ประธาน กบอ.อ้างตะวันออกปีนี้น้ำมาก ใช้แม่น้ำปราจีนระบายลงบางปะกง บอกถ้าไม่มีพายุเข้าจะดีขึ้น โวสร้างเขื่อนสกัดน้ำป่าไหลได้ ขอโทษชาวบ้านริมน้ำ โอ่ลอกคลองแล้วไร้ปัญหา โบ้ยนิคมสหรัตนนคร จ่อทำฝนเทียมเหนือเขื่อนภูมิพล จ่อขุดจดหมายสวน “ปราโมทย์” หนุนสร้างแม่วงก์ ถาม “ศศิน” รู้จักปลูกป่าถาวรเฉลิมพระเกียรติไหม ยันไม่ขัดข้องที่จะฟัง แต่เมินดีเบต
วันนี้ (24 ก.ย.) ที่ทำเนียบรัฐบาล นายปลอดประสพ สุรัสวดี รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานคณะกรรมการบริหารจัดการน้ำและอุทกภัย (กบอ.) กล่าวก่อนเข้าร่วมประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ถึงสถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่ภาคตะวันออกว่า ปีนี้มีน้ำมากกว่าปีที่ผ่านมา น้ำท่วมที่ อ.กบินทร์บุรี จ.ปราจีนบุรี ถือว่ามากที่สุดในรอบ 26 ปี เนื่องจากมีร่องความกดอากาศต่ำพาดผ่านกว่า 1 สัปดาห์ และยังมีพายุเข้ามาอีก 1 ลูก ประกอบกับพื้นที่ดังกล่าวเป็นภูเขา มีฝนลงมาจำนวนมากก็ไหลเข้าเมือง และแม่น้ำในพื้นที่ ทั้งแม่น้ำนครนายก และแม่น้ำปราจีนบุรีเป็นแม่น้ำขนาดเล็กรับน้ำได้น้อย น้ำจึงเอ่อทั้งสองด้าน โดยแนวทางการระบายน้ำจะใช้แม่น้ำปราจีนบุรีเป็นหลักให้น้ำไหลมาลงสู่แม่น้ำบางปะกง เพื่อลดน้ำในจังหวัดปราจีนบุรี หากไม่มีพายุเข้ามาอีกก็จะสามารถแก้ปัญหาได้
“จากการที่ปล่อยน้ำเข้าทุ่งเมื่อวันที่ 23 ก.ย.ก็ทำให้น้ำในพื้นที่ลดระดับลงมาได้ 10 ซม. ซึ่งถือเป็นแนวทางที่ถูกต้อง อย่างไรก็ตามต้องไม่ปล่อยน้ำลงแม่น้ำนครนายก อย่างน้อยเป็นเวลา 2 วัน ปล่อยให้เป็นเรื่องของแม่น้ำปราจีนบุรีก่อน หาก 3 วันนี้ไม่มีพายุเข้ามา สถานการณ์ฝั่งตะวันออกจะดีขึ้นอย่างแน่นอน” นายปลอดประสพระบุ
ผู้สื่อข่าวถามว่าจะจัดระบบน้ำป่าและน้ำท่าอย่างไร รองนายกฯ กล่าวว่า น้ำป่าต้องไม่ให้ไหลลงมา โดยการสร้างเขื่อน หรือทำแก้มลิงให้น้ำไหลลงช้า อย่างแม่น้ำนครนายกมีเขื่อนขุนด่านปราการชล สามารถป้องกันน้ำที่จะไหลลงมาทีเดียวได้ แต่แม่น้ำปราจีนบุรีไม่มีเขื่อนที่ต้นน้ำ น้ำมีเท่าไหร่ก็ไหลลงมา ส่วนพื้นที่อีสานใต้ตอนนี้น้ำเริ่มลดระดับลงแล้วเนื่องจากน้ำไหลลงแม่น้ำโขง
ส่วนสถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่ภาคกลางนั้น นายปลอดประสพกล่าวว่า ปีนี้มีฝนตกมามากกว่าปกติ จึงต้องระบายน้ำออกทะเลให้เร็วที่สุด ให้ระบายน้ำออกจากที่ลุ่มลงแม่น้ำเจ้าพระยาให้ได้มากที่สุด จึงต้องขอโทษประชาชนที่บ้านอยู่ริมน้ำด้วย แต่พื้นที่นอกคันที่มีการยกถนนแล้วก็จะไม่มีปัญหา และน้ำปีนี้ถือว่าน้อยกว่าปี 54 มาก ไม่มีน้ำที่ไหลลงมาจากภาคเหนือเลย เป็นการสู้กับน้ำฝนที่ตกลงมามาก ปริมาณไม่ถึงครึ่งหนึ่งของปี 54 ประกอบกับมีการลอกคูคลองไว้แล้วจึงไม่มีปัญหา
เมื่อถามว่า ปริมาณน้ำในเขื่อนต่างๆขณะนี้ถือว่าอยู่ในระดับที่น่าพอใจแล้วหรือไม่ นายปลอดประสพกล่าวว่า เขื่อนภูมิพล มีปริมานน้ำร้อยละ 42 หาก 1 สัปดาห์ข้างหน้าปริมาณน้ำยังเป็นเช่นนี้ จะมีการทำฝนเทียมเฉพาะพื้นที่ เขื่อนภูมิพล กบอ.อนุมัติในหลักการไว้แล้ว แต่ชะลอไว้เนื่องจากเกรงว่าเมื่อทำฝนเทียมแล้วฝนจะตกลงมามาก
