xs
xsm
sm
md
lg

“ซิติเซ็น” เร่งทำวันไพรส์ทั่วโลก ดึงคนไทยพรีเซ็นเตอร์ครั้งแรก

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

 เจมส์ เอ.นากาอิ (ขวา) กรรมการผู้จัดการ บริษัท ซิติเซ็น วอทช์ (ฮ่องกง) จำกัด ผู้ดูแลภาพรวมนาฬิกาแบรนด์ซิติเซ็นในเอเซียตะวันออกเฉียงใต้ จีน อินเดีย และตะวันออกกลาง
“ซิติเซ็น” ปรับยุทธศาสตร์รีแบรนด์ภาพลักษณ์เดียวทั่วโลก พร้อมทำวันไพรส์ให้ได้ภายใน 5 ปีจากนี้ พร้อมเพิ่มแชร์ตลาดนาฬิกาโลกเป็น 4% ภายใน 6 ปี ด้านตลาดไทยญี่ปุ่นอนุมัติใช้คนไทยเป็นพรีเซ็นเตอร์ครั้งแรก ดึง “โดม-ปกรณ์ ลัม” เป็นพรีเซ็นเตอร์ ศรีทองพาณิชย์ตั้งเป้าปีนี้ซิติเซ็นโต 20% สูงสุดรอบ 5 ปี

นายเจมส์ เอ.นากาอิ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ซิติเซ็น วอทช์ (ฮ่องกง) จำกัด ผู้ดูแลภาพรวมนาฬิกาแบรนด์ซิติเซ็นในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ จีน อินเดีย และตะวันออกกลาง เปิดเผยว่า บริษัทแม่ซิติเซ็นที่ญี่ปุ่นอยู่ระหว่างการดำเนินตามยุทธศาสตร์ที่วางไว้ภายใน 5 ปีจากนี้ ซิติเซ็นจะพยายามรีแบรนด์เพื่อสร้างภาพลักษณ์ของซิติเซ็นให้เป็นหนึ่งเดียว รวมทั้งการลดจำนวนรุ่นและคอลเลกชันลงในตลาดหลักๆ รวมทั้งการพยายามทำราคาเดียวกันหรือ One Price ทั่วโลก

ทั้งนี้ ช่วงที่ผ่านมาในตลาดเอเชียซิติเซ็นมีวางจำหน่ายมากกว่า 1,500 รายการ และได้ปรับลดไปแล้วปัจจุบันเหลือเพียง 1,000 รายการ หรือเอสเคยู และอนาคตตั้งเป้าหมายจะลดลงให้เหลือประมาณ 600 เอสเคยูขึ้นอยู่กับแต่ละตลาด ส่วนเรื่องราคานั้นต้องการให้เป็นโครงสร้างราคาเดียวหรืออย่างน้อยให้ใกล้เคียงกันมากที่สุดทั่วโลก แต่ทั้งนี้คงต้องขึ้นอยู่กับอัตราภาษีนำเข้าของแต่ละประเทศด้วยว่าเป็นอย่างไร

นายเจมส์ กล่าวด้วยว่า ซิติเซ็นยังตั้งเป้าหมายที่จะมีส่วนแบ่งตลาดนาฬิกาในตลาดโลกรวม 4% ให้ได้ภายในเวลา 6 ปีจากนี้ จากปัจจุบันที่มีประมาณ 1% ทั้งนี้ ไทยถือเป็นตลาดหลักที่สำคัญในเอเชียของซิติเซ็น และเป็นตลาดที่เติบโตดีด้วย หลังจากที่มีศรีทองพาณิชย์ทำตลาดมากว่า 55 ปีในไทย และได้รับการตอบรับดี ซึ่งนอกจากแบรนด์ซิติเซ็นแล้ว ในเครือยังมีแบรนด์อื่นที่ทำตลาดในไทยอีก เช่น อินดิเพนเดนซ์ จับกลุ่มวัยรุ่น ราคา 7,000-12,000 บาท เริ่มเมื่อพฤษภาคมปีนี้เอง มีแบรนด์บูโลวา ซึ่งอาจจะนำเข้ามาทำตลาดในไทยด้วย

อย่างไรก็ตาม ในด้านการผลิต มีฐานผลิตและประกอบใหญ่อยู่ที่ญี่ปุ่น จีน ไทย และบราซิล ซึ่งที่ไทยนั้นมี 2 โรงงาน เป็นโรงงานประกอบ และโรงงานผลิตอะไหล่ ซึ่งมีพื้นที่เดิมเหลือ แต่ยังไม่มีโครงการที่จะลงทุนเพิ่ม

