ตร.ทางหลวงชุมพร นำกำลังตั้งจุดตรวจจุดสกัดยาเสพติดจับของกลางได้กัญชา 608 กก. และรถกระบะ 1 คัน ส่วนผู้ต้องหาอาศัยความมืดหลบหนีเข้าข้างทางไปได้ คาดอาจเกี่ยวข้องกับผู้ต้องหาตามหมายจับคดียาเสพติดที่หนองคาย ขอนแก่นและชลบุรี เมื่อปี 2554
วันนี้ (29 พ.ค.) เมี่อเวลา 15.00 น. ที่กองบังคับการตำรวจทางหลวง (บก.ทล) พล.ต.ต.พงษ์สิทธิ์ แสงเพชร ผบก.ทล. พ.ต.อ.อภิชิต เทียนเพิ่มพูน พ.ต.อ.นิตินันท์ เพชรบรม รอง ผบก.ทล. พ.ต.อ.อภิชัย ดุษฎีพฤฒิพันธุ์ ผกก.2 บก.ทล. รับผิดชอบในการปฎิบัติบนเส้นทางหลวง มุ่งสู่ภาคใต้ พ.ต.ท.เจริญพงษ์ ขันติโล สว.ส.ทล.4 กก.2 บก.ทล. และเจ้าหน้าที่ตำรวจ ส.ทล.4 กก.2 บก.ทล (ตำรวจทางหลวงชุมพร) แถลงผลการตรวจยึดกัญชาจำนวน 608 แท่ง น้ำหนักรวม 608 กิโลกรัม มูลค่ากว่า 12 ล้านบาท พร้อมของกลางรถยนต์กระบะตอนครึ่งมีหลังคาแครี่บอย ยี่ห้อมิตซูบิชิ สีเทา ทะเบียน ถฎ-6868 กรุงเทพมหานคร จำนวน 1 คัน สามารถตรวจยึดได้บนทางหลวงหมายเลข 41 ระหว่าง กม.ที่ 71-76 ต.บ้านควน อ.หลังสวน จ.ชุมพร
พล.ต.ต.พงษ์สิทธิ์กล่าวว่า สืบเนื่องจากมีสายลับแจ้งว่าจะมีการลักลอบขนยาเสพติดจากภาคตะวันออกเฉียงเหนือสู่ภาคใต้ เจ้าหน้าที่ทางหลวงจังหวัดชุมพรได้นำกำลังตั้งจุดตรวจจุดสกัดที่บริเวณดังกล่าว กระทั่งเมื่อช่วงเช้ามืดเวลาประมาณ 04.00 น.พบกลุ่มรถยนต์กระบะจำนวน 3 คันขับตามกันมา เป็นรถต้องสงสัยตามที่สายลับแจ้งไว้ โดยรถยนต์คันแรกที่เป็นรถสเกาต์หน้า จะคอยขับวนมาดูด่านเจ้าหน้าที่ตำรวจก่อน ส่วนรถยนต์คันที่ 2 ขับตามมาจะเป็นรถคอยกันไม่ให้ตำรวจเข้าใกล้รถของกลาง ซึ่งเป็นรถยนต์คันที่ 3 รถยนต์กระบะหลังคาแครี่บอยบรรทุกกัญชาทั้งหมดไว้
เจ้าหน้าที่จึงได้เรียกให้รถคันดังกล่าวหยุด แต่ผู้ต้องหาไม่ยอมหยุดและลงจากรถยังได้ขับหลบหนีมุ่งหน้าไปทางจังหวัดสุราษฎร์ธานี ชุดจับกุมจึงใช้รถวิทยุสายตรวจหมายเลข 2401 ขับติดตามไป แต่รถคนร้ายได้ปาดหน้ารถสายตรวจไม่ยอมให้แซงขึ้นหน้า จากนั้นเจ้าหน้าที่ตัดสินใจใช้ปืนยิงไปที่ล้อรถเพื่อให้หยุดเมื่อไล่ติดตามมาประมาณ 5 กม. รถคนร้ายได้เลี้ยวรถกลับมุ่งหน้าเข้ากรุงเทพฯ แล้วหยุดรถอาศัยจังหวะรีบวิ่งหลบหนีเข้าข้างทางอย่างรวดเร็ว โดยเจ้าหน้าที่เห็นเป็นชายลักษณะรูปร่างสูงประมาณ 165 ซม. สวมเสื้อเชิ้ตแขนสั้นสีขาว กางเกงยีนส์
จากนั้นเจ้าหน้าที่ทำการตรวจสอบภายในรถยนต์กระบะด้านท้ายพบกัญชาอัดแท่งห่อด้วยกระสอบชั้นแรก ต่อด้วยถุงดำชั้นที่ 2 และกัญชาห่อด้วยกระดาษฟอยล์บรรจุอยู่ในถุงพลาสติกอีกชั้น จำนวน 15 กระสอบๆ ละ 40 ก้อน และมีปากกาเคมีเขียนไว้บนห่อเป็นตัว A นอกจากนี้ตรวจสอบเอกสารผู้ครอบครองรถของกลางคนปัจจุบันทราบชื่อ นายจักรกฤษ แพทย์รักษา อายุ 40 ปี ที่อยู่ 84 หมู่ 2 ต.ท่าคอย อ.ท่ายาง จ.เพชรบุรี ยังพบเอกสารภายในรถเป็นบิลการเติมน้ำมันที่ปั๊มบางจาก ถนนบางนา-ตราด เมื่อเวลาประมาณ 2 ทุ่มกว่า วานนี้ (28 พ.ค.) ก่อนจะมุ่งหน้ามาจังหวัดชุมพร ทางเจ้าหน้าที่ได้ตรวจสอบประวัตินายจักรกฤษพบว่ามีหมายจับคดียาเสพติดเมื่อปี 2554 ท้องที่ สภ.หนองคายและขอนแก่น ในคดียาเสพติด อีกคดีในท้องที่จังหวัดชลบุรีเกี่ยวกับคดียาเสพติด ซึ่งทางเจ้าหน้าที่กำลังขยายผลตรวจสอบว่านายจักรกฤษจะเป็นเจ้าของกัญชาล็อตดังกล่าวหรือไม่
พล.ต.ต.พงษ์สิทธิ์กล่าวอีกว่า เมื่อตรวจสอบกัญชาล็อตนี้พบว่าเป็นเกรดเอชนิดดี ดูจากหีบห่อบรรจุภัณฑ์มีการห่อฟอยล์เตรียมส่งออกประเทศเพื่อนบ้านประเทศมาเลเซีย หากหลุดลอดไปได้จะมีราคาถึงแท่งละ 20,000 บาท รวมกับที่เมื่อวานมีการจับไปแล้วทั้งสิ้นเกือบ 1 ตัน ก่อนจะนำของกลางทั้งหมดส่งเจ้าหน้าที่ บช.ปส.ดำเนินการต่อไป
