xs
xsm
sm
md
lg

จี้รัฐวางกรอบให้ชัดลดภาษีสินค้าฟุ่มเฟือย

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ASTV ผู้จัดการรายวัน - เอกชนตีปีกขานรับ นโยบายลดภาษีนำเข้าสินค้าลักชัวรี หวังสู้ศึกการเป็นเมืองชอปปิ้งสู้ฮ่องกง สิงคโปร์ ได้ จี้รัฐวางกรอบให้ชัดเจนว่าสินค้าอะไรบ้าง ย้ำต้องดูโครงสร้างราคาใหม่ด้วยว่าจะเปลี่ยนแปลงไปในทิศทางใด ด้าน รมช.คลังยัน ยังไม่คิดปรับลดภาษี สินค้าฟุ่มเฟือยในขณะนี้ หวั่นกระทบต่อผู้ประกอบการในประเทศ

จากกรณีที่รัฐบาลไทยโดยกระทรวงการคลังมีนโยบายที่จะพิจารณาปรับลดอัตราภาษีนำเข้าสินค้าฟุ่มเฟือยในบางรายการ เช่น น้ำหอม เครื่องสำอาง เสื้อผ้าแบรนด์เนม จากปัจจุบันจัดเก็บภาษีอัตรา 30% ให้เหลือในเบื้องต้นประมาณ 5% ซึ่งคาดว่าจะใช้เวลาประมาณ 2 เดือนจากนี้จึงจะสรุปตัวเลขและแนวทางที่ชัดเจนได้ เพื่อนำเสนอต่อคณะรัฐมนตรี จุดประสงค์เพื่อต้องการกระตุ้นเศรษฐกิจ และทำให้ประเทศไทยเป็นเมืองแห่งการชอปปิ้งพาราไดซ์ของภาคพื้นนี้ให้ได้เพื่อต่อสู้กับสิงคโปร์ฮ่องกงได้

แหล่งข่าวจากวงการนำเข้าสินค้าจากต่างประเทศ ให้ความเห็นว่า นโยบายการลดอัตรากาษีนำเข้าสินค้าลักซ์ชัวรี่แบรนด์เนมหรือสินค้าฟุ่มเฟือยหากมองในแง่ของผู้ประกอบการแล้วถือว่าเป็นสิ่งที่ดี ที่ภาคเอกชนไทยเรียกร้องมานานแล้ว แต่ก็ไม่เป็นผลสำเร็จ แต่ในเมื่อขณะนี้รัฐบาลมีแนวความคิดจะดำเนินการเวลานี้ก็ถือว่าเป็นสิ่งที่ดี อย่างน้อยก็เป็นการเริ่มต้น เนื่องจากใกล้ที่จะเปิดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนหรือเออีซีในปี 2558 นี้แล้ว ถ้าหากลดลงได้จริงก็จะช่วยให้ไทยสามารถแข่งขันในเรือ่งชอปปิ้งกับประเทศที่เป็นคู่แข่งด้านการชอปปิ้งในกลุ่มเออีซีได้มากขึ้นด้วย

อย่างไรก็ตาม ภาคเอกชนต้องการให้รัฐบาลวางแนวทางที่ชัดเจนว่า สินค้าอะไรบ้างที่เรียกว่าเป็นสินค้าลักซ์ชัวรี่หรือสินค้าฟุ่มเฟือยที่จะต้องเข้าข่ายการปรับลดภาษีนำเข้าลงได้บ้าง เช่น รถยนต์ ถือว่าเป็นสินค้าฟุ่มเฟือยลักซ์ชัวรี่ด้วยหรือไม่ เป็นต้น

