xs
xsm
sm
md
lg

BCP สรุปคุ้มทุน “โซลาร์รูฟ” สิ้น ต.ค.นี้ หลังได้รับเลือกแค่ 25 ปั๊มก่อนลุยติดตั้ง

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


ASTVผู้จัดการรายวัน - บางจากฯ เร่งศึกษาความเหมาะสมและความคุ้มทุนในการติดตั้งโซลาร์รูฟท็อปในปั๊มที่ได้รับเลือก 25 แห่งจากที่ยื่นไป 107 แห่ง คาดว่าจะได้ข้อสรุปปลายเดือนนี้ หลังจากนั้นจะดำเนินการติดตั้งให้ทันกำหนด ยันผลตอบแทนลงทุนต่ำ 12% ส่วนโครงการก่อสร้างโซลาร์ฟาร์ม เฟส 3 ติดตามสถานการณ์น้ำในปราจีนฯ อย่างใกล้ชิด ยันไม่มีโครงการใดเจอพิษน้ำท่วม พร้อมทั้งศึกษาโอกาสลงทุนโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ในพม่าด้วย

นายพงษ์ชัย ชัยจิรวิวัฒน์ รักษาการรองกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายงานด้านธุรกิจการตลาด บริษัท บางจากปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน) (BCP) เปิดเผยว่า ตามที่บริษัทฯ ได้ยื่นขอขายไฟฟ้าจากการผลิตไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ที่ติดตั้งบนหลังคา (โซลาร์รูฟท็อป) จำนวน 107 แห่งนั้น ปรากฏว่าปั๊มน้ำมันบางจากที่ผ่านการคัดเลือกจากโครงการดังกล่าวเพียง 24-25 แห่ง ซึ่งเป็นปั๊มที่อยู่ในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑลกว่า 10 ปั๊ม คิดเป็นกำลังการผลิตไฟฟ้า 11-15 กิโลวัตต์/ปั๊ม ซึ่งขณะนี้บริษัทอยู่ระหว่างการศึกษารายละเอียดแต่ละปั๊มน้ำมันว่าเหมาะสมและคุ้มการลงทุนหรือไม่ คาดว่าจะได้ข้อสรุปปลายเดือนนี้ หลังจากนั้นจะเริ่มดำเนินการติดตั้งแผงโซลาร์เซลล์บนหลังคาปั๊มน้ำมันบางจากเพื่อให้ทันกำหนดการจ่ายไฟฟ้าในปลายปีนี้ โดยจะใช้เงินลงทุนในการติดตั้งโซลาร์รูฟท็อปแห่งละ 5 แสนบาท

สำหรับแผงโซลาร์เซลล์ที่ติดตั้งบนหลังคานั้นบางจากมีสำรองอยู่แล้ว เนื่องจากที่ผ่านมา บริษัทฯ มีการลงทุนก่อสร้างโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ถึง 3 เฟส คิดเป็นกำลังการผลิตรวม 118 เมกะวัตต์ โดยเฟสที่ 3 คาดว่าจะแล้วเสร็จในกลางปี 2557 ดังนั้นจึงไม่มีปัญหาบริหารจัดการด้านแผงโซลาร์เซลล์และผู้รับเหมาติดตั้ง

นายพงษ์ชัยกล่าวว่า การยื่นทำโซลาร์รูฟท็อปนี้เพื่อสนับสนุนนโยบายรัฐ ซึ่งบางจากฯ ก็ให้ความสำคัญด้านพลังงานทดแทนอยู่แล้ว นับเป็นการสร้างภาพลักษณ์ให้องค์กรมากกว่าการมุ่งเน้นหารายได้เสริม โดยยอมรับว่ารายได้จากธุรกิจโซลาร์รูฟท็อปไม่มากแค่ 2-3 ล้านบาท/ปี (จำนวน 25 ปั๊ม) เพราะแต่ละปั๊มติดตั้งโซลาร์รูฟท็อปผลิตไฟได้ไม่มาก ทำให้ผลตอบแทนการลงทุน (IRR) เพียงแค่ 12% เท่านั้น

