคลุมภาคเศรษฐกิจมากยิ่งขึ้นในช่วงหลายปีข้างหน้า โดยปัจจุบันนี้มีการจัดเก็บภาษีดังกล่าวในภาคคมนาคมและภาคบริการสมัยใหม่บางภาค เช่น ภาคเทคโนโลยีสารสนเทศ (ไอที), โลจิสติกส์, การแพร่สัญญาณ และภาพยนตร์
รัฐบาลกลางอาจแบกรับต้นทุนบางส่วนของรัฐบาลระดับท้องถิ่นในส่วนของสวัสดิการสังคม, การแพทย์, การกำกับดูแลคุณภาพของอาหารและยา และบริการสาธารณะอื่นๆ
คาดกันว่ารัฐบาลจีนจะขยายการจำหน่ายพันธบัตรเทศบาลอย่างค่อยเป็นค่อยไป เพื่อแก้ไขระบบที่ยุ่งเหยิงในการระดมทุนของรัฐบาลระดับท้องถิ่น
*การปฏิรูปที่ดิน
มีแนวโน้มว่าที่ประชุมครั้งนี้จะผลักดันกระบวนการในการจดทะเบียนและการยืนยันสิทธิในการใช้ที่ดิน เพื่อเปิดทางสำหรับการโอนที่ดินในอนาคต โดยมาตรการปฏิรูปที่ดินถือเป็นเครื่องมือสำคัญในการกระตุ้นให้ประชาชนโยกย้ายไปอยู่ในเขตเมืองใหญ่ อย่างไรก็ดี การปฏิรูปที่ดินถือเป็นมาตรการที่ซับซ้อนและก่อให้เกิดความคิดเห็นขัดแย้ง ดังนั้น จึงไม่มีแนวโน้มที่จีนจะประสบความคืบหน้าครั้งใหญ่ในเรื่องดังกล่าว ในการประชุมครั้งนี้
*การปฏิรูประบบการจดทะเบียนครัวเรือน (HUKOU)
การปฏิรูประบบการจดทะเบียนครัวเรือนจะยังคงดำเนินต่อไปตามแผน ยุทธศาสตร์เดิม โดยระบบการจดทะเบียนนี้เชื่อมโยงช่องทางในการขอรับบริการทางสังคม เช่น การรักษาพยาบาลและการศึกษา เข้ากับสถานที่ ซึ่งประชาชนดังกล่าวจดทะเบียน โดยจะมีการผ่อนคลายระบบนี้ต่อไปในเมืองขนาดเล็กและเมืองขนาดกลาง แต่ไม่มีแนวโน้มว่าจะมีการผ่อนคลายระบบนี้ในเมืองขนาดใหญ่
*การลดอำนาจของรัฐบาล
คาดกันว่าผู้นำจีนจะหารือเรื่องการลดขนาดรัฐบาลลงต่อไป และหารือการกระจายอำนาจของรัฐบาลออกจากระบบรวมศูนย์เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจและให้ตลาดเข้ามามีบทบาทมากยิ่งขึ้น
*ความมั่นคงทางสังคม
ที่ประชุมครั้งนี้อาจหารือการขยายการจ่ายเงินบำนาญภาครัฐให้แก่ผู้อพยพและผู้ที่มีกิจการส่วนตัว และการจ่ายเงินบำนาญในพื้นที่ชนบทมากยิ่งขึ้น นอกจากนี้ ที่ประชุมอาจหารือเรื่องการจ่ายเงินประกันการ เจ็บป่วยร้ายแรงให้แก่ประชาชนจำนวนมากยิ่งขึ้น, การให้รัฐบาลจ่ายเงินสมทบมากยิ่งขึ้นแก่ระบบประกันสุขภาพขั้นพื้นฐานในชนบท และ การส่งเสริมให้บริษัทเอกชนเข้ามาประกอบธุรกิจการแพทย์มากยิ่งขึ้น
*รัฐวิสาหกิจ
ผู้เชี่ยวชาญไม่คาดว่าที่ประชุมครั้งนี้จะกำหนดแผนการอย่างละเอียดในการปฏิรูปรัฐวิสาหกิจ (SOE) เนื่องจากกลุ่มผลประโยชน์จะต่อต้านเรื่องนี้ โดยการแปรรูปกิจการของรัฐเป็นเอกชนจะไม่อยู่ในวาระการ ประชุม
หน่วยงานควบคุมกฎระเบียบสินทรัพย์ของรัฐบาลจีนระบุว่า ทางหน่วยงานยังคงอยู่ในระหว่างการวางแผนปฏิรูปรัฐวิสาหกิจ และอาจจะเปิดเผยขั้นตอนการปฏิรูปหลังการประชุมครั้งนี้
มีแนวโน้มว่ารัฐวิสาหกิจอาจได้รับผลกระทบในทางอ้อมจากมาตรการปฏิรูปในภาคเศรษฐกิจที่เกี่ยวข้อง เช่น การปฏิรูปการกำหนดราคาพลังงานและทรัพยากร หรือการปรับลดมาตรการกีดกันภาคเอกชนจากการเข้ามามีส่วนร่วมในธุรกิจการเงิน, การแพทย์และโครงสร้างพื้นฐาน
(ข่าวจากสำนักข่าว รอยเตอร์)
ทวีสุข ธรรมศักดิ์
Executive Vice President.
