ธนาคารกลางจีน (PBOC) ดูเหมือนจะยืนยันความมุ่งมั่นที่จะปฏิรูปสกุลเงินด้วยการปล่อยให้ค่าเงินหยวนปรับตัวขึ้นสู่ระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ เมื่อเทียบกับดอลลาร์ แม้มีสัญญาณความอ่อนแอเกินคาดในด้านการส่งออกก็ตาม
PBOC กำหนดค่ากลางของหยวนในวันที่ 15 ตุลาคม 6.1412 หยวน/ดอลลาร์ โดยขยับลง 0.01 % จากค่ากลางของเมื่อวานนี้ที่ 6.1406 ซึ่งเป็นค่ากลางที่ระดับสูงเป็นประวัติการณ์
การปรับตัวของหยวนดังกล่าวเกิดขึ้นหลังมีการเปิดเผยข้อมูลของทางการจีนที่ระบุว่า การส่งออกของจีนลดลง 0.3% ในเดือนก.ย. เมื่อเทียบจากปีก่อน
ข้อมูลดังกล่าวตรงข้ามกับการคาดการณ์ว่าการส่งออกจะเพิ่มขึ้น 6% และ เป็นการปรับตัวย่ำแย่ที่สุดในรอบ 3 เดือน
เงินหยวนที่แข็งค่าขึ้นเป็นเป้าหมายสำคัญสำหรับผู้กำหนดนโยบายในการพยายามที่จะทำให้เศรษฐกิจลดการพึ่งพาอย่างมากต่อการส่งออกไปเป็นการขยายตัวที่นำโดยการบริโภคในประเทศมากขึ้น
แต่ผู้กำหนดนโยบายเผชิญกับการร้องเรียนของกลุ่มผู้ส่งออกที่ว่าการแข็งค่าของหยวนกำลังทำให้สินค้าของพวกเขาเสียเปรียบในตลาดต่างประเทศ แม้อุปสงค์ ของต่างชาติยังคงซบเซาก็ตาม
"ธุรกิจภายในประเทศหวังว่าเงินหยวนจะไม่ปรับตัวขึ้นอีก เพราะการส่งออกยังคงอ่อนแอ หากเงินหยวนยังคงแข็งค่าขึ้น ก็อาจจะส่งผลลบตามมา" เทรดเดอร์สกุลเงินของธนาคารยุโรปในเซี่ยงไฮ้กล่าว
นอกจากนี้ ความอ่อนแอเกินคาดของการส่งออกในเดือนก.ย.ทำให้เกิดความวิตกครั้งใหม่ว่า การขยายตัวทางเศรษฐกิจซึ่งลดลง 9 ใน 10 ไตรมาส อาจทรุดตัวลงอีกครั้งหลังจากเพิ่งแสดงสัญญาณการฟื้นตัว
การส่งออกเคยลดลงเกินคาดในเดือนมิ.ย. และนักวิเคราะห์กล่าวในเวลานั้นว่า เป็นผลส่วนหนึ่งมาจากการแข็งค่าของหยวน
นักเศรษฐศาสตร์บางรายคาดว่า PBOC จะถูกกดดันให้ปล่อยค่าเงินหยวน อ่อนลงอย่างน้อยที่สุดในเชิงสัญลักษณ์
ข้อมูลจากธนาคารเพื่อการชำระหนี้ระหว่างประเทศ (BIS) บ่งชี้ว่า หยวนปรับตัวขึ้นในแง่ของการถ่วงน้ำหนักการค้าในทุกๆเดือนด้วยนับตั้งแต่ เดือนก.ย. 2012 จนกระทั่งลดลงเล็กน้อยในเดือนส.ค. โดยข้อมูลของ BIS สำหรับเดือนก.ย.จะเปิดเผยในสัปดาห์นี้
แม้มีการร้องเรียนของกลุ่มผู้ส่งออก แต่นักปฏิรูปของจีนมองว่า การแข็งค่าของเงินหยวนเป็นปัจจัยที่สำคัญต่อการผลักดันจีนสู่รูปแบบเศรษฐกิจที่เน้นการผลิตสินค้าคุณภาพสูงสำหรับการบริโภคภายในประเทศ แทนการผลิตสินค้าส่งออกคุณภาพต่ำเพื่อแข่งขันด้านราคาเพียงอย่างเดียว
หยวนที่แข็งค่าจะทำให้การนำเข้าพลังงานสกุลดอลลาร์มีราคาถูกลง, ทำให้สามารถซื้อบริษัทต่างชาติในราคาที่ถูกลง และลดความจำเป็นที่จีนจะต้องรักษาทุนสำรองสกุลดอลลาร์ในระดับสูงซึ่งเป็นผลของการแทรกแซง ตลาดเป็นเวลาหลายปีเพื่อสกัดกั้นการแข็งค่าของเงินหยวน
