“พงษ์ศักดิ์” อ้างคำพูด “ปลอดประสพ” ยืนยันว่าไม่มีการโอนเขื่อน “กฟผ.” เข้าสังกัดกระทรวงน้ำแต่อย่างใด เป็นการปล่อยข่าวลือสร้างกระแสชุมนุม ส่วนกรณีค่าเช่าที่ ปตท.กับ ร.ฟ.ท.นั้นให้คมนาคมเคลียร์กันเอง ก่อนหลุดปาก “ปตท.” พร้อมลงทุนหาที่ใหม่ถ้าแพงไป
นายพงษ์ศักดิ์ รักตพงศ์ไพศาล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน เปิดเผยหลังการประชุมคณะกรรมการนโยบายพลังงาน (กบง.) ว่า กรณีที่รัฐบาลมีนโยบายที่จะจัดตั้งกระทรวงน้ำนั้น ได้สอบถามนายปลอดประสพ สุรัสวดี รองนายกรัฐมนตรี และประธานคณะกรรมการบริหารจัดการน้ำ และอุทกภัย (กบอ.) กรณีที่จะต้องโอนย้ายเขื่อนของการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) เข้าสังกัดกระทรวงน้ำได้รับการชี้แจงว่าจะไม่มีการโอนย้ายแต่อย่างใด โดยหน่วยงานต่างๆ ก็ยังสังกัดเหมือนเดิมเพียงแต่กระทรวงน้ำจะเน้นการบริหารจัดการน้ำทั้งเรื่องปัญหาภัยแล้ง และอุทกภัยเป็นหลัก การที่ข่าวออกมาคาดว่าจะเป็นการปล่อยข่าวจากฝ่ายที่กำลังชุมนุมเพื่อสร้างกระแสมากกว่า
“เรื่องนี้ได้ชี้แจงกับสหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจ หรือ สร.กฟผ.แล้ว โดยยืนยันว่าจะไม่มีการโอนย้ายเขื่อนไปสังกัดกระทรวงน้ำหรือจะเอาไปแปรรูปอะไรใดๆ ทั้งนั้นทุกอย่างเหมือนเดิม เพราะจากการสอบถามคุณปลอดประสพยืนยันทุกอย่างเหมือนเดิม” นายพงษ์ศักดิ์กล่าว
นายพงษ์ศักดิ์ยังกล่าวถึงกรณีที่ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) ไม่เห็นด้วยในการจ่ายค่าเช่าที่การรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) เพื่อทำการสำนักงานใหญ่ ปตท.บริเวณถนนพหลโยธิน เขตจตุจักร กรุงเทพมหานคร หลังจากสัญญาสิ้นสุดวันที่ 31 มีนาคม 2556 อีก 30 ปี เป็นเงิน 1,792 ล้านบาทว่า เป็นเรื่องที่กระทรวงคมนาคมจะต้องหารือกับ ร.ฟ.ท.ในเรื่องนี้เองไม่เช่นนั้นจะเป็นการทำให้เครดิต ร.ฟ.ท.เสียหายได้ จึงไม่อยากให้เกิดการตอบโต้ผ่านสื่อ
ทั้งนี้ หากพิจารณาในแง่ของค่าเช่าจะถูกแพงตนเองก็คงไม่อยากให้เป็นเรื่องการเมืองเข้าไปยุ่ง แต่ก็ต้องคำนึงถึงภาพรวมธุรกิจด้วยเพราะ ปตท.เองก็พร้อมที่จะลงทุนหาพื้นที่ใหม่ได้ และหากค่าเช่าที่มากเกินไปก็จะทำให้กระทบหน่วยงานราชการโดยเฉพาะกระทรวงพลังงานที่ต้องจ่ายค่าเช่าเพิ่มก็เหมือนกระเป๋าซ้ายกับกระเป๋าขวา หน่วยงานรัฐวิสาหกิจเหมือนกันจึงควรจะทำความเข้าใจกันได้