xs
xsm
sm
md
lg

ซีพีจ่อทุ่ม 3 พันล้านตั้ง รง.อาหารในยุโรป-สหรัฐฯ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


ASTVผู้จัดการรายวัน - ซีพีจ่อตั้งโรงงานผลิตอาหารป้อนคนเอเชียในยุโรป และสหรัฐฯ เล็งตั้งโรงงานใน 3 ประเทศทั้งเบลเยียม อังกฤษและสหรัฐฯ คาดใช้เงินลงทุน 2-3 พันล้านบาท ขณะเดียวกันดูลู่ทางซื้อธุรกิจค้าปลีกเพื่อใช้เป็นช่องทางกระจายสินค้า ลั่นอนาคตนำบริษัทฯ เข้าตลาดหุ้นสหรัฐฯ

นายธนินท์ เจียรวนนท์ ประธานกรรมการและประธานคณะผู้บริหารเครือเจริญโภคภัณฑ์ (ซีพี) กล่าวภายหลังบริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) (ซีพีเอฟ) จัดงานฉลองครบรอบ 60 ปีบนเส้นทางในฐานะผู้นำธุรกิจอาหารสัตว์อันดับ 1 ของโลกภายใต้แนวคิดเคียงข้างเกษตรกรไทย ก้าวไกลสู่ครัวโลกว่า ซีพีเตรียมลงทุนตั้งโรงงานผลิตอาหารทันสมัยที่สหรัฐฯ และสหภาพยุโรป โดยเฉพาะเบลเยียม และอังกฤษ คาดว่าจะใช้เงินลงทุนประมาณ 2-3 พันล้านบาท โดยคาดว่าจะจับมือพันธมิตรท้องถิ่นตั้งโรงงานผลิตอาหารที่เบลเยียมก่อน เนื่องจากเป็นศูนย์กลางของยุโรป ส่วนที่อังกฤษนั้นบริษัทฯ จะลงทุนเองทั้ง 100%

การตั้งโรงงานผลิตอาหารสำเร็จรูปในสหรัฐฯ และยุโรป เนื่องจากวัตถุดิบบางอย่างมีราคาถูกกว่าเอเชียเพราะไม่นิยมรับประทาน เช่น ข้าวขาหมู ดังนั้นจึงเป็นโอกาสที่ดีในการตั้งโรงงานผลิตแล้วจำหน่ายให้คนเอเชียในยุโรป และสหรัฐฯ รวมทั้งการส่งออกมาจำหน่ายในฮ่องกง จีน สิงคโปร์ มาเก๊า เป็นต้น

นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังมองหาโอกาสที่จะซื้อธุรกิจค้าปลีกในยุโรป และสหรัฐฯ ด้วย เพื่อใช้เป็นเครือข่ายหรือช่องทางการกระจายสินค้าซีพีในตลาดยุโรปและสหรัฐฯ อันจะผลักดันให้บริษัทก้าวสู่การเป็นครัวของโลกได้เร็วขึ้น เพราะหากมัวแต่สร้างก็ช้าเกินไป แต่ถ้ายังไม่มีโอกาสก็จะเจรจานำสินค้าซีพีเข้าไปจำหน่ายแทน

“ในอนาคตเมื่อซีพีมีธุรกิจและโรงงานอาหารมนุษย์อยู่ในยุโรปและสหรัฐฯ ก็มีแผนจะนำธุรกิจเหล่านี้ระดมทุนในตลาดหุ้นสหรัฐฯ ด้วย แม้ว่าตลาดหลักของซีพีจะอยู่ในเอเชีย จีน และฮ่องกง ซึ่งคิดเป็นครึ่งหนึ่งของประชากรโลกก็ตาม”

นายธนินท์กล่าวยอมรับว่า เสียดายโอกาสในการเข้าไปซื้อห้างคาร์ฟูร์ของฝรั่งเศส ซึ่งเป็นห้างค้าปลีกขนาดใหญ่อันดับ 2 ของโลกในปีที่ผ่านมา เพราะตนเลือกซื้อบริษัทประกันภัยผิงอันในจีนแทน ซึ่งปัจจุบันมูลค่าสินทรัพย์ของคาร์ฟูร์ได้ปรับเพิ่มขึ้นเท่าตัวเศรษฐกิจยุโรปเริ่มนิ่ง และเศรษฐกิจสหรัฐฯ เริ่มดีขึ้น

ส่วนดีลที่บริษัทฯ เสนอซื้อห้างปาร์ก แอนด์ ชอป ซึ่งเป็นห้างสรรพสินค้าที่ใหญ่ที่สุดในฮ่องกง เพื่อใช้เป็นช่องทางในการจำหน่ายสินค้าของเครือที่ผลิตในไทย และจีนนั้น ปรากฏว่าราคาที่เสนอต่ำไปทำให้ดีลดังกล่าวยุติลง อย่างไรก็ตาม ซีพีก็ยังมีความสัมพันธ์ที่ดีอยู่ และเจรจานำสินค้าของเครือฯ เข้าไปจำหน่ายที่ปาร์ก แอนด์ ชอปแทน

ส่วนภาพรวมเศรษฐกิจในปีนี้เห็นว่าการชะลอตัวลงของจีดีพีนั้นเป็นเหตุการณ์ชั่วคราว เนื่องจากมีเงินทุนไหลออกกลับสู่สหรัฐฯ เป็นเงิน 6-7 หมื่นล้านเหรียญ ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจของอินเดียและอินโดนีเซียมาก ส่วนไทยก็สะเทือนบ้าง แต่เมื่อเศรษฐกิจสหรัฐฯ นิ่งเชื่อว่าเงินทุนจะไหลกลับมายังเอเชีย โดยคาดว่าต้นปีหน้าเศรษฐกิจไทยจะดีขึ้น
กำลังโหลดความคิดเห็น