“พาณิชย์”ยันไม่มีการนำเข้าข้าวโพดเลี้ยงสัตว์จากต่างประเทศ

“พาณิชย์” ยืนยันไม่มีการนำเข้าข้าวโพดเลี้ยงสัตว์จากต่างประเทศ เพื่อฉุดราคาข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ไทยตกต่ำ หลังเกษตรกรผู้ปลูกข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ชุมนุมเรียกร้องไม่ให้มีการนำเข้าข้าวโพดจากประเทศเพื่อนบ้าน

นายสุรศักดิ์ เรียงเครือ อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ เปิดเผยว่า ผลผลิตข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ที่จะออกสู่ตลาดในช่วงปลายปีนี้ (ตุลาคม –ธันวาคม 2556) คาดว่าจะมีผลผลิตออกสู่ตลาดประมาณกว่า 2.34 ล้านตันหรือร้อยละ 48 ของผลผลิตทั้งหมด ซึ่งมีปริมาณมากเพียงพอสำหรับใช้ในอุตสาหกรรมภายในประเทศ จึงไม่มีความจำเป็นที่จะต้องนำเข้าข้าวโพดเลี้ยงสัตว์หรือข้าวสาลีเพื่อใช้เลี้ยงสัตว์ทดแทนข้าวโพดจากต่างประเทศ

ทั้งนี้ ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์เป็นสินค้าเกษตรตามพันธกรณีความตกลงระหว่างประเทศ เช่น WTO , AFTA เป็นต้น ที่จะต้องมีการจัดระเบียบบริหารการนำเข้าเพื่อให้เกิดประสิทธิภาพ และไม่ให้เกิดผลกระทบรุนแรงต่อเกษตรกร

โดยการนำเข้าข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ภายใต้ WTO กำหนดให้องค์การคลังสินค้า (อคส.) เป็นผู้นำเข้าตามปริมาณในโควตา 54,700 ตันแต่เพียงผู้เดียว ซึ่งที่ผ่านมา อคส. ก็มิได้มีการนำเข้าภายใต้ WTO ผู้นำเข้าทั่วไปสามารถนำเข้านอกโควตาได้ แต่ต้องเสียภาษีสูงถึงร้อยละ 73 และเสียค่าธรรมเนียมพิเศษอีก 180 บาทต่อตัน จึงไม่มีการนำเข้าดังกล่าว

ส่วนการนำเข้าภายใต้ความตกลง AFTA องค์การคลังสินค้าสามารถนำเข้าข้าวโพดในอัตราภาษีนำเข้าร้อยละ 0 ระหว่างวันที่ 1 มกราคม – 31 ธันวาคม 2556 และต้องจัดทำแผนการสั่งซื้อให้สอดคล้องกับสถานการณ์ด้านการผลิต การตลาด ภาวะราคา และความต้องการใช้ เพื่อไม่ให้กระทบต่อราคาผลผลิตในประเทศ สำหรับผู้นำเข้าทั่วไปสามารถนำเข้าได้ตั้งแต่วันที่ 1 มีนาคม – 31 สิงหาคม 2556 ซึ่งเป็นช่วงที่ผลผลิตของไทยและประเทศเพื่อนบ้าน เช่น สปป.ลาว และ กัมพูชา ออกสู่ตลาดน้อย ดังนั้น จึงไม่น่ากระทบต่อเกษตรกรของไทย

นอกจากนี้ ยังได้กำหนดให้มีการขึ้นทะเบียนเป็นผู้นำเข้ากับกรมการค้าต่างประเทศเป็นรายปี และต้องมีหนังสือรับรองความปลอดภัยต่อชีวิตหรือสุขภาพของมนุษย์ สัตว์ หรือพืช (Phytosanitary Certification) จากประเทศต้นทาง รวมทั้งปฏิบัติตามข้อกำหนดมาตรฐานควบคุมการนำเข้าตาม พ.ร.บ. ควบคุมคุณภาพอาหารสัตว์ พ.ศ. 2525 อย่างเคร่งครัด อีกทั้งต้องนำเข้าทางด่านศุลกากรที่มีด่านตรวจพืชและด่านกักสัตว์ตามที่ระบุไว้เท่านั้น ทั้งนี้ภายหลังจากการนำเข้าแล้ว ผู้นำเข้าจะต้องรายงานการนำเข้าให้กรมการค้าต่างประเทศทราบภายใน 30 วัน

อย่างไรก็ตาม ในช่วงเวลานี้การนำเข้าข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ภายใต้ความตกลง AFTA สำหรับผู้นำเข้าทั่วไปได้สิ้นสุดลง ผลผลิตข้าวโพดเลี้ยงสัตว์จากประเทศเพื่อนบ้านจึงไม่สามารถเข้าสู่ตลาดภายในประเทศได้ ซึ่งหากตรวจพบว่ามีการลักลอบการนำเข้า กรมฯ จะดำเนินการลงโทษตามกฎหมายอย่างเข้มงวดในทันที และจะจัดตั้งคณะทำงานกำกับดูแลและติดตามการนำเข้าสินค้าข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ เพื่อสร้างความมั่นใจให้แก่เกษตรกรและผู้ประกอบการในการบริหารจัดการสินค้าไม่ให้เกิดปัญหาการลักลอบการนำเข้าข้าวโพดที่จะส่งผลกระทบต่อราคาข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ภายในประเทศ

นอกจากนี้ ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์เป็นสินค้าเกษตรที่สำคัญที่สามารถสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับเศรษฐกิจของประเทศ และจากปริมาณผลผลิตที่มีจำนวนมากในขณะนี้ หน่วยงานภาครัฐมีแนวทางที่จะผลักดันการส่งออกอีกทางหนึ่ง โดยมุ่งเน้นตลาดอาเซียน ซึ่งเป็นตลาดส่งออกที่สำคัญของไทย เช่น มาเลเซีย เวียดนาม อินโดนีเซีย ฟิลิปปินส์ และสิงคโปร์ เป็นต้น ทั้งนี้ คาดว่าประเทศคู่ค้าสำคัญของไทยดังกล่าว โดยเฉพาะมาเลเซีย และอินโดนีเซียยังคงมีความต้องการใช้ข้าวโพดในอุตสาหกรรมอาหารสัตว์มากขึ้น ซึ่งอาจส่งผลให้ต้องมีการนำเข้าข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ในระยะนี้ด้วยเช่นกัน