อูลริค ซาเกา ผู้อำนวยการธนาคารโลก (เวิลด์แบงก์) ประจำเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ระบุว่า ในแต่ละประเทศย่อมมีความแตกต่างทางการเมือง สถานการณ์ของไทยตอนนี้คิดว่าไม่ใช่ความเสี่ยงสำคัญ เพราะการประท้วงไม่เห็นด้วยทางการเมืองเป็นการแสดงออกทางประชาธิปไตย และเป็นเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็น แต่จากอดีตที่ผ่านมา ต่อให้มีการประท้วงทางการเมืองเกิดขึ้น ภาคเอกชนยังแข็งแกร่ง สามารถรับมือกับสถานการณ์การเมืองที่เกิดขึ้น และเป็นตัวช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจต่อไปได้ และครั้งนี้คิดว่าประชาชนไทยจะรับมือกับปัญหาและผ่านพ้นปัญหาไปได้ด้วยดี
ยอดปล่อยสินเชื่อบ้านมือสองของออสเตรเลียเดือนก.ย. เพิ่มขึ้น 4.4% มาอยู่ที่ระดับ 51,928 ราย จากระดับ 49,733 รายในเดือนก่อนหน้า โดยยอดปล่อยสินเชื่อที่เพิ่มขึ้นดังกล่าวสะท้อนถึงผลดีของการคงอัตราดอกเบี้ยจำนอง และการจ้างงานที่เพิ่มขึ้น
ยอดปล่อยกู้ใหม่สกุลเงินหยวนของจีนในเดือนต.ค.มีมูลค่า 5.061 แสนล้านหยวน เพิ่มขึ้น 700 ล้านหยวน จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ส่วนปริมาณเงินหมุนเวียนในระบบ M2 ซึ่งครอบคลุมเงินสดหมุนเวียนและเงินฝากทั้งหมด เพิ่มขึ้น 14.3% เทียบรายปี สู่ระดับ 107.02 ล้านล้านหยวน
ยอดขายรถยนต์ของจีนเดือนต.ค. เพิ่มขึ้น 24% สู่ระดับ 1.61 ล้านคัน โดยได้รับแรงหนุนจากการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจ และความต้องการรถยนต์แบรนด์ญี่ปุ่นที่สูงขึ้น เป็นสัญญาณบ่งบอกว่า เศรษฐกิจจีนกำลังเติบโตขึ้นในช่วงไตรมาสสุดท้ายของปี
ยอดส่งออกสินค้าภาคไอซีทีของเกาหลีใต้เดือนต.ค.เพิ่มขึ้น 11.6% จากปีก่อนหน้า สู่ระดับ 1.623 หมื่นล้านดอลลาร์ เนื่องจากความต้องการชิปและสมาร์ทโฟนที่ผลิตโดยเกาหลีใต้ปรับตัวสูงขึ้น
จำนวนบริษัทล้มละลายในญี่ปุ่นเดือนต.ค.ลดลง 7.3% จากปีก่อนหน้านี้ สู่ระดับ 959 แห่ง ซึ่งต่ำที่สุดเป็นประวัติการณ์ในรอบ 23 ปี โดยภาคธุรกิจเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารลดลงมากที่สุด ตามด้วยภาคอุตสาหกรรมค้าส่ง
ยอดส่งออกรถยนต์ของเกาหลีใต้เดือนต.ค.เพิ่มขึ้น 9% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน สู่ระดับ 280,609 คัน จากอุปสงค์ของรถยนต์หรูในประเทศและยอดการส่งออกที่เพิ่มขึ้น
ยอดขาดดุลการค้าของอินเดียเดือนต.ค. เพิ่มขึ้นสู่ระดับ 1.05 หมื่นล้านดอลลาร์จากระดับ 6.7 พันล้านดอลลาร์ในเดือนก.ย. อย่างไรก็ดี ยอดขาดดุลการค้าร่วงลงอย่างมากจากระดับปีที่แล้ว ซึ่งอยู่ที่ 2.0 หมื่นล้านดอลลาร์ จากยอดนำเข้าที่ลดลง 14.5% และการส่งออกที่เพิ่มขึ้น 13.47% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน เนื่องจากความต้องการที่แข็งแกร่งจากสหรัฐและยุโรปที่กลายมาเป็นตลาดส่งออกที่สำคัญของอินเดีย
นายนิวัฒน์ธำรง บุญทรงไพศาล รองนายกรัฐมนตรีและรมว.พาณิชย์ ประเมินว่ายอดการส่งออกของไทยในปี 2556 จะขยายตัวเพิ่มขึ้น 1% จากปีก่อน หรือจะมีมูลค่า 231,578 ล้านเหรียญสหรัฐ โดยคาดว่าการส่งออกจะเพิ่มขึ้นในกลุ่มอุตสาหกรรมหนัก เกษตรและอาหาร แฟชั่น สุขภาพและความงาม ส่วนการส่งออกในปี 2557 คาดว่าจะขยายตัวไม่ต่ำกว่า 5%
นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รองนายกรัฐมนตรีและรมว.คลัง เปิดเผยว่า ขณะนี้นักลงทุนต่างชาติยังเชื่อมั่นในเศรษฐกิจไทย แต่หากการเมืองไม่เป็นไปตามกรอบประชาธิปไตยก็จะมีผลกระทบต่อความเชื่อมั่นได้ และยังหวังว่าการท่องเที่ยวในช่วงไตรมาส 4/56 จะเป็นตัวหลักในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของไทยในปี 2556 รวมถึงมั่นใจว่าการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐาน 2.2 ล้านล้านบาทนั้น จะมีส่วนช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจไทยได้
SET Index ปิดที่ 1,405.91 จุด เพิ่มขึ้น 0.88 จุด (+0.06%) ด้วยมูลค่าซื้อขาย 32,278.83 ล้านบาท โดยช่วงเช้าหลังจากเปิดตลาดดัชนีเคลื่อนไหวในแดนลบ แต่หลังจากเปิดดัชนีในช่วงบ่ายเริ่มมีแรงซื้อกลับเข้ามาในหุ้นที่มีปัจจัยพื้นฐานดี อย่างไรก็ตาม นักลงทุนยังคงมีความกังวลในสถานการณ์ทางการเมือง ส่วนตลาดเพื่อนบ้านมีการปิดตลาดบวกลบสลับกันไป
อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลเปลี่ยนแปลงในช่วงระหว่าง 0.01% ถึง 0.10% มูลค่าซื้อขายรวม 70,491 ล้านบาท สำหรับวันนี้มีการประมูลพันธบัตรธนาคารแห่งประเทศไทยอายุ 3 เดือน และ 6 เดือน วงเงินรวม 56,000 ล้านบาท