ท่ามกลางกระแสฟีเวอร์ท่องเที่ยวไทยที่ดึงดูดเอานักท่องเที่ยวต่างชาติจากหลายประเทศ สร้างความคึกคักทางเศรษฐกิจพร้อมทั้งชื่อเสียงให้กับประเทศ ทว่าในกลุ่มนักท่องเที่ยวชาวต่างชาตินั้น นักท่องเที่ยวจากประเทศจีนกลับมีภาพลักษณ์ที่ไม่ดีที่หลายคนมองว่า เต็มไปด้วยความวุ่นวายและไม่มีมารยาท
ทำให้คำว่า “ทัวร์จีนลง” กลายเป็นคำที่ให้ภาพของกลุ่มคนที่วุ่นวายและจะมาสร้างความเดือดร้อน เป็นที่น่ารังเกียจของหลายๆ คน
ภาพลักษณ์ที่ไม่ดีของนักท่องเที่ยวจีนไม่ใช่มีแต่ในประเทศไทยเท่านั้น หากแต่ในหลายๆประเทศก็มีการพูดถึงและเป็นที่รู้กันดี และสิ่งนี้ประเทศจีนเองก็เห็นถึงความสำคัญจึงเป็นจุดเริ่มต้นนำไปสู่การปฏิวัตินักท่องเที่ยวจีน!
ออกกฎหมายท่องเที่ยว
ปัญหาภาพลักษณ์ที่ไม่ดีของทัวร์จีนถือเป็นปัญหาอย่างหนึ่งซึ่งเป็นที่รับรู้กันของทั้งประเทศไทยและในระดับสากลทั่วโลก โดยฮู๋ มู่ ฉ่วย อาจารย์ประจำภาควิชาท่องเที่ยว มหาวิทยาลัยอู่ฮั่น(Wuhan university)เผยถึงปัญหานี้ว่า เป็นปัญหาที่หลายฝ่ายเล็งเห็นและพยายามดำเนินการแก้ไขกันอยู่
“นักท่องเที่ยวที่ไปเที่ยวต่างประเทศ บางครั้งจะส่งเสียงดัง จีนก็พยายามจะแก้ไขภาพลักษณ์นี้ให้ดีขึ้นด้วย และนี่คือคณะทัวร์จากจีนคณะแรกที่เข้าร่วมโครงการ”
เขาเผยว่า รู้สึกภูมิใจอย่างยิ่งที่มาในฐานะเป็นลูกทัวร์ที่เที่ยวในประเทศไทยอย่างมีมารยาท โดยมองว่าการท่องเที่ยวครั้งนี้น่าจะประสบผลสำเร็จอย่างดี
ทั้งนี้ รายละเอียดของโครงการนั้น ลูกทัวร์ในโครงการจำเป็นต้องผ่านการประชุมเกี่ยวกับความรู้ในเรื่องของประเพณีและวัฒนธรรมของประเทศไทยก่อนที่จะมาเที่ยวเป็นเวลาถึง 2 วันด้วยกัน
“โครงการนี้เป็นผลมาจากที่ประเทศจีนจะมีกสนออกกฎหมายในวันที่ 1 ตุลาคม 2556 ที่ว่าด้วยการท่องเที่ยวซึ่งจะมีบอกว่าเวลานักท่องเที่ยวจีนไปเที่ยวต่างประเทศก็ควรจะเคารพกฎหมายและประเพณีของเขา ประเทศไทยเราก็จะทำอย่างนี้ด้วย คือเคารพประเพณีของประเทศไทย เวลาไปเที่ยวต่างๆ จะดูแลรักษาโบราณสถานไม่ทำลาย เวลาไปเที่ยวที่ไหนก็จะมีระเบียบ”
ในกลุ่มทัวร์กลุ่มนี้แม้จะเป็นกลุ่มใหญ่ที่มากันถึง 3 คันรถทัวร์ แต่หากมองในภาพรวมแล้วก็ยังเป็นเพียงจุดเริ่มต้น หากแต่เป็นจุดเริ่มต้นที่น่าจับตา
เล่อ หว่อย หลิน อาสาสมัครดูแลนักท่องเที่ยวจีนซึ่งมาร่วมทัวร์ครั้งนี้โดยรับหน้าที่เป็นอาสาสมัครดูแลไม่ให้ลูกทัวร์ในคณะแสดงพฤติกรรมที่เสียมารยาท เขาเผยว่า รู้สึกภูมิกับการได้มีส่วนร่วมกับโครงการดังกล่าว
