เดอะบาร์บีคิวพลาซ่าจับมือร่วมทุนบริษัท การยา มันนา ผู้นำธุรกิจอาหารของอินโดนีเซีย อัดงบลงทุน 5 ปีแรกกว่า 138 ล้านบาท ตั้งบริษัทร่วมทุนลุยธุรกิจร้านอาหารบาร์บีคิวพลาซ่าในอินโดนีเซีย วางเป้ารายได้จากบาร์บีคิวพลาซ่า อินโดนีเซีย 320 ล้านบาท พร้อมควบตำแหน่งผู้นำตลาดปิ้งย่างอันดับ 1 ในอินโดนีเซียภายในปี 2561
นางชาตยา สุพรรณพงศ์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ บริษัท เดอะบาร์บีคิวพลาซ่า จำกัด เปิดเผยถึงการลงทุนในประเทศอินโดนีเซียว่ามีความเหมาะสม ทั้งนี้ เนื่องจากอำนาจในการใช้จ่ายต่อบุคคลมีอัตราสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง อีกทั้งประเทศอินโดนีเซียมีความพร้อมในด้านโครงสร้างพื้นฐานสำหรับการรองรับการขยายตัวสำหรับธุรกิจประเภทร้านอาหารได้เป็นอย่างดี กอปรกับในอนาคตจะมีห้างสรรพสินค้าชั้นนำเกิดขึ้นอีกหลายโครงการ ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญที่เอื้อต่อการขยายสาขาของร้านบาร์บีคิวพลาซ่า อินโดนีเซียให้ครอบคลุมทุกพื้นที่มากที่สุด
ทั้งนี้ ภายหลังการเซ็นสัญญาร่วมทุนจัดตั้งบริษัท เดอะบาร์บีคิวพลาซ่า จำกัด (PT. The Barbecue Plaza) เพื่อเปิดให้บริการร้านอาหารบาร์บีคิวพลาซ่าในประเทศอินโดนีเซียเมื่อต้นปี 2556 ระหว่างบริษัท เดอะบาร์บีคิวพลาซ่า จำกัด ผู้นำธุรกิจประเภทร้านอาหารปิ้งย่างของไทย และบริษัท การยา มันนา จำกัด ผู้บริหารงานธุรกิจร้านอาหารชั้นนำอย่าง แมนฮัตตัน ฟิช มาร์เกต อินโดนีเซีย (Manhattan Fish Market Indonesia) ด้วยเงินลงทุนสำหรับ 5 ปีแรกกว่า 138 ล้านบาท เดอะบาร์บีคิวพลาซ่าถือสัดส่วนหุ้นที่ 40% ในขณะที่ การยา มันนา ถือหุ้นในสัดส่วนที่เหลืออีก 60% โดยภายหลังจากที่ร้านอาหารบาร์บีคิวพลาซ่าสาขาแรกในประเทศอินโดนีเซีย ได้เปิดดำเนินการไปแล้วตั้งแต่เดือนกรกฎาคม 2556 เป็นต้นมา พบว่าบาร์บีคิวพลาซ่า อินโดนีเซีย ได้รับการตอบรับอย่างดีจากลูกค้าชาวอินโดนีเซียอย่างต่อเนื่อง
“เราคาดหวังที่จะเปิดร้านบาร์บีคิวพลาซ่าอย่างน้อย 3 สาขาต่อปี ซึ่งทำให้เราจะมีร้านบาร์บีคิวพลาซ่าในประเทศอินโดนีเซียถึง 15 สาขาภายในระยะเวลา 5 ปี นอกจากนั้น เรายังคาดหวังความสำเร็จในธุรกิจร้านอาหารประเภทปิ้งย่างเช่นเดียวกับประเทศไทย คือการเป็นผู้นำด้านตลาดร้านอาหารปิ้งย่างในประเทศอินโดนีเซียภายในปี 2561 พร้อมสร้างรายได้มูลค่า 320 ล้านบาทจากการดำเนินธุรกิจร้านบาร์บีคิวพลาซ่าในประเทศอินโดนีเซีย” นางชาตยากล่าว
ความสำเร็จของร้านบาร์บีคิวพลาซ่า อินโดนีเซีย จะเป็นอีกก้าวต่อสำคัญของเดอะบาร์บีคิวพลาซ่า ในการก้าวสู่ความเป็นแบรนด์ผู้นำร้านอาหารระดับอาเซียน (Regional Brand) ภายหลังจากที่เราประสบความสำเร็จกับร้านบาร์บีคิวพลาซ่าทั้ง 13 สาขาในประเทศมาเลเซีย
บริษัทฯ วางแผนเชิงรุกในการทำการตลาดด้วยการประชาสัมพันธ์ร้านผ่านสื่อประเภทต่างๆ โดยเฉพาะการใช้สื่อออนไลน์ในการแนะนำร้านบาร์บีคิวพลาซ่าให้คนในประเทศรู้จักในช่วงต้น ซึ่งการใช้สื่อออนไลน์นั้นถือเป็นช่องทางที่จะส่งข้อมูลตรงถึงกลุ่มลูกค้าเป้าหมายหลัก อันได้แก่กลุ่มวัยรุ่น กลุ่มผู้บริหารรุ่นใหม่ และกลุ่มครอบครัว ยังใช้กลยุทธ์เพื่อดึงดูดลูกค้าด้วยโปรโมชันที่น่าสนใจ และกระตุ้นให้ลูกค้าเดิมกลับมารับประทานอาหารที่ร้านอีกครั้งพร้อมกันกับเพิ่มจำนวนลูกค้าใหม่เข้าร้าน
