xs
xsm
sm
md
lg

นิคมฯ “อมตะ” ชลบุรีเร่งระบายน้ำท่วมขังถนนเข้า-ออก มั่นใจเอาอยู่!

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


“อมตะ” ชลบุรีเร่งระบายน้ำที่เริ่มเข้าท่วมขังบริเวณถนนทางเข้า-ออกช่วงเฟส 9-10 ยันยังไม่กระทบต่อโรงงานเร่งสูบน้ำออกลง 3 คลอง แล้ว หากฝนไม่มาเพิ่มจะเข้าสู่ภาวะปกติภายใน 1 วัน เตรียมกระสอบทรายหมื่นถุงช่วยผู้ประกอบการรับมือกรณีฝนมาเพิ่ม “กกร.” ยันน้ำท่วมยังไม่กระทบภาคการผลิต ภาพรวมสูญ 5,000 ล้านบาท ส่วนใหญ่เป็นภาคเกษตร การค้าขายที่หยุดชะงัก พร้อมเกาะติดใกล้ชิด
 

นายวิบูลย์ กรมดิษฐ์ กรรมการและประธานเจ้าหน้าที่การตลาด บริษัท อมตะ คอร์ปอเรชัน จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า วันนี้ (7 ต.ค.) อมตะได้มีการประชุมร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ การนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (กนอ.) กรมทางหลวง และสำนักงานอุตสาหกรรมจังหวัดชลบุรี เพื่อกำหนดแผนดำเนินงานในการป้องกันและแก้ไขปัญหาน้ำท่วมในเขตพื้นที่โดยรอบนิคมอุตสาหกรรมอมตะนครแบบบูรณาการ โดยขณะนี้ได้เร่งระบายน้ำที่ไหลเข้ามาท่วมขังยังพื้นที่ทางเข้า-ออกภายในนิคมฯ จ.ชลบุรีบริเวณเฟส 9-10 ซึ่งมีระดับน้ำสูง 8-15 เซนติเมตร ซึ่งไม่ส่งผลกระทบต่อกระบวนการผลิตของโรงงานภายในนิคมอุตสาหกรรม เนื่องจากพื้นที่ดังกล่าวเป็นเพียง 1 ใน 12 ช่องทางที่ใช้เข้า-ออกของนิคมฯ และอมตะยังมีทางที่ใช้สัญจรเข้าออกอีกหลายทาง

“ได้เร่งสูบน้ำโดยเครื่องสูบขนาดใหญ่สูบน้ำลงสู่ 3 คลองที่เชื่อมต่อพื้นที่ภายในนิคมฯ ได้แก่ คลองขุนวิเศษ คลองมัดท่อ และคลองน้ำเค็ม เพื่อระบายลงสู่คลองพานทองและลงสู่แม่น้ำบางปะกง และอีกส่วนหนึ่งได้เร่งสูบน้ำเข้าสู่แก้มลิงขนาดใหญ่ภายในนิคมอุตสาหกรรมอมตะนคร ซึ่งสามารถรองรับปริมาณน้ำได้ถึง 20-30 ล้าน ลบ.ม. หากไม่มีปริมาณน้ำฝนหรือน้ำจากทางอื่นมาเพิ่มคาดว่าจะเข้าสู่สถานการณ์ปกติได้ภายใน 1 วัน” นายวิบูลย์กล่าว

อย่างไรก็ตาม นิคมฯ อมตะได้เตรียมกระสอบทรายจำนวน 10,000 ถุงให้ความช่วยเหลือแก่ผู้ประกอบการในพื้นที่เฟส 9 และเฟส 10 เพื่อนำไปก่อกำแพงป้องกันน้ำท่วมหากเกิดกรณีมีปริมาณน้ำฝนเข้ามาเติม โดยผู้ประกอบการสามารถติดต่อขอรับได้ที่ บริษัท อมตะฟาซิริตี้ เซอร์วิส จำกัด และในส่วนของชุมชนโดยรอบพื้นที่นิคมฯ อมตะได้มอบสิ่งของยังชีพเพื่อช่วยเหลือบรรเทาความเดือดร้อนเบื้องต้นให้แก่ผู้ประสบภัยรอบพื้นที่นิคมฯ พร้อมกับทำการติดตั้งเครื่องผลักดันน้ำด้วยระบบไฟฟ้าไว้ตามจุดต่างๆ ที่คาดว่ามีปริมาณน้ำมาก เพื่อเร่งระบายน้ำลงสู่คลองพานทอง และคลองชลประทานให้ไหลลงสู่แม่น้ำบางปะกงต่อไป

นายอิสระ ว่องกุศลกิจ ประธานสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย ในฐานะประธานคณะกรรมการร่วมภาคเอกชน 3 สถาบัน (กกร.) กล่าวว่า กกร.ได้รับรายงานจาก กกร.ภูมิภาคถึงสถานการณ์น้ำท่วมในขณะนี้พบว่าผลกระทบเริ่มชะลอตัวลงจากเดิมที่ท่วมใน 33 จังหวัดเหลือ 26 จังหวัด และมีผลกระทบต่อภาคการเกษตร การค้าขายหยุดชะงักคิดเป็นมูลค่าราว 5,000 ล้านบาทซึ่งส่งผลกระทบโดยตรงต่อภาคการผลิต ล่าสุดยังไม่มีมากนักหากเทียบกับภาคเกษตรที่ได้รับผลกระทบหนักกว่า และจังหวัดที่ได้รับผลกระทบมากสุดมี 3 จังหวัด ได้แก่ สุรินทร์ ศรีสะเกษ ปราจีนบุรี

“ขณะนี้ทุกฝ่ายก็ได้เฝ้าระวังและติดตามให้ความช่วยเหลือชาวบ้านที่ได้รับผลกระทบอย่างต่อเนื่องทั้งอาหารและน้ำดื่ม เชื่อว่าน้ำท่วมครั้งนี้จะไม่ยาวนานเช่นปี 2554 แน่นอน และล่าสุดก็เข้าสู่ปลายฤดูฝนแล้ว สถานการณ์น่าจะคลี่คลายได้” นายอิสระกล่าว
กำลังโหลดความคิดเห็น