อย่างไรก็ตาม หากรัฐมีการรับซื้อไฟจากโครงการโซลาร์รูฟท็อปเพิ่มเติม บางจากฯ ก็พร้อมที่จะสนับสนุนและยื่นเสนอขายไฟ โดยจะเชิญชวนดีลเลอร์บางจากเข้ามาร่วมในโครงการนี้ด้วย แต่เนื่องจากเป็นโครงการที่ให้ผลตอบแทนไม่สูงมากนัก ดีลเลอร์จะต้องเป็นผู้ลงทุนเองทั้งหมด โดยบางจากจะเป็นผู้ให้คำแนะนำช่วยเหลือในฐานะที่ลงทุนมาก่อน

นายสมชัย เตชะวณิช ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายงานด้านพัฒนาธุรกิจและยุทธศาสตร์องค์กร บริษัท บางจากปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน) กล่าวถึงความคืบหน้าโครงการก่อสร้างโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์เฟส 3 ว่า คงต้องติดตามสถานการณ์น้ำอย่างใกล้ชิดในพื้นที่ก่อสร้างโซลาร์ฟาร์มที่กบินทร์บุรี จังหวัดปราจีนบุรี กำลังการผลิต 16 เมกะวัตต์ แม้ว่าขณะนี้จะยังไม่ได้มีการก่อสร้างแต่อย่างใด โดยยืนยันว่าขณะนี้โครงการโซลาร์ฟาร์มทั้ง 3 เฟสจะไม่ประสบปัญหาน้ำท่วมเหมือนกับอดีต เพราะมีการทำคันกั้นน้ำป้องกันน้ำท่วมไว้ทุกโครงการอยู่แล้ว

โครงการก่อสร้างโซลาร์ฟาร์ม เฟส 3 มีหลายพื้นที่ดังนี้ คือ จังหวัดบุรีรัมย์ กำลังการผลิต 16 เมกะวัตต์ จังหวัดปราจีนบุรี มี 16 เมกะวัตต์ จังหวัดชัยภูมิและจังหวัดนครราชสีมามีกำลังการผลิตรวม 16 เมกะวัตต์เช่นกัน ใช้เงินลงทุนรวมประมาณ 4,500 ล้านบาท

ทั้งนี้ เมื่อโครงการโซลาร์ฟาร์มทั้ง 3 เฟสแล้วเสร็จจะสร้างรายได้ให้บางจากปีละ 2,800 ล้านบาท

นอกจากนี้ บางจากยังศึกษาโอกาสที่จะลงทุนโครงการผลิตไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ในประเทศเพื่อนบ้าน โดยเฉพาะพม่า เนื่องจากยังมีความต้องการใช้ไฟฟ้าจำนวนมาก ซึ่งไม่ได้ปิดกั้นการลงทุนตั้งโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์เฉพาะในไทย แต่ไม่มีนโยบายที่จะไปร่วมลงทุนโครงการโซลาร์ฟาร์มในญี่ปุ่น

นายสมชัยกล่าวต่อไปว่า บางจากยังมองหาโอกาสที่จะร่วมทุนหรือลงทุนสร้างโรงงานผลิตเอทานอลเพื่อสร้างความมั่นคงด้านเอทานอลเพื่อใช้ผสมในแก๊สโซฮอล์ จากปัจจุบันที่บริษัทฯ ได้ร่วมถือหุ้นในบริษัท อุบลไบโอเอทานอล อยู่ 21%

ทั้งนี้ บริษัทฯ มีความต้องการใช้เอทานอลเพิ่มขึ้นจาก 6-7 แสนลิตร/วันในปัจจุบัน เพิ่มเป็น 1 ล้านลิตร/วันในปี 2563
กำลังโหลดความคิดเห็น