ส่งออก ก.ย.ติดลบ 7.09% หลังเศรษฐกิจคู่ค้า ทั้งญี่ปุ่น อียู สหรัฐฯ อินเดีย ออสเตรเลีย ชะลอตัว ส่วนบางประเทศในแอฟริกามีปัญหาความไม่สงบ คาดเป้า 4% ปีนี้หมดหวัง หลัง 9 เดือนทำได้แค่ 0.05% ส่วนปีหน้ามีหวังฟื้นตัว
นางศรีรัตน์ รัษฐปานะ ปลัดกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า การส่งออกสินค้าไทยเดือน ก.ย. 2556 มีมูลค่า 1.93 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐ ลดลง 7.09% การนำเข้ามีมูลค่า 1.88 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐ ลดลง 5.23% ส่งผลให้ไทยเกินดุลการค้ามูลค่า 473.3 ล้านเหรียญสหรัฐ เมื่อแยกเป็นรายเซกเตอร์พบว่ากลุ่มสินค้าเฉพาะ เช่น ทองคำ สินแร่และเชื้อเพลิง การส่งออก ก.ย.มีมูลค่า 1,507 ล้านเหรียญสหรัฐ ติดลบ 50.3% ขณะที่กลุ่มสินค้าเรียลเซกเตอร์ หรือกลุ่มที่สามารถผลักดันการส่งออกได้มีมูลค่า 1.77 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้น 0.3%
สำหรับการส่งออกสินค้าไทยในช่วง 9 เดือน (ม.ค.-ก.ย.) 2556 มีมูลค่า 1.72 แสนล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้น 0.05% ส่วนการนำเข้า 9 เดือนมีมูลค่า 1.89 แสนล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้น 2.21% ส่งผลให้ไทยขาดดุลการค้าช่วง 9 เดือนมูลค่า 1.76 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐ หรือคิดเป็นรูปเงินบาทขาดดุลการค้า 5.95 แสนล้านบาท
สาเหตุที่ทำให้การส่งออกเดือน ก.ย.ชะลอตัว เป็นผลมาจากการส่งออกไปตลาดคู่ค้าชะลอตัว โดยเฉพาะตลาดญี่ปุ่น สหภาพยุโรป (อียู) สหรัฐฯ อินเดีย ออสเตรเลีย เนื่องจากเศรษฐกิจชะลอตัว ขณะที่แอฟริกายังมีปัญหาความไม่สงบ เช่น อียิปต์ ไนจีเรีย ลิเบีย และความตึงเครียดในซูดาน รวมทั้งแอฟริกาใต้ที่เศรษฐกิจถดถอย ขณะที่สินค้าเกษตร แม้จะส่งออกได้เพิ่มขึ้น แต่ราคาในตลาดโลกลดลง จึงทำให้มูลค่าลดลงตามไปด้วย
อย่างไรก็ตาม เป้าหมายการส่งออกปี 2556 กระทรวงพาณิชย์ยังไม่กำหนดเป้าหมายที่ชัดเจนว่าจะปรับเหลือเท่าไร ซึ่งจะมีการประเมินในวันที่ 11 พ.ย.นี้ที่จะมีการประชุมร่วมกับผู้ส่งออกและหน่วยงานต่างๆ รวมถึงเป้าหมายการส่งออกในปี 2557 และแผนยุทธศาสตร์ที่จะเร่งดำเนินการในปีหน้า โดยเป้าหมายที่ รมว.พาณิชย์มองว่าการส่งออกปีนี้จะเติบโตได้ 3-4% ก็จะพยายามทำอย่างเต็มที่ ส่วนการส่งออกในปี 2557 เชื่อว่าขยายตัวดีกว่าปีนี้แน่นอน ไม่ต่ำกว่า 5% ขึ้นไป
นางนันทวัลย์ ศกุนตนาค อธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ กล่าวว่า การส่งออกในช่วง 3 เดือนที่เหลือของปีนี้ หากจะผลักดันการส่งออกทั้งปีให้เติบโตได้ระดับ 4% จะต้องส่งออกแต่ละเดือนไม่ต่ำกว่า 2.2 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐเป็นอย่างต่ำ แต่หากส่งออกเฉลี่ยได้เดือนละ 2 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐ คาดว่าการส่งออกจะเติบโตที่ระดับ 1.3% เท่านั้น
สำหรับรายละเอียดการส่งออกเดือน ก.ย.พบว่า กลุ่มสินค้าเกษตรและอุตสาหกรรมเกษตรเพิ่มขึ้น 2.7% สินค้าส่งออกเพิ่มขึ้น เช่น ข้าว 8.7% ผลิตภัณฑ์มันสำปะหลัง 31.5% ไก่สดแช่แช็งและแปรรูป 7.5% ส่วนสินค้าที่ส่งออกลดลง เช่น ยางพารา ลด 4.1% กุ้งแช่แข็งและแปรรูปลด 23.6% เป็นต้น ส่วนสินค้าอุตสาหกรรมลดลง 9.1% สินค้าที่ส่งออกลดลง เช่น เครื่องใช้ไฟฟ้าลด 1.9% วัสดุก่อสร้างลด 36.6% อัญมณีและเครื่องประดับ 53.1% เป็นต้น
ขณะที่ตลาดส่งออกในเดือน ก.ย.พบว่า ตลาดหลักลดลง 5.9% ได้แก่ ญี่ปุ่นลด 13.6% สหรัฐฯ ลด 0.7% ส่วนอียู (15 ประเทศ) ลด 2.7% ตลาดศักยภาพสูง เพิ่ม 2.0% ตลาดที่ขยายตัวเพิ่ม เช่น อาเซียน 6.6% จีน 1.2% ส่วนตลาดขยายตัวลดลง เช่น อินเดีย 7.4% เกาหลีใต้ 12.7% ตลาดศักยภาพระดับรองลด 7.6% เช่น ทวีปออสเตรเลียลด 30.7% แอฟริกา 19.6% กลุ่มซีไอเอส (12 ประเทศ) รวมรัสเซีย ลด 32.1% ตลาดอื่นๆ ลด 81.8% เช่น สวิตเซอร์แลนด์ลด 88.3%
