xs
xsm
sm
md
lg

“สุรศักดิ์”โชว์แผนทำงาน เน้นเร่งระบายข้าว ดันค้าชายแดน แก้ปัญหาการค้า

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


“สุรศักดิ์” เผยนโยบายทำงานปีงบประมาณ 57 เน้นบริหารจัดการสินค้าเกษตรตามนโยบายรัฐบาล ทั้งข้าวและมันสำปะหลัง โดยจะเร่งระบายข้าวในสต๊อกอย่างมีประสิทธิภาพ เร่งส่งเสริมการค้าชายแดน กระตุ้นการใช้สิทธิประโยชน์ทางการค้า และการปกป้องผลประโยชน์ทางการค้าของไทย

นายสุรศักดิ์ เรียงเครือ อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ เปิดเผยถึงนโยบายการบริหารงานกรมการค้าต่างประเทศ หลังเข้ารับตำแหน่งเป็นอธิบดีคนใหม่ เมื่อวันที่ 11 ต.ค.2556 ว่า แผนการทำงานในปีงลประมาณ 2557 กรมฯ จะให้ความสำคัญกับการบริหารจัดการสินค้าเกษตรตามนโยบายรัฐบาล ทั้งข้าวและมันสำปะหลัง ให้เกิดผลสำเร็จอย่างมีประสิทธิภาพ โดยเฉพาะข้าว จะเน้นการระบายข้าวในสต๊อกของรัฐบาลในรูปแบบต่างๆ เพื่อให้เกษตรกรได้รับประโยชน์สูงสุดจากนโยบายนี้

ทั้งนี้ ในปี 2557 ได้ตั้งเป้าหมายการส่งออกข้าวไทยไว้ที่ 8-10 ล้านตัน โดยมองว่าปีหน้าไทยจะส่งออกข้าวได้มากขึ้น เป็นเพราะการทำงานของกรมฯ ที่จะเร่งระบายข้าวในสต๊อก และความต้องการข้าวของโลกมีมากขึ้น ส่วนปี 2556 คาดว่าจะยังส่งออกข้าวได้ประมาณ 8 ล้านตัน จากในช่วง 9 เดือน ส่งออกได้แล้วประมาณ 5 ล้านตัน

สำหรับการส่งเสริมและผลักดันการค้า จะเน้นการสนับสนุนการเพิ่มมูลค่าทางการค้าระหว่างประเทศของไทย โดยการส่งเสริมและสนับสนุนให้ผู้ประกอบการไทยใช้สิทธิประโยชน์ทางการค้าต่างๆ ที่ประเทศไทยมีอยู่ เช่น GSP และ FTA เพราะระบบสิทธิประโยชน์ต่างๆ ดังกล่าว จะสามารถช่วยลดต้นทุนในการส่งออกให้กับผู้ประกอบการของไทย และสร้างความได้เปรียบต่อสินค้าคู่แข่งจากต่างประเทศ

นอกจากนี้ จะให้ความสำคัญเป็นพิเศษในการส่งเสริมการค้าชายแดนให้ขยายตัวและมีความเข้มแข็ง เพราะการค้าชายแดนเป็นช่องทางการค้าที่สำคัญของไทย ในการที่จะเพิ่มมูลค่าการค้าระหว่างประเทศ และการค้าชายแดนยังเป็นเครื่องยืนยันถึงความเข้มแข็งทางเศรษฐกิจของไทย ก่อนที่จะก้าวเข้าสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนในปี 2558 โดยมีเป้าหมายในการเพิ่มมูลค่าการค้าชายแดนและการค้าผ่านแดนให้ได้ถึง 1 ล้านล้านบาทภายในปี 2556

นายสุรศักดิ์กล่าวว่า กรมฯ จะให้ความสำคัญในการปกป้องและรักษาผลประโยชน์ทางการค้าของไทย โดยจะเป็นศูนย์กลางในการติดตาม ดูแล แก้ไขปัญหาอุปสรรคทางการค้าที่เกิดขึ้นอย่างครบถ้วนและรอบด้าน ไม่ว่าจะเป็นอุปสรรคที่เกิดจากมาตรการที่ไม่ใช่ภาษี (NTMs) หรืออุปสรรคการค้าในลักษณะอื่นๆ เพื่อไม่ให้เป็นอุปสรรคต่อภาคการผลิตและการส่งออกของไทย โดยเน้นการติดตามมาตรการทางการค้าของประเทศคู่ค้า เช่น Export Control, WEEE, REACH, RoHS เป็นต้น และทำหน้าที่เป็นศูนย์แจ้งเตือนภัย (Early Warning Center) ให้กับผู้ส่งออกและผู้ประกอบการของไทย ให้ปรับตัวได้ทัน สามารถปฏิบัติได้ถูกต้อง ไม่เป็นอุปสรรคในการส่งออกและนำเข้าของไทย

ส่วนในด้านการปกป้องผลประโยชน์ทางการค้า กรมฯ มีเครื่องมือในการดำเนินการเพื่อคุ้มครองภาคการผลิตและผู้ประกอบการภายในประเทศ คือ การใช้มาตรการ AD/ CVD / SG เพื่อแก้ไขปัญหาที่เกิดจากการนำเข้าที่เพิ่มขึ้นและการทุ่มตลาดของสินค้าจากต่างประเทศ

สำหรับผู้ที่ได้รับผลประทบจากการเปิดเสรีทางการค้า กรมฯ จะใช้กองทุน FTA เข้าไปให้ความช่วยเหลือผู้ผลิต ผู้ประกอบการที่ได้รับผลกระทบจากการเปิดเสรีทางการค้า โดยจะให้ความช่วยเหลือในทุกแง่มุมทั้งในด้านการศึกษาวิจัย และพัฒนาผลิตภัณฑ์ให้มีคุณภาพ สามารถแข่งขันกับสินค้าที่มาจากต่างประเทศได้
กำลังโหลดความคิดเห็น