RHB-OSK Securities (Thailand)PLC
RHB Banking Group
ประธานาธิบดีสี จิ้นผิงกล่าวว่า การประชุมครั้งนี้จะมีการกำหนดมาตรการปฏิรูปแบบเบ็ดเสร็จ ขณะที่ผู้เชี่ยวชาญคาดว่า จะมีการกำหนด โครงร่างสำหรับนโยบายปฏิรูปในเรื่องแนวทางการปฏิรูปเศรษฐกิจจีนเพื่อลดการพึ่งพาการลงทุนและการส่งออก โดยหันมาเน้นการบริโภคและภาคบริการมากยิ่งขึ้น
ต่อไปนี้เป็นมาตรการปฏิรูปที่คาดว่าจะมีการหารือกันในการประชุมครั้งนี้:-
*การปฏิรูปการเงิน
คาดกันว่าผู้นำจีนจะผลักดันการปฏิรูป โดยปล่อยให้ตลาดเข้ามามีบทบาทมากยิ่งขึ้นในการกำหนดอัตราดอกเบี้ย โดยผู้นำจีนอาจประกาศเปิดตัวบัตรเงินฝากแบบเปลี่ยนมือได้ (NCD) และโครงการประกันเงินฝากธนาคารรวมทั้งลดการควบคุมของภาครัฐที่มีต่ออัตราดอกเบี้ยเงินฝากของธนาคารพาณิชย์
มาตรการปฏิรูปในครั้งนี้อาจรวมถึงการให้ภาคเอกชนเข้ามามีส่วนร่วมมากยิ่งขึ้นในภาคธนาคาร และการใช้มาตรการสนับสนุนการให้เงินทุนอุดหนุนโดยตรงแก่ภาคเศรษฐกิจที่แท้จริง โดยผ่านทางการขยายขนาดตลาดทุน และการขยายโครงการนำรองสำหรับการแปลงสินทรัพย์เครดิตเป็นหลักทรัพย์
นอกจากนี้ รัฐบาลจีนอาจย้ำถึงภาระผูกพันในการผ่อนคลายข้อจำกัดสำหรับการเคลื่อนย้ายเงินทุนเข้าและออกจากจีน และภาระผูกพันในการเปิดเสรีค่าเงินหยวน
*การปฏิรูปการคลังและภาษี
มีโอกาสน้อยมากที่จีนจะปฏิรูประบบการคลังและภาษีในทันที และไม่มีแนวโน้มที่จีนจะดำเนินการปรับเปลี่ยนครั้งใหญ่ในเรื่องการจัดสรรรายได้ระหว่างรัฐบาลกลางและรัฐบาลท้องถิ่น แต่มีความเป็นไปได้ที่จะมีการประกาศ ปรับภาษีทรัพยากรถ่านหิน เพื่อจัดเก็บภาษีถ่านหินตามมูลค่าการขาย แทนที่จะจัดเก็บตามปริมาณการขาย โดยการปรับเปลี่ยนนี้จะสอดคล้องกับแนวทางการจัดเก็บภาษีน้ำมันดิบและก๊าซธรรมชาติ
ส่วนมาตรการภาษีอื่นๆที่มีแนวโน้มจะมีการพิจารณาประกอบด้วย:-
--เริ่มต้นจัดเก็บภาษีบริโภคต่อสินค้าที่ก่อให้เกิดมลพิษทางสิ่งแวดล้อมอย่างร้ายแรง และสินค้าที่ส่งผลให้มีการใช้ทรัพยากรอย่างสิ้นเปลือง รวมทั้งจัดเก็บภาษีนี้ต่อสินค้าฟุ่มเฟือยบางประเภทด้วย
--ขยายมาตรการนำร่องสำหรับภาษีอสังหาริมทรัพย์ โดยให้จัดเก็บภาษี ดังกล่าวในเมืองใหญ่แห่งอื่นๆด้วย นอกเหนือจากเมืองเซี่ยงไฮ้และฉงชิ่ง โดยปัจจุบันนี้มีการจัดเก็บภาษีดังกล่าวแบบรายปีกับเจ้าของบ้านขนาดใหญ่และเจ้าของบ้านราคาแพงในเมืองใหญ่สองเมืองนี้
--ขยายโครงการนำร่องภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT) เพื่อให้ครอบคลุมภาคเศรษฐกิจมากยิ่งขึ้นในช่วงหลายปีข้างหน้า โดยปัจจุบันนี้มีการจัดเก็บภาษีดังกล่าวในภาคคมนาคมและภาคบริการสมัยใหม่บางภาค เช่น ภาคเทคโนโลยีสารสนเทศ (ไอที), โลจิสติกส์, การแพร่สัญญาณ และภาพยนตร์
รัฐบาลกลางอาจแบกรับต้นทุนบางส่วนของรัฐบาลระดับท้องถิ่นในส่วนของสวัสดิการสังคม, การแพทย์, การกำกับดูแลคุณภาพของอาหารและยา และบริการสาธารณะอื่นๆ