นโยบายที่ผ่านมานี้ได้เผชิญกับการวิพากษ์วิจารณ์เพิ่มขึ้นในจีนขณะที่ดัชนีดอลลาร์ซึ่งวัดค่าดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินสำคัญได้ร่วงลง และความเชื่อมั่นของจีนในความสามารถทางการเมืองของสหรัฐที่จะชำระหนี้ได้รับผลกระทบจากภาวะชะงักงันในการเจรจางบประมาณของนักการเมืองสหรัฐ
หยวนที่แข็งค่าเป็นประโยชน์สำหรับโครงการเพิ่มการใช้เงินหยวน ในการค้าระหว่างประเทศ และลดความเสี่ยงด้านอัตราแลกเปลี่ยนสำหรับบริษัทจีน และลดความจำเป็นของจีนในการกักตุนดอลลาร์
อย่างไรก็ตาม การปรับโครงสร้างทางเศรษฐกิจของจีนยังอีกไกลกว่าจะแล้วเสร็จ โดยข้อมูลเศรษฐกิจจนถึงขณะนี้แทบไม่ได้บ่งชี้หลักฐานการเปลี่ยนแปลงของปัจจัยขับเคลื่อนการขยายตัวทางเศรษฐกิจ และธุรกิจที่เน้นการส่งออกยังคงเป็นบริษัทจ้างงานรายใหญ่
ส่วนหนึ่งของเหตุผลที่ทำให้ PBOC ไม่ได้ให้ความสำคัญกับตัวเลขการค้าก็เนื่องจากข้อมูลการค้าที่บ่งชี้ว่าการส่งออกลดลงจากปีก่อนนั้น อาจไม่ได้เป็นตัวที่ชี้วัดถึงปัญหาทางเศรษฐกิจที่สำคัญ
การส่งออกปรับตัวขึ้นเมื่อเทียบจากเดือนก่อน ขณะที่นายหลุยส์ กุยส์และนางทิฟฟานี ฉุย นักเศรษฐศาสตร์ของรอยัล แบงก์ออฟสก็อตแลนด์ เตือนว่า กระแสเงินร้อนที่ไหลเข้าในรูปของตัวเลขการค้านั้นได้บิดเบือนข้อมูลของปีก่อนหน้านี้
เงินร้อนดังกล่าวได้ทำให้ตัวเลขการส่งออกเพิ่มขึ้นตั้งแต่ปลายปี 2012 และต้นปี 2013 โดยสร้างฐานปรียบเทียบระดับสูงที่ไม่ถูกต้อง
"ภาวะการส่งออกไม่ได้เลวร้ายอย่างที่ข้อมูลระบุ โดยการส่งออกที่แท้จริงของเดือนก.ย.เพิ่มขึ้น 1.7% เมื่อเทียบกับปีก่อนหากลบตัวเลขที่บิดเบือนออกไป" นายกุยส์และนางฉุย ระบุ
ตลาดหยวนสปอตได้ปรับตัวในช่วงแคบๆนับตั้งแต่กลางเดือนส.ค. โดยอัตราแลกเปลี่ยนทรงตัวเป็นส่วนใหญ่ ขณะที่มีความผันผวนระหว่างวันเล็กน้อย
เทรดเดอร์กล่าวว่า สิ่งนี้สะท้อนถึงแรงซื้อดอลลาร์ตามปกติของธนาคารที่เป็นของรัฐ ซึ่งส่งผลสกัดกั้นการแข็งค่าของหยวน
นักวิเคราะห์จำนวนมากคาดว่า การซื้อดอลลาร์เป็นคำสั่งลับของธนาคารกลาง ซึ่งต้องการที่จะรักษาอัตราสปอตที่ทรงตัว แม้ขณะที่ทำการปรับเพิ่มค่ากลาง
นักวิเคราะห์บางรายกล่าวว่า รัฐบาลอาจกำลังกำหนดขั้นตอนสำหรับการขยายช่วงการซื้อขายอย่างเป็นทางการในแต่ละวันจากปัจจุบันที่ 1% จากค่ากลางเพื่อให้มีการปรับตัว 2 ทางมากขึ้น, เพิ่มความเสี่ยงและลดการเก็งกำไรสกุลเงิน อย่างรุนแรงโดยบริษัทของจีน
(ข่าวจากสำนักข่าว รอยเตอร์)
ทวีสุข ธรรมศักดิ์
Executive Vice President.
