กรมการขนส่งฯ เอ็มโอยู ตำรวจ, บขส, ขสมก. บูรณาการมาตรการตรวจ จับ ปรับ รถบรรทุก รถโดยสารที่ทำผิดกฎหมาย ผนวก พ.ร.บ.ขนส่ง, รถยนต์ และจราจรเอาผิดทั้งเจ้าของและคนขับ “อธิบดี ขบ.” ชี้ปัจจุบันมีการฝ่าฝืนกฎหมายมาก โดยเฉพาะขับเร็วทำให้เกิดอุบัติเหตุร้ายแรง มั่นใจเข้มงวดพร้อมสร้างจิตสำนึกช่วยลดปัญหาแบบยั่งยืน
วันนี้ (26 ก.ย.) นายสมชัย ศิริวัฒนโชค อธิบดีกรมการขนส่งทางบก (ขบ.) พล.ต.ต.พงษ์สิทธิ์ แสงเพชร ผู้บังคับการตำรวจทางหลวง พล.ต.ต.ปิยะ ต๊ะวิชัย ผู้บังคับการตำรวจจราจร นายวุฒิชาติ กัลยาณมิตร กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ขนส่ง จำกัด (บขส.) นายโอภาส เพชรมุนี ผู้อำนวยการองค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) ร่วมลงนามบันทึกข้อตกลงว่าด้วยความร่วมมือในการเข้มงวด กวดขัน ตรวจสอบ และจับกุมผู้กระทำการฝ่าฝืนไม่ปฏิบัติตามกฎหมาย เพื่อบูรณาการการคุ้มครองสิทธิ และเสริมสร้างความปลอดภัยของผู้ใช้รถใช้ถนนให้มีความปลอดภัยตลอดการเดินทาง
นายสมชัยเปิดเผยว่า พฤติกรรมการฝ่าฝืนกฎหมายของเจ้าของรถ หรือพนักงานขับรถบรรทุก และรถโดยสารสาธารณะที่พบเห็นในปัจจุบันเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุร้ายแรงบนท้องถนน เช่น การใช้ความเร็วเกินกว่าที่กฎหมายกำหนดและบรรทุกผู้โดยสารเกินจำนวนที่นั่ง, ไม่ติดตั้งเครื่องหมาย RFID ตามที่กรมการขนส่งทางบกกำหนด, ติดแผ่นป้ายทะเบียนชำรุด หรือลบเลือน, แก้ไขดัดแปลงสาระสำคัญของตัวรถ, รถบรรทุกและรถโดยสารที่เดินรถไม่ชิดขอบทางด้านซ้าย รวมทั้งการติดตั้งโคมไฟ ติดสติกเกอร์ และจัดทำรูปภาพที่ไม่ถูกต้องตามกฎหมาย ซึ่งกรมการขนส่งทางบกและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ร่วมกันดำเนินการแก้ไขปัญหาด้วยการเข้มงวด ตรวจจับผู้กระทำความผิดมาอย่างต่อเนื่อง และมีการลงนามเอ็มโอยูร่วมกันเพื่อให้เกิดการบูรณาการร่วมกันอย่างเป็นรูปธรรม
ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ ขบ., ตำรวจ, บขส. และ ขสมก.จะร่วมมือในการเข้มงวดกวดขัน ตรวจสอบ และจับกุมผู้กระทำการฝ่าฝืนไม่ปฏิบัติตามกฎหมาย โดยจะบูรณาการให้ความช่วยเหลือแก่ประชาชนทั่วประเทศภายใต้กรอบอำนาจหน้าที่ของแต่ละหน่วยงานบันทึกข้อตกลงดังกล่าวจะประสานความร่วมมือภายใต้ขอบเขตหน้าที่ โดยจะร่วมมือกันในการเข้มงวดกวดขัน ตรวจสอบ และจับกุมรถที่กระทำการฝ่าฝืนไม่ปฏิบัติตามพระราชบัญญัติการขนส่งทางบก พ.ศ. 2522 และพระราชบัญญัติรถยนต์ พ.ศ. 2522 รวมทั้งพระราชบัญญัติจราจรทางบก พ.ศ. 2522 และกฎหมายอื่นที่เกี่ยวข้อง
โดยจะมีการประชาสัมพันธ์ผ่านสื่อต่างๆ ทั้งในส่วนกลางและส่วนภูมิภาค เพื่อให้ผู้ประกอบการขนส่ง ผู้ขับรถ และประชาชนได้รับทราบโดยทั่วกัน อย่างไรก็ตามมาตรการตรวจจับ ปรับอย่างจริงจัง จะดำเนินการควบคู่ไปกับการรณรงค์ส่งเสริมให้เกิดจิตสำนึกในการเสริมสร้างความปลอดภัยอย่างต่อเนื่อง เพื่อร่วมลดอุบัติเหตุบนท้องถนนอย่างยั่งยืนต่อไป