xs
xsm
sm
md
lg

Good Morning News 17/10/56

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


John Boehner  ประธานสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐอเมริกา ระบุว่า ความขัดแย้งน่าจะใกล้ยุติแล้ว เพราะจะรับร่างกฎหมายของวุฒิสภาในการเลิก Shutdown หน่วยงานของรัฐบาลสหรัฐ โดยจะนำเรื่องเพิ่มเพดานหนี้ไปให้สภาผู้แทนโหวตและใช้เสียงส่วนใหญ่ของสมาชิกจากเดโมแครตช่วยดันให้ผ่าน ทำให้ดัชนีตลาดหุ้นในสหรัฐพุ่งขึ้นรับข่าวที่คาดว่าวุฒิสภาจะแถลงการประนี ประนอมกันเพื่อไม่ให้สหรัฐผิดนัดชำระหนี้ได้ทันเส้นตายคืนวันนี้ (17 ตุลาคม) โดยจะผ่านร่างกฎหมายเพื่อให้รัฐบาลสามารถเลิก Shutdown ไปชั่วคราวจนถึงวันที่ 15 มกราคม กับเพิ่มเพดานหนี้ให้ใช้ได้ถึง 7 กุมภาพันธ์ ปีหน้า อย่างไรก็ตาม ต้องจับตาดูว่าร่างกฎหมายของวุฒิสภาที่ว่านี้จะผ่านการลงคะแนนของสภาผู้แทนราษฎรได้จริงหรือไม่     
 Fitch Ratings ประกาศลดมุมมองต่ออันดับเครดิตของสหรัฐอเมริกาจาก “Stable”เป็น “Negative” หรือให้ “มุมมองในเชิงลบ” ไปแล้วเมื่อวานนี้ โดยระบุว่า การต่อรองที่ยืดเยื้อเรื่องการเพิ่มเพดานหนี้ทำให้เกิดความข้องใจในความน่าเชื่อถือ และในความเชื่อใจได้อย่างเต็มเปี่ยมว่าสหรัฐจะชำระหนี้คืนได้ ซึ่ง “ความเชื่อใจได้อย่างเต็มเปี่ยม” นี้เองที่เป็นเหตุให้อันดับเครดิตที่ AAA ของรัฐบาลสหรัฐยังคงอยู่ได้ทนทานกว่า AAA ของรัฐบาลประเทศอื่นๆ แม้สหรัฐจะมีระดับหนี้สาธารณะที่สูงกว่า และการต่อรองที่ยืดเยื้อครั้งนี้กำลังก่อให้เกิดความเสี่ยงต่อความเชื่อมั่นในบทบาทของดอลลาร์สหรัฐในการเป็นสกุลเงินสำรองของโลก
 รมช.ก.คลัง ของจีน เรียกร้องให้สหรัฐบรรลุข้อตกลงและขยายเพดานหนี้สาธารณะให้ได้ก่อนถึงกำหนดเส้นตายในวันที่ 17 ต.ค.เพื่อหลีกเลี่ยงการผิดนัดชำระหนี้ โดยกล่าวว่า สหรัฐต้องแบกรับความรับผิดชอบในฐานะที่มีเศรษฐกิจขนาดใหญ่ที่สุดของโลก และการเป็นเงินสกุลหลักในทุนสำรองระหว่างประเทศของทุกประเทศ แต่กลุ่ม Tea Party ของพรรครีพับลิกันกลับตอบโต้การกดดันจากจีนว่า จีนไม่ควรยุ่งกับกิจการภายในของสหรัฐ      