RHB-OSK Securities (Thailand)PLC
RHB Banking Group
PBOC กำหนดค่ากลางของหยวนในวันที่ 15 ตุลาคม 6.1412 หยวน/ดอลลาร์ โดยขยับลง 0.01 % จากค่ากลางของเมื่อวานนี้ที่ 6.1406 ซึ่งเป็นค่ากลางที่ระดับสูงเป็นประวัติการณ์
การปรับตัวของหยวนดังกล่าวเกิดขึ้นหลังมีการเปิดเผยข้อมูลของทางการจีนที่ระบุว่า การส่งออกของจีนลดลง 0.3% ในเดือนก.ย. เมื่อเทียบจากปีก่อน
ข้อมูลดังกล่าวตรงข้ามกับการคาดการณ์ว่าการส่งออกจะเพิ่มขึ้น 6% และ เป็นการปรับตัวย่ำแย่ที่สุดในรอบ 3 เดือน
เงินหยวนที่แข็งค่าขึ้นเป็นเป้าหมายสำคัญสำหรับผู้กำหนดนโยบายในการพยายามที่จะทำให้เศรษฐกิจลดการพึ่งพาอย่างมากต่อการส่งออกไปเป็นการขยายตัวที่นำโดยการบริโภคในประเทศมากขึ้น
แต่ผู้กำหนดนโยบายเผชิญกับการร้องเรียนของกลุ่มผู้ส่งออกที่ว่าการแข็งค่าของหยวนกำลังทำให้สินค้าของพวกเขาเสียเปรียบในตลาดต่างประเทศ แม้อุปสงค์ ของต่างชาติยังคงซบเซาก็ตาม
"ธุรกิจภายในประเทศหวังว่าเงินหยวนจะไม่ปรับตัวขึ้นอีก เพราะการส่งออกยังคงอ่อนแอ หากเงินหยวนยังคงแข็งค่าขึ้น ก็อาจจะส่งผลลบตามมา" เทรดเดอร์สกุลเงินของธนาคารยุโรปในเซี่ยงไฮ้กล่าว
นอกจากนี้ ความอ่อนแอเกินคาดของการส่งออกในเดือนก.ย.ทำให้เกิดความวิตกครั้งใหม่ว่า การขยายตัวทางเศรษฐกิจซึ่งลดลง 9 ใน 10 ไตรมาส อาจทรุดตัวลงอีกครั้งหลังจากเพิ่งแสดงสัญญาณการฟื้นตัว
การส่งออกเคยลดลงเกินคาดในเดือนมิ.ย. และนักวิเคราะห์กล่าวในเวลานั้นว่า เป็นผลส่วนหนึ่งมาจากการแข็งค่าของหยวน
นักเศรษฐศาสตร์บางรายคาดว่า PBOC จะถูกกดดันให้ปล่อยค่าเงินหยวน อ่อนลงอย่างน้อยที่สุดในเชิงสัญลักษณ์
ข้อมูลจากธนาคารเพื่อการชำระหนี้ระหว่างประเทศ (BIS) บ่งชี้ว่า หยวนปรับตัวขึ้นในแง่ของการถ่วงน้ำหนักการค้าในทุกๆเดือนด้วยนับตั้งแต่ เดือนก.ย. 2012 จนกระทั่งลดลงเล็กน้อยในเดือนส.ค. โดยข้อมูลของ BIS สำหรับเดือนก.ย.จะเปิดเผยในสัปดาห์นี้
แม้มีการร้องเรียนของกลุ่มผู้ส่งออก แต่นักปฏิรูปของจีนมองว่า การแข็งค่าของเงินหยวนเป็นปัจจัยที่สำคัญต่อการผลักดันจีนสู่รูปแบบเศรษฐกิจที่เน้นการผลิตสินค้าคุณภาพสูงสำหรับการบริโภคภายในประเทศ แทนการผลิตสินค้าส่งออกคุณภาพต่ำเพื่อแข่งขันด้านราคาเพียงอย่างเดียว
หยวนที่แข็งค่าจะทำให้การนำเข้าพลังงานสกุลดอลลาร์มีราคาถูกลง, ทำให้สามารถซื้อบริษัทต่างชาติในราคาที่ถูกลง และลดความจำเป็นที่จีนจะต้องรักษาทุนสำรองสกุลดอลลาร์ในระดับสูงซึ่งเป็นผลของการแทรกแซง ตลาดเป็นเวลาหลายปีเพื่อสกัดกั้นการแข็งค่าของเงินหยวน
