“พาณิชย์” จ่อเคาะลดเป้าส่งออกปี 56 เหลือโตแค่ 4% เหตุตลาดสำคัญ ทั้งสหรัฐฯ จีน กระทั่งอาเซียน พลาดเป้าเยอะจากปัญหาเศรษฐกิจชะลอตัว ด้านปี 57 คาดโต 5-7%
รายงานข่าวจากกระทรวงพาณิชย์แจ้งว่า กระทรวงพาณิชย์มีแนวโน้มที่จะปรับเป้าการส่งออกในปี 2556 ใหม่ โดยคาดว่าจะมีมูลค่า 235,000 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้น 4% จากเดิมมูลค่า 240,000-250,000 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้น 7-7.5% หรือปรับมูลค่าลดลง 5,000-15,000 ล้านเหรียญสหรัฐ เนื่องจากเศรษฐกิจในหลายประเทศที่เป็นคู่ค้าสำคัญของไทยชะลอตัวทำให้มีการนำเข้าลดลง สินค้าไทยหลายรายการมีราคาสูงกว่าคู่แข่ง ต้นทุนการผลิตของไทยสูงจากค่าจ้างขั้นต่ำและอื่นๆ และยังมีการใช้มาตรการกีดกันการค้าที่ไม่ใช่ภาษีของคู่ค้าสำคัญ
ทั้งนี้ หากประเมินเป็นรายตลาด พบว่าสหรัฐฯ และอเมริกาเหนือ มูลค่า 26,630 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้น 2% ลดจากเดิม 5% ยุโรปมูลค่า 22,900 ล้านเหรียญสหรัฐ ขยายตัวเท่าเดิม 5% จีน และฮ่องกง มูลค่า 42,000 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้น 3% ลดจากเดิม 8% ญี่ปุ่นมูลค่า 24,653 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้น 5% เท่าเดิม ตลาดอาเซียนมูลค่า 61,753 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้น 9.3% ลดลงจาก 13.7% ตะวันออกกลาง มูลค่า 12,055 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้น 5% เท่าเดิม ส่วนตลาดแอฟริกา มูลค่า 8,434 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้น 7% เพิ่มจากเดิม 5% เป็นต้น
สำหรับสินค้าที่มีปัญหาการส่งออก ได้แก่ ผักและผลไม้ ไก่สดแช่เย็น แช่แข็ง และแปรรูป อาหารทะเลกระป๋องและแปรรูป เครื่องใช้ไฟฟ้า อิเล็กทรอนิกส์ ยานยนต์และชิ้นส่วน เป็นต้น
ส่วนเป้าหมายการส่งออกในปี 2557 คาดว่าจะส่งออกได้มูลค่า 252,000-253,000 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้น 5-7% เนื่องจากเศรษฐกิจหลายตลาดได้ฟื้นตัวดีขึ้น การออกมาตรการต่างๆ ในการขับเคลื่อนการส่งออกของไทยทั้งระบบในปีหน้าจะมีการดำเนินการอย่างเข้มงวด ส่งผลให้ยอดการส่งออกไทยสามารถเพิ่มปริมาณและมูลค่าได้มากขึ้น
โดยตลาดสำคัญที่จะส่งออกได้เพิ่มขึ้น เช่น สหรัฐฯ และอเมริกาเหนือ มูลค่า 27,400 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้น 3% ยุโรปมูลค่า 24,000 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้น 5%, จีนและฮ่องกงมูลค่า 44,100 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้น 5% ญี่ปุ่นมูลค่า 26,133 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่ม 6% อาเซียนมูลค่า 68,000 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่ม 10% ตะวันออกกลางมูลค่า 12,500 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่ม 9% แอฟริกามูลค่า 9,278 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่ม 10% ออสเตรเลียมูลค่า 15,572 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่ม 15% และเอเชียใต้ มูลค่า 8,917 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่ม 10% เป็นต้น