นางวิภาวรรณ มหาดำรงค์กุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท ศรีทองพาณิชย์ จำกัด ผู้นำเข้าและจำหน่ายนาฬิกาซิติเซ็นในไทย กล่าวว่า ราคาจำหน่ายซิติเซ็นในเวลานี้ก็ไม่ได้แตกต่างจากเพื่อนบ้านอย่างสิงคโปร์หรือฮ่องกงมากนัก ซึ่งไทยเรามีกาษีนำเข้านาฬิกาที่ 5% ก็ไม่ถือว่าสูงมากนัก ต่างจากในอดีตเมื่อ 10 ปีที่แล้วสูงถึง 40% แต่ถ้าหากนโยบายลดภาษีนำเข้าลงเกิดขึ้นได้ก็ยิ่งเป็นการดี

โดยยอดขายแบรนด์ซิติเซ็นในไทยปีที่แล้วมียอดขายเติบโตกว่าปี 2554 ประมาณ 17% ขณะที่เมื่อย้อน 5 ปีให้หลังจะเติบโต 2 หลักตลอด เฉลี่ย 12-15% ส่วนปีนี้ตั้งเป้าหมายการเติบโตไว้ที่ 20% ซึ่งสูงสุดในรอบ 5 ปีของซิติเซ็นในไทย โดย 8 เดือนแรกปีนี้เติบโตแล้ว 15%

ทั้งนี้ ปีที่เติบโตมากเพราะเป็นปีแรกที่ซิติเซ็นนำเอาดารามาเป็นแบรด์แอมบาสซาเดอร์ในการทำตลาด คือ โดม-ปกรณ์ ลัม ตั้งแต่เดือนมิถุนายน 2555 และเมื่อหมดสัญญาแล้ว ทางบริษัทแม่เห็นความสำเร็จจึงอนุมัติให้ซิติเซ็นประเทศไทยสามารถต่อสัญญากับโดม-ปกรณ์ ลัม มาเป็นพรีเซ็นเตอร์ต่อไปอีก 1 ปี พร้อมทั้งมีการทำหนังโฆษณาใช้พรีเซ็นเตอร์คนไทยเป็นครั้งแรกในตลาดไทยออกฉายทางทีวีเดือนพฤศจิกายนนี้ ซึ่งในตลาดแต่ละประเทศแทบจะไม่เคยมีพรีเซ็นเตอร์เป็นคนท้องถิ่นเลย

“การเติบโตหลักๆ ของซิติเซ็นก็มาจากการมีโดม-ปรณ์ ลัม เป็นพรีเซ็นเตอร์ ซึ่งทำให้ได้ฐานลูกค้าใหม่ อีกทั้งการออกคอลเลกชันใหม่ๆ ต่อเนื่องทำให้ยอดขายเติบโต ล่าสุดคือออกคอลเลกชันใหม่ของอีโคไดรฟ์ ซูเปอร์ ไททาเนียม เวอร์ชันที่ 4 ระดับราคา 15,000-21,000 บาท ตั้งเป้ายอดขาย 3 เดือนสุดท้ายปีนี้ที่ 5,000 เรือน”

ทั้งนี้ นโบายบริษัทฯ จะเน้นทำตลาดนาฬิการะดับกลางลงล่าง ซึ่งปัจจุบันมีครบทุกเซกเมนต์แล้ว โดยนำเข้าและจัดจำหน่ายเอง 6 แบรนด์ เช่น แฮมิลตัน บอล วานาเบ้ อินดิเพนเดนซ์ เป็นต้น ส่วนที่จัดจำหน่าย เช่น ราโด มิโด ทิสโซ เป็นต้น แต่ก็จะยังมีการขยายแบรนด์ใหม่เพิ่มอีก

ส่วนปีหน้ามีแผนลงทุนเปิดร้านมัลติแบรนด์เพิ่มอีกที่ชื่อว่า เดอะ สวิส วอตช์ แกลเลอรี อย่างต่ำ 3 สาขา เปิดในกรุงเทพฯ ทั้งหมด ลงทุนสาขาละ 30 ล้านบาท และจะมีรูปแบบใหม่ที่มีแบรนด์นาฬิกาซิติเซ็นเข้าไปจำหน่ายด้วย จากปัจจุบันมีแล้ว 4 สาขา คือ เซ็นทรัลบางนา เซ็นทรัลเวิลด์ สุราษฎร์ธานี และหาดใหญ่


กำลังโหลดความคิดเห็น