ตร.ทางหลวงจับ แก๊งค้ากัญชาจากชายแดนหนองคาย เข้าสู่เมืองหลวง ยึดของกลางน้ำหนักกว่า 400 กก.จับผู้ต้องหาเป็นหญิงสูงวัยได้ 1 คน สารภาพถูกว่าจ้างให้มานั่งหวังตบตารเจ้าหน้าที่ ส่วนโซเฟอร์เผ่นหนีก่อนถึงด่านตรวจ
วันนี้ (11 ส.ค.) ที่กองบังคับการตำรวจทางหลวง (บก.ทล.) พล.ต.ต.พงษ์สิทธิ์ แสงเพชร ผบก.ทล. พ.ต.อ.อภิชิต เทียนเพิ่มพูน พ.ต.อ.นิตินันท์ เพชรบรม รอง ผบก.ทล. พ.ต.ท.ภาดล จันทร์ดอน สว.ส.ทล.2 กก.4 บก.ทล.พร้อมเจ้าหน้าที่ชุด กก.4 บก.ทล.แถลงการจับกุม น.ส.ทองสา วงศ์สุ่ย อายุ 65 ปี อยู่บ้านเลขที่ 76 ม.3 ต.ท่าเทววงษ์ อ.เกาะสีชัง จ.ชลบุรี พร้อมของกลางกัญชาอัดแท่ง จำนวน 435 แท่ง น้ำหนักรวม 435 กิโลกรัม มูลค่าประมาณ 8,700,000 บาท รถยนต์ยี่ห้อโตโยต้า รุ่นสปอร์ตไรเดอร์ สีเทา ทะเบียน กง 216 ชัยภูมิ จำนวน 1 คัน และโทรศัพท์มือถือ ยี่ห้อโนเกีย จำนวน 1 เครื่อง จับกุมได้บริเวณทางหลวงหมายเลข 2 (มิตรภาพ) ระหว่าง กม.ที่ 379-380 ต.คำม่วง อ.เขาสวนกวาง จ.ขอนแก่น
พล.ต.ต.พงษ์สิทธิ์ กล่าวว่า สืบเนื่องจากเจ้าหน้าที่ตำรวจทางหลวงได้รับแจ้งจากสายลับ เมื่อวันที่ 11 ส.ค.56 เมื่อเวลาประมาณ 01.00 น.จะมีการลักลอบขนกัญชาจากจังหวัดหนองคาย เข้ามายังพื้นที่กรุงเทพฯ โดยใช้เส้นทางถนนมิตรภาพ จึงนำกำลังตั้งจุดตรวจสกัดบริเวณดังกล่าว พบรถยนต์เก๋งสีเทา-ดำ ไม่ทราบยี่ห้อและหมายเลขทะเบียน เป็นรถสเกาต์ขับนำหน้ามาก่อน จากนั้นพบรถยนต์นั่งส่วนบุคคลยี่ห้อโตโยต้า รุ่นสปอร์ตไรเดอร์ สีเทา ทะเบียน กง 216 ชัยภูมิ ซึ่งตรงกับสายลับแจ้งไว้ขับตามมา เจ้าหน้าที่ได้เรียกรถคันดังกล่าวเพื่อขอทำการตรวจค้น ปรากฏว่าคนขับรถคันดังกล่าวรีบเปิดประตูวิ่งหลบหนีเข้าไปในป่าอ้อยข้างทาง ทางเจ้าหน้าที่ได้กระจายกำลังติดตาม แต่ไม่สามารถจับกุมได้ จากนั้นเจ้าหน้าที่ชุดจับกุมได้เข้าตรวจค้นภายในรถพบ น.ส.ทองสา นั่งอยู่ที่เบาะหน้าด้านข้างคนขับ เมื่อตรวจค้นรถอย่างละเอียด พบกัญชาอัดแท่งห่อด้วยพลาสติกใส บรรจุในกระสอบปุ๋ยและหุ้มด้วยพลาสติกสีดำ จำนวน 10 ถุง รวม 435 กิโลกรัม ซุกซ่อนอยู่ภายในห้องโดยสาร จึงยึดของกลางทั้งหมดพร้อมควบคุมตัวมาสอบสวน
จากการสอบสวน น.ส.ทองสา ให้การรับสารภาพว่า ได้รับการว่าจ้างจากนางสุมาลี ไม่ทราบชื่อและนามสกุลจริง ให้นั่งมาในรถคันดังกล่าวเพื่อตบตาเจ้าหน้าที่ตำรวจว่าเป็นรถคนแก่จะไปโรงพยาบาลนั่งโดยสารมาด้วย มี นายสุธนัย สร้อยกลิ่น หรือ เอ็ด เป็นผู้ขับขี่ (หลบหนีไปได้) โดยใช้รถยนต์เก๋งสีเทา-ดำ เป็นรถนำทาง เพื่อคอยดูด่านตรวจเจ้าหน้าที่ตำรวจ ภายในรถนำจะมี นายอัฐ หรือ ชาญ ฐานะพิมพ์ เป็นคนขับ และนายดอน ไม่ทราบชื่อ-นามสกุลจริง กับนางสุมาลี ผู้ว่าจ้างนั่งมาในรถนำทาง แต่ทั้งหมดสามารถหลบหนีไปได้ ผู้ต้องหายังรับอีกว่า เพิ่งทำเป็นครั้งแรก เนื่องจากตนเองมีอายุมาก และยังป่วยเป็นโรคริดสีดวงทวารหนัก ต้องการหาเงินมารักษาตัวเอง จะได้รับค่าจ้างขนส่งมากรุงเทพฯ จำนวน 40,000 บาท เมื่อส่งกัญชาถึงกรุงเทพฯ แล้ว จะมีคนมารับต่ออีกทอดหนึ่งเพื่อนำส่งไปจำหน่ายยังภาคใต้
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ได้แจ้งข้อหา “ร่วมกันกับพวกที่หลบหนีมียาเสพติดให้โทษประเภท 5 (กัญชา) ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยผิดกฎหมาย และออกหมายจับกุมตัวผู้ร่วมขบวนการทั้งหมดมาดำเนินคดีต่อไป