นอกจากนั้นแล้วรัฐบาลจะต้องทำการแยกแยะและวางระเบียบให้ชัดเจนด้วยว่า จะดูเป็นรายหมวดสินค้าหรือดูเป็นหมวดอินเตอร์แบรนด์เนมอย่างเดียว เพื่อให้เกิดความเป็นธรรม เช่น กระเป๋าเดินทางหรือกระเป๋าถือสะพายผู้หญิง ถือเป็นกระเป๋าเหมือนกัน แต่มันคนละรูปแบบ จะลดฐานภาษีลงมาเท่ากันหรือไม่ เป็นต้น เพราะในต่างประเทศเช่น มาเลเซีย ทางรัฐบาลไม่ได้มีการแยกแยะออกมาคิดเป็นรายการเดียวกันหมด

สำหรับการนำเข้าสินค้ากระเป๋าอินเตอร์แบรนด์ทุกวันนี้ ผู้ประกอบการไทยจะต้องเสียภาษีนำเข้าไม่ต่ำกว่า 40% รวมภาษีมูลค่าเพิ่มอีก 7% ก็ทำให้เสียภาษีเกือบจะ 50% แล้ว จึงทำให้ราคาสินค้าที่ขายในไทยสูงกว่าประเทศอื่น เช่น ฮ่องกง สิงคโปร์ ที่จะไม่มีภาษีนี้อย่างมาก

นายชัยโรจน์ ศรีเดชะรินทร์กุล ผู้จัดการใหญ่บริหารสินค้าแฟชั่นผู้ชาย บริษัท เดอะมอลล์ กรุ๊ป จำกัด กล่าวว่า แนวทางการปรับลดภาษีนำเข้าสินค้าฟุ่มเฟือยของรัฐบาลนั้น มองว่านโยบายนี้ต้องมองออกไปให้ไกลกว่านี้อีก จึงจะสามารถบอกได้ถึงผลดีหรือผลเสียที่จะตามมา ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของการเจาะลึกว่ากลุ่มสินค้าแคธิกอรี่ไหนที่จะได้รับการลดภาษีนำเข้าลง รวมถึงอัตราการลดภาษีครั้งนี้จะปรับลงมากแค่ไหนในแต่ละแคธิกอรี่

อย่างไรก็ตามในเบื้องต้นยอมรับว่า นโยบายดังกล่าวจะช่วยในเรื่องของต้นทุนได้เป็นอย่างดี แต่ในแง่ของ Global Price Policy อาจจะกระทบต่อภาพลักษณ์ของแบรนด์สินค้านั้นๆได้

“เบื้องต้นยังไม่สามารถคาดการณ์ได้ว่า นโยบายการปรับลดภาษีนำเข้าสินค้าฟุ่มเฟือยนี้ จะช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยได้มากแค่ไหน หรือช่วยขับเคลื่อนในส่วนใด ขณะที่ประโยชน์ที่จะได้รับจากนโยบายดังกล่าว นอกจากราคาต้นทุนที่ถูกลงแล้ว ยังจะทำให้ธุรกิจนั้นๆมีขนาดใหญ่ขึ้น จากการขายที่ดีขึ้น แต่ทั้งนี้ยังต้องดูถึงโครงสร้างราคาใหม่ด้วยว่าจะเปลี่ยนแปลงไปในทิศทางใดเช่นกัน เพราะปัจจุบันสินค้าหลายๆแบรนด์มีทั้งการตั้งราคาที่สูงกว่าประเทศอื่น เพื่อให้ได้มาร์จิ้นที่ต้องการจากราคาต้นทุนที่ค่อนข้างสูง ถ้ามีการปรับลดภาษีลงอาจจะต้องมีการปรับโครงสร้างราคากันใหม่ ซึ่งอาจจะส่งผลต่อภาพลักษณ์แบรนด์ได้”

