รวบสองหนุ่มพะเยาขนเฮโรอีนพร้อมยาบ้าลงภาคใต้

ตำรวจทางหลวงจับกุมสองหนุ่มพะเยาลักลอบขนเฮโรอีนพร้อมยาบ้าลงภาคใต้ พร้อมของกลางเฮโรอีน 8 กก. ยาบ้า 130 เม็ด

เมื่อเวลา 14.00 น. วันนี้ (26 มิ.ย.) ที่กองบังคับการตำรวจทางหลวง (บก.ทล.) พล.ต.ต.พงษ์สิทธิ์ แสงเพชร ผบก.ทล. พ.ต.อ.อภิชิต เทียนเพิ่มพูน รอง ผบก.ทล. พ.ต.อ.สมเดช ตั้งจิตนุสรณ์ รอง ผบก.ทล. พ.ต.อ.ไพรัช พุกเจริญ ผกก. บก.ทล. พ.ต.ท.จรินทร์ ลำลึก สว.ส.ทล.4 กก.1 บก.ทล. พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจทางหลวง 4 กองกำกับการ 1 (นครสวรรค์) แถลงการณ์จับกุม นายสงัด วงศ์มูล อายุ 28 ปี และนายมนตรี สุขยิ่ง อายุ 30 ปี ชาวจังหวัดพะเยา พร้อมของกลางเฮโรอีนบรรจุในถุงพลาสติกใสประทับตราสิงโตคู่เหยียบลูกโลก ห่อด้วยกระดาษฟอยล์จำนวน 8 ห่อ น้ำหนักรวม 3.15 กิโลกรัม ยาบ้าจำนวน 130 เม็ด รถยนต์กระบะยี่ห้ออีซูซุ สีเทา ทะเบียน บธ 9718 พะเยา จำนวน 1 คัน โทรศัพท์มือถือ จำนวน 3 เครื่อง จับกุมได้บริเวณด่านตรวจจังหวัดนครสวรรค์

พล.ต.ต.พงษ์สิทธิ์กล่าวว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจทางหลวงได้รับแจ้งจากสายลับว่าจะมีการลักลอบขนส่งยาเสพติดโดยทางรถยนต์ผ่านมาตามเส้นทางหลวงจากภาคเหนือเข้าสู่กรุงเทพฯ จึงได้นำกำลังรถสายตรวจออกตรวจตามเส้นทางหลวง และเส้นทางสายรองที่ต่อเชื่อมกับถนนสายหลัก ซึ่งเป็นเส้นทางระหว่างอำเภอที่คาดว่าคนร้ายจะใช้สัญจร เพื่อหลีกเลี่ยงด่านตรวจสกัดยาเสพติดในพื้นที่จังหวัดนครสวรรค์เข้าสู่ กทม. กระทั่งเจ้าหน้าที่พบรถกระบะต้องสงสัยขับมาตามถนนสายรองจาก อ.เมือง จ.นครสวรรค์ มุ่งหน้า อ.ท่าตะโก จ.นครสวรรค์ เป็นเส้นทางหลบหลีกด่านสกัดยาเสพติดพยุหะคีรี ได้เรียกขอให้หยุดรถแต่พบผู้ขับขี่ท่าทางมีพิรุธ จึงขอตรวจค้นรถคันดังกล่าว พบเฮโรอีนห่อด้วยกระดาษฟอยล์จำนวน 8 ห่อ และยาบ้าบรรจุถุงพลาสติกสีฟ้าจำนวน 130 เม็ด ซุกซ่อนอยู่ในถังน้ำมันของรถกระบะคันดังกล่าวซึ่งดัดแปลงเป็นช่องเก็บของลับ โดยแบ่งเป็นส 2 ช่องอย่างละครึ่งไว้บรรจุน้ำมันครึ่งหนึ่ง ส่วนอีกครึ่งหนึ่งซุกซ่อนยาเสพติดไว้ทั้งหมด เจ้าหน้าที่จึงยึดของกลางทั้งหมดพร้อมควบคุมตัวมาสอบสวน

จากการสอบสวนผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่า ได้รับการว่าจ้างมาจากนายหน้าชื่อนางป้อน คนจังหวัดเดียวกัน จะโทรศัพท์มาสั่งให้ลำเลียงยาเสพติดจากจังหวัดพะเยาไปส่งยังจังหวัดยะลา โดยกำลังจะนำยาเสพติดล็อตนี้ไปพักย่านตลาดไทยก่อนนำลงสู่ภาคใต้ แต่มาถูกจับกุมเสียก่อน ได้ค่าจ้างครั้งละ 150,000 บาทต่อคน ทำมาแล้ว 2 ครั้ง

เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ได้แจ้งข้อหาร่วมกันมียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (เฮโรอีนและยาบ้า) ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยผิดกฎหมาย ก่อนนำตัวพร้อมของกลางส่งพนักงานสอบสวน บช.ปส.ดำเนินคดีต่อไป