ผู้สื่อข่าวถามอีกว่า ฤดูฝนปีนี้จะกระทบพื้นที่เศรษฐกิจหรือไม่ นายปลอดประสพกล่าวว่า พื้นที่อุตสาหกรรมมีการสร้างคันกั้นน้ำหมดแล้ว ยกเว้น นิคมอุตสาหกรรมสหรัตนนคร ที่มีปัญหาภายในทำให้ไม่สามารถสร้างคันกั้นน้ำได้ ส่วนพื้นที่ จ.ปราจีนบุรี นิคมอุตสาหกรรมสร้างที่สูงหมด จึงไม่มีปัญหา
นายปลอดประสพยังได้กล่าวถึงกรณีที่นายปราโมทย์ ไม้กลัด อดีตอธิบดีกรมชลประทาน ออกมาระบุว่าเขื่อนแม่วงก์ไม่สามารถแก้ไขปัญหาน้ำท่วมในภาพรวมได้ว่า ขอเวลา 1 วันจะไปเอาจดหมายสมัยที่นายปราโมทย์เป็นอธิบดีกรมชลประทาน ทำถึงอธิบดีกรมป่าไม้ ที่ชื่อนายปลอดประสพเกี่ยวกับเขื่อนแม่วงก์มาให้ดู เนื่องจากเรื่องนี้กรมชลประทานเป็นคนตั้งงบประมาณ เป็นคนออกแบบ ไม่ใช่ตน มีการทำกันมาเกือบ 20 ปี อย่างไรก็ตาม จุดยืนของตนในการบริหารประเทศคือเอาคนส่วนใหญ่ และความเดือดร้อนของคนในพื้นที่เป็นหลัก จะเห็นว่าเวลาไม่มีเขื่อนที่ต้นน้ำ ทำให้ไม่สามารถคุมน้ำได้ เรื่องความเห็น และคำแนะนำต่างๆ พร้อมรับฟัง และจะพัฒนาปรับปรุงรายงานผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม (อีไอเอ) อย่างไรว่ามาเลย ไม่ขัดข้อง แต่ไม่ใช่มาบอกว่าไม่ให้สร้าง เพราะอีไอเอมีไว้ศึกษาผลกระทบ และบรรเทาผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม ไม่ใช่บอกว่าใช่หรือไม่ใช่ เพราะเมื่อมีการทำอีไอเอ แสดงว่าเขายอมรับว่ามีผลกระทบแน่ๆ แต่จะทำอย่างไรให้กระทบน้อยที่สุดเท่าที่จะทำได้
“จู่ๆ มาบริภาษผม หาว่าผมพูดไปได้อย่างไรว่าปลูกป่าทดแทนได้ อย่างนั้นผมจะทวงว่ารู้จักชื่อโครงการปลูกป่าถาวรเฉลิมพระเกียรติหรือไม่ ที่ทำกันมา 7-8 ปี มูลนิธีสืบนาคะเสถียรก็มาร่วมปลูกป่าถาวรเฉลิมพระเกียรติด้วย แต่มาวันนี้ท่านไม่พอใจกลับขึ้นมาบอกปลูกไม่ได้แล้ว ทั้งๆ ที่ท่านร่วมเขียนโครงการนี้ขึ้นมา เกิดขึ้นในสมัยรัฐบาลพรรคประชาธิปัตย์ ทำประสบผลสำเร็จกันมาจนทุกวันนี้ เมื่อเป็นอย่างนี้ก็เหนื่อย ไม่พอใจพูดอย่าง พอใจพูดอย่าง จะแนะนำอะไรบอกมาเถอะ ผมไม่ได้ขัดข้องอะไรที่จะรับฟัง ปรับปรุงอะไรให้ดีได้จะทำ” นายปลอดประสพกล่าว
ผู้สื่อข่าวถามว่า มีความเป็นไปได้ที่จะขึ้นไปดีเบตกับนักวิชาการที่ออกมาคัดค้านหรือไม่ ปลอดประสพกล่าวว่า ในการรับฟังความคิดเห็นประชาชนเราใช้มหาวิทยาลัยหลายแห่ง ดังนั้นปล่อยให้คณะดังกล่าวคุยกัน ตนคงไม่ต้องไปคุย และด่านที่สองจะต้องมีการทำอีไอเอ และอีเอชไอเออีกครั้ง อย่าลืมว่าที่ทำแล้วค้านกันอยู่ทุกวันนี้ เป็นการศึกษาของกรมชลประทานที่มีนายปราโมทย์ เป็นอธิบดีในขณะนั้นเป็นคนเขียนโครงการขึ้นมา เขาเอาโครงการของนายปราโมทย์ที่เน้นเรื่องชลประทานมาวิเคราะห์ โดย กบอ.ทำแผนตามมาในที่ใกล้เคียงกัน แต่เน้นเรื่องการระบายน้ำ ที่มีการค้านกันไม่ใช่เงินของ กบอ.เลย แต่กรมชลประทานเป็นคนจ้างเอง ดังนั้น กลุ่มที่ออกมาคัดค้านค้านผิดคน เพราะควรจะต้องค้านนายปราโมทย์ นายปราโมทย์แก่แล้วลืมหรืออย่างไรว่าเคยพูดอะไร