นโยบายที่ผ่านมานี้ได้เผชิญกับการวิพากษ์วิจารณ์เพิ่มขึ้นในจีนขณะที่ดัชนีดอลลาร์ซึ่งวัดค่าดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินสำคัญได้ร่วงลง และความเชื่อมั่นของจีนในความสามารถทางการเมืองของสหรัฐที่จะชำระหนี้ได้รับผลกระทบจากภาวะชะงักงันในการเจรจางบประมาณของนักการเมืองสหรัฐ
หยวนที่แข็งค่าเป็นประโยชน์สำหรับโครงการเพิ่มการใช้เงินหยวน ในการค้าระหว่างประเทศ และลดความเสี่ยงด้านอัตราแลกเปลี่ยนสำหรับบริษัทจีน และลดความจำเป็นของจีนในการกักตุนดอลลาร์
อย่างไรก็ตาม การปรับโครงสร้างทางเศรษฐกิจของจีนยังอีกไกลกว่าจะแล้วเสร็จ โดยข้อมูลเศรษฐกิจจนถึงขณะนี้แทบไม่ได้บ่งชี้หลักฐานการเปลี่ยนแปลงของปัจจัยขับเคลื่อนการขยายตัวทางเศรษฐกิจ และธุรกิจที่เน้นการส่งออกยังคงเป็นบริษัทจ้างงานรายใหญ่
ส่วนหนึ่งของเหตุผลที่ทำให้ PBOC ไม่ได้ให้ความสำคัญกับตัวเลขการค้าก็เนื่องจากข้อมูลการค้าที่บ่งชี้ว่าการส่งออกลดลงจากปีก่อนนั้น อาจไม่ได้เป็นตัวที่ชี้วัดถึงปัญหาทางเศรษฐกิจที่สำคัญ
การส่งออกปรับตัวขึ้นเมื่อเทียบจากเดือนก่อน ขณะที่นายหลุยส์ กุยส์และนางทิฟฟานี ฉุย นักเศรษฐศาสตร์ของรอยัล แบงก์ออฟสก็อตแลนด์ เตือนว่า กระแสเงินร้อนที่ไหลเข้าในรูปของตัวเลขการค้านั้นได้บิดเบือนข้อมูลของปีก่อนหน้านี้
เงินร้อนดังกล่าวได้ทำให้ตัวเลขการส่งออกเพิ่มขึ้นตั้งแต่ปลายปี 2012 และต้นปี 2013 โดยสร้างฐานปรียบเทียบระดับสูงที่ไม่ถูกต้อง
"ภาวะการส่งออกไม่ได้เลวร้ายอย่างที่ข้อมูลระบุ โดยการส่งออกที่แท้จริงของเดือนก.ย.เพิ่มขึ้น 1.7% เมื่อเทียบกับปีก่อนหากลบตัวเลขที่บิดเบือนออกไป" นายกุยส์และนางฉุย ระบุ
ตลาดหยวนสปอตได้ปรับตัวในช่วงแคบๆนับตั้งแต่กลางเดือนส.ค. โดยอัตราแลกเปลี่ยนทรงตัวเป็นส่วนใหญ่ ขณะที่มีความผันผวนระหว่างวันเล็กน้อย
เทรดเดอร์กล่าวว่า สิ่งนี้สะท้อนถึงแรงซื้อดอลลาร์ตามปกติของธนาคารที่เป็นของรัฐ ซึ่งส่งผลสกัดกั้นการแข็งค่าของหยวน
นักวิเคราะห์จำนวนมากคาดว่า การซื้อดอลลาร์เป็นคำสั่งลับของธนาคารกลาง ซึ่งต้องการที่จะรักษาอัตราสปอตที่ทรงตัว แม้ขณะที่ทำการปรับเพิ่มค่ากลาง
นักวิเคราะห์บางรายกล่าวว่า รัฐบาลอาจกำลังกำหนดขั้นตอนสำหรับการขยายช่วงการซื้อขายอย่างเป็นทางการในแต่ละวันจากปัจจุบันที่ 1% จากค่ากลางเพื่อให้มีการปรับตัว 2 ทางมากขึ้น, เพิ่มความเสี่ยงและลดการเก็งกำไรสกุลเงิน อย่างรุนแรงโดยบริษัทของจีน
(ข่าวจากสำนักข่าว รอยเตอร์)
ทวีสุข ธรรมศักดิ์
Executive Vice President.
RHB-OSK Securities (Thailand)PLC
RHB Banking Group