นางชาตยา สุพรรณพงศ์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ บริษัท เดอะบาร์บีคิวพลาซ่า จำกัด เปิดเผยถึงการลงทุนในประเทศอินโดนีเซียว่ามีความเหมาะสม ทั้งนี้ เนื่องจากอำนาจในการใช้จ่ายต่อบุคคลมีอัตราสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง อีกทั้งประเทศอินโดนีเซียมีความพร้อมในด้านโครงสร้างพื้นฐานสำหรับการรองรับการขยายตัวสำหรับธุรกิจประเภทร้านอาหารได้เป็นอย่างดี กอปรกับในอนาคตจะมีห้างสรรพสินค้าชั้นนำเกิดขึ้นอีกหลายโครงการ ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญที่เอื้อต่อการขยายสาขาของร้านบาร์บีคิวพลาซ่า อินโดนีเซียให้ครอบคลุมทุกพื้นที่มากที่สุด
ทั้งนี้ ภายหลังการเซ็นสัญญาร่วมทุนจัดตั้งบริษัท เดอะบาร์บีคิวพลาซ่า จำกัด (PT. The Barbecue Plaza) เพื่อเปิดให้บริการร้านอาหารบาร์บีคิวพลาซ่าในประเทศอินโดนีเซียเมื่อต้นปี 2556 ระหว่างบริษัท เดอะบาร์บีคิวพลาซ่า จำกัด ผู้นำธุรกิจประเภทร้านอาหารปิ้งย่างของไทย และบริษัท การยา มันนา จำกัด ผู้บริหารงานธุรกิจร้านอาหารชั้นนำอย่าง แมนฮัตตัน ฟิช มาร์เกต อินโดนีเซีย (Manhattan Fish Market Indonesia) ด้วยเงินลงทุนสำหรับ 5 ปีแรกกว่า 138 ล้านบาท เดอะบาร์บีคิวพลาซ่าถือสัดส่วนหุ้นที่ 40% ในขณะที่ การยา มันนา ถือหุ้นในสัดส่วนที่เหลืออีก 60% โดยภายหลังจากที่ร้านอาหารบาร์บีคิวพลาซ่าสาขาแรกในประเทศอินโดนีเซีย ได้เปิดดำเนินการไปแล้วตั้งแต่เดือนกรกฎาคม 2556 เป็นต้นมา พบว่าบาร์บีคิวพลาซ่า อินโดนีเซีย ได้รับการตอบรับอย่างดีจากลูกค้าชาวอินโดนีเซียอย่างต่อเนื่อง
“เราคาดหวังที่จะเปิดร้านบาร์บีคิวพลาซ่าอย่างน้อย 3 สาขาต่อปี ซึ่งทำให้เราจะมีร้านบาร์บีคิวพลาซ่าในประเทศอินโดนีเซียถึง 15 สาขาภายในระยะเวลา 5 ปี นอกจากนั้น เรายังคาดหวังความสำเร็จในธุรกิจร้านอาหารประเภทปิ้งย่างเช่นเดียวกับประเทศไทย คือการเป็นผู้นำด้านตลาดร้านอาหารปิ้งย่างในประเทศอินโดนีเซียภายในปี 2561 พร้อมสร้างรายได้มูลค่า 320 ล้านบาทจากการดำเนินธุรกิจร้านบาร์บีคิวพลาซ่าในประเทศอินโดนีเซีย” นางชาตยากล่าว
ความสำเร็จของร้านบาร์บีคิวพลาซ่า อินโดนีเซีย จะเป็นอีกก้าวต่อสำคัญของเดอะบาร์บีคิวพลาซ่า ในการก้าวสู่ความเป็นแบรนด์ผู้นำร้านอาหารระดับอาเซียน (Regional Brand) ภายหลังจากที่เราประสบความสำเร็จกับร้านบาร์บีคิวพลาซ่าทั้ง 13 สาขาในประเทศมาเลเซีย
บริษัทฯ วางแผนเชิงรุกในการทำการตลาดด้วยการประชาสัมพันธ์ร้านผ่านสื่อประเภทต่างๆ โดยเฉพาะการใช้สื่อออนไลน์ในการแนะนำร้านบาร์บีคิวพลาซ่าให้คนในประเทศรู้จักในช่วงต้น ซึ่งการใช้สื่อออนไลน์นั้นถือเป็นช่องทางที่จะส่งข้อมูลตรงถึงกลุ่มลูกค้าเป้าหมายหลัก อันได้แก่กลุ่มวัยรุ่น กลุ่มผู้บริหารรุ่นใหม่ และกลุ่มครอบครัว ยังใช้กลยุทธ์เพื่อดึงดูดลูกค้าด้วยโปรโมชันที่น่าสนใจ และกระตุ้นให้ลูกค้าเดิมกลับมารับประทานอาหารที่ร้านอีกครั้งพร้อมกันกับเพิ่มจำนวนลูกค้าใหม่เข้าร้าน