ทั้งนี้มองว่าการปรับลดภาษีนำเข้าสินค้าฟุ่มเฟือยนั้น ไม่ได้ส่งผลต่ออุตสาหกรรมการท่องเที่ยวให้เพิ่มขึ้นหรือน้อยลงแต่อย่างไร เพราะปัจจุบันไทยเป็นเดสติเนชั่นของการท่องเที่ยวอยู่แล้ว อุตสาหกรรมการท่องเที่ยวเติบโตได้ดีและต่อเนื่อง เกิดจากการที่นักท่องเที่ยวต้องการเข้ามาเที่ยวไทย เนื่องจากแหล่งท่องเที่ยวของไทยมีทัศนียภาพที่สวยงาม บริการที่ดีเยี่ยม คนไทยเป็นมิตร ไม่ใช่เรื่องของการขายสินค้าที่มีราคาต่ำกว่าประเทศอื่นๆ ทั้งนี้หากต้องการเป็นฮับในเออีซี การปรับลดภาษีนำเข้าสินค้าฟุ่มเฟือยอาจจะช่วยได้บางส่วน แต่สิ่งสำคัญคือ การรักษามาตรฐานบางอย่างที่ดีของไทยไว้จะดีกว่า

นายอารีพงศ์ ภู่ชะอุ่ม ปลัดกระทรวงการคลัง กล่าวก่อนหน้านี้ว่า รัฐบาลมีนโยบายจะทำชอปปิ้งพาราไดซ์ ซึ่งจะต้องมีการลดภาษีนำเข้าสินค้าฟุ้มเฟือยบางประเภทให้กับทุกคนที่มาซื้อสินค้าในไทย ซึ่งจะทำให้เราแข่งขันกับฮ่องกง สิงคโปร์ ซึ่งนายกรัฐมนตรีให้ไปดูในส่วนนี้และอยากให้ทันใช้ได้ในปลายปีนี้ ซึ่งการปรับลดอัตราภาษีดังกล่าวคาดว่าจะเป็นการปรับแบบถาวรและลดภาษีเป็นการทั่วไปไม่เฉพาะนักท่องเที่ยวเท่านั้น โดยสินค้าจะหาซื้อได้ตามศูนย์การค้าทั่วไป แต่ยืนยันว่าการปรับลดภาษีจะพิจารณาอย่างรอบคอบเพื่อไม่ให้กระทบต่อผู้ประกอบการในประเทศ

 รมช.คลังยัน ยังไม่คิดปรับลดภาษีสินค้าฟุ่มเฟือย

นางเบญจา หลุยเจริญ รมช.คลังกล่าวว่า กระทรวงการคลังไม่มีนโยบายที่จะปรับลดภาษีนำเข้าสินค้าฟุ่มเฟือยในทุกรายการสินค้า เพราะเกรงว่าจะกระทบต่อผู้ประกอบการในประเทศ เพราะในบางรายการเอง ผู้ประกอบการในไทยก็สามารถผลิตและส่งออกไปแข่งขันในต่างประเทศได้ ดังนั้นการจะปรับลดภาษีในสินค้าใด ก็ต้องพิจารณาอย่างรอบคอบ โดยพิจารณาถึงมูลค่านำเข้าและผลกระทบต่อผู้ประกอบการไทยด้วย

แหล่งข่าวจากกระทรวงการคลังกล่าวว่า แนวทางการปรับลดภาษีนำเข้าสินค้าฟุ่มเฟือยตามนโยบายของรัฐบาล คงจะใช้วิธีการนำร่องปรับลดภาษีนำเข้าในรายการสินค้าที่ผู้ประกอบการในประเทศได้รับผลกระทบน้อยที่สุดหรือไม่ได้รับผลกระทบเลย โดยเฉพาะในกลุ่มสินค้าที่ไม่ได้มีการผลิตในประเทศ เช่น น้ำหอม และ นาฬิกาเพื่อประเมินถึงผลที่จะเกิดขึ้นกับแนวทางดังกล่าว โดยวัตถุประสงค์ของการปรับลดภาษีในรายการสินค้าดังกล่าว ก็เพื่อกระตุ้นให้เกิดการใช้จ่ายของบรรดานักท่องเที่ยวต่างชาติ
กำลังโหลดความคิดเห็น