นายกฯ เรียกผู้ประกอบการอุตสาหกรรมท่องเที่ยว รายงานสถานการณ์การท่องเที่ยวในช่วง 2 เดือนสุดท้าย เผยนักท่องเที่ยวในปีนี้อยู่ที่ 26.3 ล้านคน สร้างรายได้ 1.8 ล้านล้านบาท ทัวร์จีนเยอะสุด กลุ่มธุรกิจท่องเที่ยว ยันการชุมนุมยังไม่กระทบท่องเที่ยว แม้ 16 ประเทศ ประกาศห้ามเข้าพื้นที่ชุมนุม โฆษกรัฐบาลเผยหวั่นกระทบความเชื่อมั่น เตือนระวังข่าวลือด้านลบ
วันนี้ (12 พ.ย.) ที่ห้องสีเขียว ตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล เมื่อเวลา 14.00 น. น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม ได้เชิญผู้ประกอบการด้านอุตสาหกรรมท่องเที่ยว ประกอบด้วย นางปิยะมาน เตชะไพบูลย์ ประธานสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยว นางพรทิพย์ หิรัญเกตุ รองประธานสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยว และเลขาธิการสมาคมส่งเสริมการประชุมนานาชาติ นายศิษฎิวัชร ชีวรัตนพร นายกสมาคมไทยธุรกิจการท่องเที่ยว และนายยุทธชัย สุนทรรัตนเวช นายกสมาคมท่องเที่ยวภายในประเทศ เข้ารายงานสถานการณ์การท่องเที่ยวในช่วง 2 เดือนสุดท้ายของปีนี้
นางปิยะมาน เตชะไพบูลย์ ประธานสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยว รายงานสถานการณ์ท่องเที่ยวว่าจากการตรวจสอบพบว่าสถานการณ์การชุมนุมยังไม่กระทบกับนักท่องเที่ยวต่างประเทศมากนัก เพราะมีทั้งสายการบิน ยอดการจอง ยังคงเข้ามาอย่างต่อเนื่อง และถ้าเหตุการณ์ในวงจำกัดจะทำให้นักท่องเที่ยวในปีนี้อยู่ที่ 26.3 ล้านคน สร้างรายได้ 1.8 ล้านล้านบาท ทั้งนี้ได้ขอบคุณนายกรัฐมนตรีที่เป็นห่วงอุตสาหกรรมท่องเที่ยว และสนับสนุนแก้ไขปัญหาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวมาโดยตลอด ไม่ว่าจะเป็นการช่วยผลักดันโครงการรถไฟสายอันดามัน การติดตามแก้ปัญหาเรื่องมาเฟียในภูเก็ต
นางพรทิพย์ หิรัญเกตุ รองประธานสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยว และเลขาธิการสมาคมส่งเสริมการประชุมนานาชาติ พบว่านักท่องเที่ยวในกลุ่มยุโรปยังไม่ตก และยังมีกลุ่มประชุมที่จะเข้ามาประเทศไทยอย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้นักท่องเที่ยวต่างชาติสอบถามเข้ามาบ้าง แต่เมื่อพบว่าไม่มีอะไรรุนแรง อยู่ในวงจำกัด ก็เห็นว่าไม่เป็นไร กลัวอย่างเดียวคือการปิดสนามบินเท่านั้น
นายศิษฎิวัชร ชีวรัตนพร นายกสมาคมไทยธุรกิจการท่องเที่ยว กล่าวว่า ปีนี้เป็นปีทองของนักท่องเที่ยวเข้าไทย มีนักท่องเที่ยวสอบถามบ้าง แต่ยังไม่มีการยกเลิกการจอง ขอเพียงไม่ให้รุนแรง การท่องเที่ยวเติบโตกว่า 20% สูงกว่าที่คาดไว้ที่ 13-15% โดยตลาดจีนเติบโตอย่างรวดเร็วมาก แต่อาจจะชะลอไปบ้างหลังจากจีนออกมาตรการเข้มงวดด้านการท่องเที่ยว