“ผมไม่ใช่เจ้าหน้าที่ ไม่ใช่ไกด์เป็นแค่อาสาสมัคร ผมเห้นประกาศเกี่ยวกับโครงการนี้ครั้งแรกตอนอ่านหนังสือพิมพ์ เห็นประกาศรับสมัครอาสาสมัครมาช่วยติดตามคณะทัวร์ ผมก็เลยสมัครมาโดยหน้าที่ของอาสาสมัครนั้นก็คือ ช่วยดูว่าลูกทัวร์จะทำอะไรที่ไม่เหมาะสมหรือเปล่า ถ้าใครทำก็จะเข้าไปช่วยแก้ อย่างเช่นใครเดินๆ อยู่เอาขยะทิ้งไว้ที่ถนน ผมก็จะเดินไปเก็บแล้วใส่ถังขยะ ถ้ามีใครไปเขียนหนังสือที่โบราณสถานผมก็จะเข้าไปห้ามด้วย”
ความแตกต่างทางวัฒนธรรม
การท่องเที่ยวประเทศไทยถือว่าบูมมากในประเทศจีน จากความสัมพันธ์อันดีที่มีต่อกันมาอย่างยาวนาน มีชาวจีนมากมายเข้ามาตั้งรกรากในประเทศไทย นอกจากนี้สภาพแวดล้อมหลายอย่างก็ทำให้คนจีนรู้สึกคุ้นเคยทำให้มีชาวจีนมากมายเข้ามาเที่ยวในเมืองไทย
ซั่ว หยาง (Zuo Yang) นักข่าวจาก Wuhan evening newspaper หนังสือพิมพ์ในเมืองอู่ฮั่นเผยว่า ในแต่ละวันมีไฟลต์บินตรงจากเมืองอู่ฮั่นถึงกรุงเทพฯมากถึง 4 ไฟลต์ด้วยกัน บอกได้ว่าในหนึ่งวันมีนักท่องเที่ยวจากจีนมาเที่ยวประเทศไทยหลายร้อยคนเลยทีเดียว
“ผมมองว่าประเทศจีนกับประเทศไทยนั้นมีความสัมพันธ์อันดีต่อกันมาตั้งแต่สมัยโบราณ แล้วที่ไทยก็มีหลายๆอย่าง มีบรรยากาศที่ไม่ค่อยต่างกับประเทศจีนมากนัก พอมาที่นี่แล้วจะรู้สึกคุ้นเคยและชอบ”
นอกจากนี้ สื่ออย่างภาพยนต์หรือละครจากประเทศไทยก็ไปดังในประเทศจีนหลายต่อหลายเรื่องอีกด้วย เขามองว่า สิ่งนี้ก็มีส่วนทำให้คนจีนอยากมาเห็นประเทศไทยด้วยตาของตัวเองดูสักครั้ง
“ในช่องทีวีก็มีหลายเรื่องที่ดังมากๆ คนจีนหลังจากได้ดูหนังดูละครก็อยากจะมาดูเมืองไทยว่า เป็นแบบไหนยังไงบ้างเลยมาเที่ยวและจริงๆ ตั๋วเครื่องบินก็ถูกมากด้วย ไม่กี่พันบาทเท่านั้น”
โดยโครงการนี้เขาเผยว่าเริ่มต้นที่เมืองอู่ฮั่นเป็นเมืองแรกซึ่งได้รับการสนับสนุนจากหลายฝ่ายที่เห็นปัญหานี้
“รัฐบาลจีนก็สนใจ การท่องเที่ยวของเมืองอู่ฮั่นเองก็สนใจร่วมมือส่งเสริม ดังนั้น หากถามว่าต่อไปทัวร์จีนจะปรับปรุงพฤติกรรมได้ทั้งหมดมั้ย? ผมคิดว่าน่าจะทำได้ครับ เพราะหลายฝ่ายก็ร่วมมือกันอยู่”
ทั้งนี้ ปัญหาที่เกิดขึ้น เขามองว่ามาจากความแตกต่างทางวัฒนธรรมของ 2 ประเทศที่นักท่องเที่ยวจากประเทศจีนไม่ค่อยได้รู้จักประเพณีวัฒนธรรมของประเทศที่ตัวเองไปเที่ยวมากพอ
“เขามาเที่ยวต่างประเทศบางครั้งจะทำตัวเหมือนอยู่ในประเทศตัวเอง ก็จะไม่เข้ากับประเพณีทำให้คนภายนอกมองว่ามารยาทไม่ค่อยดี แต่จริงๆ มันเกิดจากความแตกต่างทางวัฒนธรรมมากกว่า จีนก็จะส่งเสริมให้นักท่องเที่ยวเขาศึกษาประเพณีและวัฒนธรรมของคนไทยก่อน รู้จักประเพณีของประเทศที่เขาจะเดินทางไปก่อนเพื่อแก้ไขปัญหานี้”
แม้ตอนนี้ปฏิวัติทัวร์จีนจะเป็นเพียงจุดเริ่มต้น หากแต่การยอมรับปัญหาที่เกิดขึ้นของตนเองและลงมือแก้ไขก็ถือเป็นเรื่องดีที่รอวันจะเห็นผลต่อไปในวันข้างหน้า
โดยASTV ผู้จัดการ LIVE ได้รับความร่วมมือจาก Zuo Yang , Wuhan evening newspaper