 พรรค CDU ของ Angela Merkel ไม่ประสบความสำเร็จในการเจรจากับพรรค Greens เพื่อให้เข้าร่วมจัดตั้งรัฐบาล  จากความเห็นที่แตกต่างกันในเรื่องนโยบายภาษีและนโยบายพลังงาน ทำให้ CDU ต้องหันไปเจรจากับพรรค SPD แทน เพื่อให้สามารถจัดตั้งรัฐบาลได้  
 ดัชนี CPI ของกลุ่มยูโรโซนเดือน ก.ย.ลดลงสู่ระดับ 1.1% จาก 1.3% ในเดือนก่อน เป็นระดับต่ำสุดในรอบ 3 ปี  อันเกิดจากดัชนี CPI ของสเปนกับอิตาลีที่ลดลงสู่ระดับ 0.5% และ 0.9% ขณะที่ ของเยอรนนีกับฝรั่งเศสคงที่อยู่ในระดับ 1.6% และ 1.0%      
 รัฐบาลอิตาลีหั่นงบรายจ่ายประจำปี 2557 ลง 3.5 พันล้านยูโร เพื่อลดการขาดดุลงบประมาณลงให้เหลือ 2.5% ต่อ GDP ขณะที่จะลดภาษีลงเพื่อช่วยให้ประชาชนมีรายได้สูงขึ้น อันจะช่วยกระตุ้นการบริโภคในประเทศ ทั้งนี้  รัฐบาลคาดว่าการลดภาษีจะช่วยให้ประชาชนมีรายได้เพิ่มขึ้นถึง 1.5 พันล้านยูโรในปีหน้า และ 5 พันล้านยูโรในปี 2558 
 รัฐบาลโปรตุเกสตั้งเป้าลดงบรายจ่ายประจำปี 2557 ลง 3.9 พันล้านยูโรเพื่อให้สอดคล้องกับเป้าการขาดดุลงบประมาณที่กำหนดโดยทรอยก้า ซึ่งจะทำให้การขาดดุลงบประมาณในปี 2557 ลดลงมาอยู่ที่ 5.9% ต่อ GDP ทั้งนี้  โปรตุเกสจะเน้นการตัดค่าใช้จ่ายจำนวนมากในงบประมาณปี 2557 แทนการขึ้นภาษี  
 ยอดขายรถยนต์ใหม่ของยุโรปเดือน ก.ย.เพิ่มขึ้น 5.5% มาอยู่ที่ 1.19 ล้านคันสูงสุดในรอบ 2 ปี จากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจยูโรโซน และนโยบายอุดหนุนผู้ซื้อรถยนต์ใหม่ของสเปนที่ทำให้ยอดขายรถยนต์ใหม่ในสเปนเพิ่มขึ้นถึง 29% ในเดือนก่อน
 จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานของอังกฤษเดือน ก.ย.ลดลง 41,700 ราย ลดลงมากที่สุดในรอบ 16 ปี บ่งชี้ว่าตลาดแรงงานของอังกฤษกำลังฟื้นตัว ซึ่งอาจทำให้ธนาคารกลางต้องเพิ่มอัตราดอกเบี้ยนโยบายเร็วกว่าที่คาด ทั้งนี้  อัตราว่างงานของอังกฤษเดือน มิ.ย.-ส.ค.ยังทรงตัวที่ 7.7%