คาดกันว่ารัฐบาลจีนจะขยายการจำหน่ายพันธบัตรเทศบาลอย่างค่อยเป็นค่อยไป เพื่อแก้ไขระบบที่ยุ่งเหยิงในการระดมทุนของรัฐบาลระดับท้องถิ่น
*การปฏิรูปที่ดิน
มีแนวโน้มว่าที่ประชุมครั้งนี้จะผลักดันกระบวนการในการจดทะเบียนและการยืนยันสิทธิในการใช้ที่ดิน เพื่อเปิดทางสำหรับการโอนที่ดินในอนาคต โดยมาตรการปฏิรูปที่ดินถือเป็นเครื่องมือสำคัญในการกระตุ้นให้ประชาชนโยกย้ายไปอยู่ในเขตเมืองใหญ่ อย่างไรก็ดี การปฏิรูปที่ดินถือเป็นมาตรการที่ซับซ้อนและก่อให้เกิดความคิดเห็นขัดแย้ง ดังนั้น จึงไม่มีแนวโน้มที่จีนจะประสบความคืบหน้าครั้งใหญ่ในเรื่องดังกล่าว ในการประชุมครั้งนี้
*การปฏิรูประบบการจดทะเบียนครัวเรือน (HUKOU)
การปฏิรูประบบการจดทะเบียนครัวเรือนจะยังคงดำเนินต่อไปตามแผน ยุทธศาสตร์เดิม โดยระบบการจดทะเบียนนี้เชื่อมโยงช่องทางในการขอรับบริการทางสังคม เช่น การรักษาพยาบาลและการศึกษา เข้ากับสถานที่ ซึ่งประชาชนดังกล่าวจดทะเบียน โดยจะมีการผ่อนคลายระบบนี้ต่อไปในเมืองขนาดเล็กและเมืองขนาดกลาง แต่ไม่มีแนวโน้มว่าจะมีการผ่อนคลายระบบนี้ในเมืองขนาดใหญ่
*การลดอำนาจของรัฐบาล
คาดกันว่าผู้นำจีนจะหารือเรื่องการลดขนาดรัฐบาลลงต่อไป และหารือการกระจายอำนาจของรัฐบาลออกจากระบบรวมศูนย์เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจและให้ตลาดเข้ามามีบทบาทมากยิ่งขึ้น
*ความมั่นคงทางสังคม
ที่ประชุมครั้งนี้อาจหารือการขยายการจ่ายเงินบำนาญภาครัฐให้แก่ผู้อพยพและผู้ที่มีกิจการส่วนตัว และการจ่ายเงินบำนาญในพื้นที่ชนบทมากยิ่งขึ้น นอกจากนี้ ที่ประชุมอาจหารือเรื่องการจ่ายเงินประกันการ เจ็บป่วยร้ายแรงให้แก่ประชาชนจำนวนมากยิ่งขึ้น, การให้รัฐบาลจ่ายเงินสมทบมากยิ่งขึ้นแก่ระบบประกันสุขภาพขั้นพื้นฐานในชนบท และ การส่งเสริมให้บริษัทเอกชนเข้ามาประกอบธุรกิจการแพทย์มากยิ่งขึ้น
*รัฐวิสาหกิจ
ผู้เชี่ยวชาญไม่คาดว่าที่ประชุมครั้งนี้จะกำหนดแผนการอย่างละเอียดในการปฏิรูปรัฐวิสาหกิจ (SOE) เนื่องจากกลุ่มผลประโยชน์จะต่อต้านเรื่องนี้ โดยการแปรรูปกิจการของรัฐเป็นเอกชนจะไม่อยู่ในวาระการ ประชุม
หน่วยงานควบคุมกฎระเบียบสินทรัพย์ของรัฐบาลจีนระบุว่า ทางหน่วยงานยังคงอยู่ในระหว่างการวางแผนปฏิรูปรัฐวิสาหกิจ และอาจจะเปิดเผยขั้นตอนการปฏิรูปหลังการประชุมครั้งนี้
มีแนวโน้มว่ารัฐวิสาหกิจอาจได้รับผลกระทบในทางอ้อมจากมาตรการปฏิรูปในภาคเศรษฐกิจที่เกี่ยวข้อง เช่น การปฏิรูปการกำหนดราคาพลังงานและทรัพยากร หรือการปรับลดมาตรการกีดกันภาคเอกชนจากการเข้ามามีส่วนร่วมในธุรกิจการเงิน, การแพทย์และโครงสร้างพื้นฐาน
(ข่าวจากสำนักข่าว รอยเตอร์)
ทวีสุข ธรรมศักดิ์
Executive Vice President.
RHB-OSK Securities (Thailand)PLC
RHB Banking Group
