กรมขนส่งฯ เสนอร่างกฎกระทรวงห้ามผู้โดยสารดื่มสุราบนรถโดยสาร และบังคับคาดเข็มขัดนิรภัย ห้ามทำอนาจาร ห้ามสูบบุหรี่ ฯลฯ โทษปรัย 5,000 บาทเพื่อยกระดับบริการด้านความปลอดภัยในการโดยสารรถสาธารณะหลังถูกร้องเรียนจำนวนมาก เผยร่างผ่านครม.แล้ว
นายวัฒนา พัทรชนม์ รองอธิบดีกรมการขนส่งทางบก (ขบ.) เปิดเผยว่า กรมการขนส่งทางบกจึงได้เสนอร่างกฎกระทรวงกำหนดความปลอดภัยและความสงบเรียบร้อยที่ผู้โดยสารต้องปฏิบัติในระหว่างการโดยสาร พ.ศ............ เพื่อประกอบการพิจารณาของคณะรัฐมนตรี ซึ่งขณะนี้คณะรัฐมนตรีได้มีมติอนุมัติหลักการ ร่างกฎกระทรวงดังกล่าว ตามที่กรมการขนส่งทางบกเสนอ และอยู่ระหว่างการตรวจพิจารณาของสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา ทังนี้เพื่อเป็นการสร้างการมีส่วนร่วมของประชาชนต่อการรณรงค์ส่งเสริมความปลอดภัย ในการใช้บริการรถโดยสารสาธารณะ และลดปัญหาข้อร้องเรียนเกี่ยวกับความไม่ปลอดภัยในการใช้บริการ หรือป้องกันการถูกล่วงละเมิดต่าง ๆ
โดยร่างกฎกระทรวงที่นำเสนอนี้ได้กำหนดความปลอดภัยและความสงบเรียบร้อยที่ผู้โดยสารต้องปฏิบัติในระหว่างการโดยสาร พ.ศ............ที่นำเสนอนี้ กำหนดห้ามมิให้ผู้โดยสารเสพสุรา ในระหว่างการโดยสาร, ในระหว่างการโดยสารผู้โดยสารต้องคาดเข็มขัดนิรภัย และต้องไม่กระทำการลามกอนาจาร รวมทั้งกำหนดให้ผู้โดยสารรถโดยสารไม่ประจำทาง ต้องไม่สูบบุหรี่, ไม่โดยสารนอกตัวรถ, ไม่นำดอกไม้เพลิงวัตถุระเบิดขึ้นบนรถด้วย หากฝ่าฝืนมีโทษตามมาตรา 153 ต้องระวางโทษปรับไม่เกิน 5,000 บาท โดยร่างกฎกระทรวงฯ ดังกล่าว เป็นการปรับปรุงกฎกระทรวง ฉบับที่ 27 (พ.ศ. 2529) ออกตามความในพระราชบัญญัติการขนส่งทางบก พ.ศ. 2522 ที่ได้กำหนดให้รถโดยสารทุกคันต้องติดตั้งเข็มขัดนิรภัย (ยกเว้นรถหมวด 1 และรถหมวด 4) รวมทั้งได้มีประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง กำหนดสถานที่หรือบริเวณห้ามบริโภคเครื่องดื่มแอลกอฮอล์บนทาง พ.ศ. 2555 กำหนดห้ามผู้โดยสารบนรถดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์
ทั้งนี้ เนื่องจากกรมการขนส่งทางบกได้รับเรื่องร้องเรียนเกี่ยวกับพฤติกรรมของผู้โดยสารที่ไม่เหมาะสมบนรถโดยสารสาธารณะ เช่น การถูกลวนลามในลักษณะต่าง ๆ ดังนั้น การนำข้อกำหนด ข้อห้าม และพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมดังกล่าว มากำหนดเป็นข้อปฏิบัติที่ผู้โดยสารจะต้องปฏิบัติไว้ในร่างกฎกระทรวงฉบับนี้ จึงเป็นการเพิ่มความคุ้มครองผู้ใช้บริการรถโดยสารสาธารณะอีกทางหนึ่ง เพราะเป็นการเพิ่มอำนาจหน้าที่ให้กรมการขนส่งทางบกสามารถดำเนินการกับผู้กระทำความผิดได้ด้วย รวมทั้งเน้นการเพิ่มความปลอดภัยและสร้างความเชื่อมั่นในการใช้บริการรถโดยสารสาธารณะต่อไป