นายยุทธชัย สุนทรรัตนเวช นายกสมาคมท่องเที่ยวภายในประเทศ กล่าวว่าภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัวทำให้คนไทยชะลอการท่องเที่ยวในประเทศ ขณะเดียวกันอยากให้มีการขยายมาตรการจูงใจด้านภาษีให้กว้างขวางมากขึ้น เพื่อช่วยกระตุ้นการท่องเที่ยว เช่น การลดหย่อนภาษีถ้าซื้อทัวร์ท่องเที่ยวในประเทศ รวมถึงการกระตุ้นให้ออกคูปองให้ผู้เกษียณอายุท่องเที่ยวในประเทศมากขึ้น
นายธีรัตถ์ รัตนเสวี โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงว่า คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติตามที่กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เสนอจัดทำและลงนามหนังสือแสดงเจตจำนงระหว่างราชอาณาจักรไทย กับสหภาพยุโรปว่าด้วยความร่วมมือด้านการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน ทั้งนี้ หากก่อนลงนามมีความจำเป็นต้องปรับปรุงแก้ไขร่างหนังสือแสดงเจตจำนงฯ ในส่วนที่ไม่ใช่สาระสำคัญให้ กก.พิจารณาดำเนินการในเรื่องนั้นๆ แทนคณะรัฐมนตรี โดยไม่ต้องนำเสนอคณะรัฐมนตรี เพื่อพิจารณาอีกครั้ง ให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เป็นผู้ลงนามในหนังสือแสดงเจตจำนงฯ (โดยระบุตำแหน่ง) ในโอกาสการเยือนไทยของนาย Antonio Tajani รองประธานคณะกรรมาธิการยุโรป และกรรมาธิการด้านอุตสาหกรรมและกิจการวิสาหกิจและคณะ ในวันที่ 16 พ.ย. 2556
โดยหนังสือแสดงเจตจำนงฯ มีสาระสำคัญ ดังนี้ 1.แลกเปลี่ยนข้อมูลการท่องเที่ยวของทั้งสองฝ่ายด้านการบริการการท่องเที่ยว การพัฒนาการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน และการแข่งขันด้านการท่องเที่ยว 2.แลกเปลี่ยนข้อมูลแนวปฏิบัติที่เป็นเลิศในการพัฒนาการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืนของหน่วยงานด้านการท่องเที่ยวของทั้งสองฝ่ายและผู้ที่มีส่วนได้ส่วนเสีย รวมถึงฝ่ายวิชาการด้านการอนุรักษ์และส่งเสริมมรดกทางวัฒนธรรมและธรรมชาติ การลงทุนขนาดกลางและขนาดย่อม การฝึกอบรม การปรับปรุงการบริการด้านการท่องเที่ยว และ 3.หนังสือแสดงเจตจำนงฉบับนี้ไม่มีเจตนาจะก่อให้เกิดสิทธิหรือพันธกรณีภายใต้กฎหมายระหว่างประเทศ
นายธีรัตถ์ ยังเปิดเผยว่า นายกฯไม่อยากให้ภาคธุรกิจได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์การชุมนุม จึงได้เชิญผู้ประกอบการเข้ามาช่วยสร้างความเชื่อมั่นให้กับธุรกิจท่องเที่ยว โดยนายกฯย้ำว่าภาครัฐตั้งมั่นอยู่ในการใช้กรอบของกฎหมายดูแลพี่น้องประชาชนให้ปลอดภัย ขอให้เจ้าหน้าที่ที่ดูแลประชาชนไม่ใช้กำลังความรุนแรง ทั้งนี้นายกฯระบุด้วยว่าอยากเปิดเวทีการพูดคุย รับฟังปัญหาจากทุกอุตสาหกรรม ทำเนียบรัฐบาลพร้อมเปิดประตูรับฟังความคิดจากภาคเอกชนให้เข้ามาร่วมกันแก้ปัญหา อยากให้เอกชนระมัดระวังข่าวลือที่กระทบต่อภาคการท่องเที่ยว เพื่อสร้างความมั่นใจ และเพียงแค่ขอให้เสนอความจริง ไม่จำเป็นต้องบอกชอบรัฐบาลก็ได้