SET Index ปิดที่ 1,464.38 จุด ลดลง 8.52 จุด (-0.58%) ด้วยมูลค่าซื้อขาย 41,198 ล้านบาท โดยดัชนีแกว่งตัวในกรอบแคบและปิดตัวในระดับต่ำสุดของวันจากแรงขายทำกำไรของนักลงทุนหลังจากที่ดัชนีปรับเพิ่มขึ้นมา 6 วันติดต่อกัน ทั้งนี้ นักลงทุนยังรอข้อสรุปจากการเจรจาปรับเพิ่มเพดานหนี้ของสหรัฐที่จะถึงเส้นตายในวันที่ 17 ต.ค.นี้        

 ไพบูลย์  นลินทรางกูร  ประธานกรรมการสภาธุรกิจตลาดทุนไทย (FETCO) ระบุว่าSET มีโอกาสแตะระดับ 1,650-1,700 จุดในปีหน้า จาก P/E ที่อยู่ในระดับต่ำและแนวโน้มผลกำไรของบริษัทจดทะเบียนที่ยังคงเติบโต โดยหุ้นกลุ่มส่งออกมีแนวโน้มเติบโตสูงตามภาวะเศรษฐกิจโลกที่ฟื้นตัวชัดเจนมากขึ้น สำหรับปัญหาการคลังของสหรัฐจะเป็นเพียงปัญหาชั่วคราวจากการเมืองเท่านั้น ซึ่งสถานการณ์จะเริ่มดีขึ้นและแก้ไขได้ในที่สุด    
 ดัชนี SHANGHAI ปิดที่ 2,193.07 จุด ลดลง 1.8% และลดลงมากที่สุดในรอบ 3 สัปดาห์หลังจาก JPMorgan ปรับลดระดับความน่าลงทุนของจีนลงไปสู่ Underweight จากความกังวลต่อภาวะเศรษฐกิจจีน และแนะนำให้ลดการลงทุนในหุ้นที่ได้รับประโยชน์จากการเปิด Shanghai Free Trade Zone หลังจากราคาหุ้นปรับสูงขึ้นมากกว่า 100% นับตั้งแต่วันที่ 22 ส.ค.
 
คณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) มีมติเป็นเอกฉันท์ให้คงอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ 2.5% เนื่องจากเศรษฐกิจไทยเริ่มทรงตัวและมีแนวโน้มจะฟื้นตัวขึ้นอย่างช้าๆ ขณะที่เศรษฐกิจโลกมีทิศทางปรับตัวดีขึ้น ทำให้อัตราดอกเบี้ยในปัจจุบันเหมาะสมต่อภาวะเศรษฐกิจ อนึ่ง กนง.ได้ปรับลดประมาณการเศรษฐกิจไทยในปีนี้ลง โดยจะแถลงรายละเอียดในวันที่ 25 ต.ค. พร้อมกับรายงานแนวโน้มเงินเฟ้อ
 อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลมีการเปลี่ยนแปลงในช่วง -0.02% ถึง 0.01% โดยเป็นการปรับลดลงในช่วงรุ่นอายุ 2 ถึง 5 ปี   ขณะที่รุ่นอายุยาวมีการปรับขึ้นเล็กน้อย +0.01%   สำหรับวันนี้ไม่มีการประมูลพันธบัตร
  
 

Warren Buffett ให้สัมภาษณ์ผ่าน CNBC วานนี้ว่า “นักการเมืองที่วอชิงตันกำลังเปลี่ยนการเจรจาเรื่องเพดานหนี้เป็นอาวุธทำลายล้างที่มุ่งเป้ามาที่คนอเมริกัน และการจะปล่อยเวลาไปจนพบว่าเราไม่มีเงินเหลืออยู่อีกแล้วก็เหมือนกับการใช้แก๊สพิษ”
 Jim Sinclair “หลังจากเกิดการล้างไพ่ครั้งใหญ่ (The Great Reset)  จะเกิดทุนสำรองเงินตราต่างประเทศขึ้นมาใหม่อันประกอบไปด้วยส่วนผสมของ ดอลลาร์สหรัฐ ยูโร เยน หยวน และทองคำ โดยทองคำจะเป็นฐานอันมั่นคงสำหรับระบบเงินตราในอนาคต”
 Peter Mickelberg “การล้างไพ่ครั้งใหญ่ (The Great Reset) ที่ Jim Sinclair ระบุ หมายถึง การสิ้นสุดยุคที่โลกใช้ดอลลาร์สหรัฐเป็นทุนสำรองเงินตราต่างประเทศ”
 William Bonner “ความมั่งคั่งที่แท้จริงไม่ได้มาจาก FED ไม่ได้มาจากรัฐบาล ไม่ได้มาจาก QE หรือการกระตุ้นทางเศรษฐกิจ ไม่ได้มาจากเดโมแครทหรือรีพับลิกันหรือมุ้ง Tea Party ในรีพับลิกัน ไม่ได้มาจากโอบามา หรือจากการตกลงเพิ่มเพดานหนี้กันได้ในสภาคองเกรส ความมั่งคั่งไม่ได้มีสูตรที่ซับซ้อนอะไรเลย เพราะความมั่งคั่งจะเกิดจากการทำงานหนักกว่าผู้อื่น จากการอดออม และการสร้างสรรนวัตกรรม ความมั่งคั่งจะเกิดขึ้นเมื่อคนทุ่มเททำงานหนัก อดออม และผลิตสิ่งที่คนต้องการซื้อ
กำลังโหลดความคิดเห็น