ฉะเชิงเทรา - นายกเล็กเทศบาลเมืองแปดริ้ว บอกน้ำล้นบางปะกงออกนอกลำน้ำไม่น่าห่วง เชื่อมาไม่มากเท่าเมื่อครั้งปี 54 แต่ยังต้องคอยติดตามเฝ้าระวัง ระบุให้ประชาชนในพื้นที่ทำใจยอมรับวิถีของกระแสน้ำที่เปลี่ยนไปในอนาคต ที่จะมีเหตุการณ์ทำนองเดียวกันนี้เกิดขึ้นในทุกๆ ปี หลังเส้นทางน้ำฝั่งด้านตะวันออก ถูกใช้เป็นพื้นที่รองรับการระบายจากรอบด้าน
วันนี้ (9 ต.ค.) เวลา 16.00 น. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากกรณีแม่น้ำบางปะกงไหลเอ่อล้นออกนอกลำน้ำเอ่อเข้าท่วมพื้นที่เศรษฐกิจ ย่านการค้า และถนนเส้นทางสัญจรตลอดแนวของพื้นที่ชายขอบริมฝั่งลำน้ำบางปะกง ยาวไปจนตลอดแนวของชายแม่น้ำ จนถึงบริเวณปากอ่าวไทย เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมานี้ ระหว่างเวลา 09.30-12.30 น.
นายกลยุทธ ฉายแสง นายกเทศมนตรี เทศบาลเมืองฉะเชิงเทรา กล่าวว่า สถานการณ์ที่เกิดขึ้นไม่น่าเป็นห่วง โดยเชื่อว่าไม่มีอะไรที่จะรุนแรงไปมากกว่านี้แล้ว เพราะเหตุการณ์น้ำท่วมที่เกิดขึ้นนี้ เป็นเพราะมีน้ำทะเลหนุนสูง ประกอบกับมีการระบายน้ำเข้ามาในพื้นที่ผ่านแม่น้ำบางปะกง จากพื้นที่ถูกน้ำท่วมตอนบน และเมื่อช่วงน้ำลง น้ำที่ไหลบ่าออกมายังด้านนอกของลำน้ำ ก็จะแห้งหายไป เชื่อว่าไม่มีอะไรที่น่าเป็นห่วง เพราะในปี 2554 นั้น ยังมีน้ำมามากกว่านี้ ก็ไม่ได้สร้างความเสียหายอะไรต่อพื้นที่มากนัก
หลังจากนี้จะทำความเข้าใจกับประชาชนในเขตพื้นที่เมืองฉะเชิงเทรา ว่า ในช่วงนี้ก็จะมีน้ำไหลเข้ามาในพื้นที่มากอย่างนี้ ในทุกๆ ปี พอมาแล้วก็จะลดหายไปเอง
ส่วนที่ยังน่ากังวลอยู่บ้างนั้น ก็เพราะว่ามีข่าวเรื่องของน้ำที่กำลังบ่าท่วมอยู่ในเขตพื้นที่ จ.ปราจีนบุรี และสระแก้ว ซึ่งยังมีต้นทุนน้ำที่จะไหลลงมาทางนี้ ก็จะทำให้ระดับน้ำในแม่น้ำสูงขึ้นมากกว่าระดับปกติ จึงต้องลงมาดูในพื้นที่ และเมื่อมาถึงเวลานี้แล้วก็ถือว่าเป็นเรื่องปกติ ที่น้ำจะไหลออกมาท่วมถนนพื้นผิวการจราจรให้มีการชะล้างถนนไปในตัวบ้าง และถือว่าเป็นเรื่องดีที่จะได้มีการชะล้างทำความสะอาดถนนในเขตพื้นที่เทศบาลเมืองฉะเชิงเทราไปด้วยในตัวคราวเดียวกัน ซึ่งหากคิดในทางบวกก็ถือว่ามีน้ำไหลเอ่อล้นขึ้นมาให้เด็กๆ ในพื้นที่ ได้ลงเล่นกันอย่างสนุกสนานในวันนี้
ทั้งนี้ อยากฝากไปถึงยังพี่น้องประชาชนว่า นับจากนี้ไปใครที่มีพื้นบ้านอยู่ในระดับต่ำๆ นั้น ก็ขอให้ยกพื้นบ้านขึ้นให้สูงจากเดิมอย่างน้อย 10 ซม.ขึ้นไป เพื่อที่จะหนีน้ำหนุน และจะเอ่อไหลเข้ามาท่วมในทุกๆ ปี เพราะแม่น้ำบางปะกงจะมีระดับน้ำที่สูงขึ้นกว่าในสมัยอดีต และเป็นการยกระดับเพื่อป้องกันเอาไว้
ส่วนการที่น้ำจะไหลบ่าเข้าท่วมบ้านเรือนราษฎรจนอยู่กันไม่ได้นั้นจะไม่มีเกิดขึ้นแน่นอน และปีนี้จึงไม่จำเป็นที่ประชาชนจะต้องตื่นตกใจ พากันสร้างแนวกำแพงเพื่อป้องกันน้ำไหลเข้าบ้าน และร้านค้าเหมือนกับในปี 2554
สำหรับในวันนี้ตามการพยากรณ์ของกรมอุทกศาสตร์ กองทัพเรือนั้นระบุว่า แม่น้ำบางปะกงจะมีระดับน้ำขึ้นสูงสุด แต่แล้วก็ไม่มีอะไร ไม่เกิดผลกระทบอะไรมากนักอย่างที่เห็น แปดริ้วเราจึงไม่น่าเป็นห่วงกังวลแต่อย่างใด
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากที่นิคมอุตสาหกรรมอมตะนครถูกน้ำท่วม ที่บริเวณด้านท้ายในเฟสที่ 7, 8, 9 และได้มีการเร่งระบายน้ำออกลงสู่ลำคลองพานทอง ซึ่งเป็นลำคลองสาขาตอนปลายของแม่น้ำบางปะกงนั้น ได้ทำให้น้ำในคลองพานทองเอ่อล้น ไหลออกมายังด้านนอกบ่าเข้าท่วมพื้นผิวการจราจร ในเขตพื้นที่ ต.ท่าข้าม จนทำให้มีน้ำท่วมขังเกือบตลอดทั้งวัน และลดลงไปเมื่อช่วงบ่ายวันนี้ (15.00 น.) หลังจากน้ำทะเลที่หนุนขึ้นมานั้นลดลงสุด และเปิดช่องให้มวลน้ำทางด้านบนไหลลงกลับไปยังในทะเล