กระทรวงยุติธรรมสหรัฐกำลังเตรียมฟ้องเจพี มอร์แกน เชส แอนด์ โค ในกรณีที่ทางธนาคารเคยขายตราสารหนี้จำนองในช่วงก่อนเกิดวิกฤติการเงิน และสิ่งนี้เป็นสัญญาณบ่งชี้ว่า ปัญหาทางกฎหมายของเจพีมอร์แกนยังไม่สิ้นสุดลง แหล่งข่าวกล่าวว่า กระทรวงยุติธรรมอาจยื่นเรื่องฟ้องร้องในวันนี้
เจพีมอร์แกนเคยเปิดเผยในเดือนส.ค.ว่า อัยการของรัฐบาลกลางสหรัฐในรัฐแคลิฟอร์เนียกำลังสอบสวนทั้งทางแพ่งและทางอาญาในหลักทรัพย์จำนองของเจพีมอร์แกน
ในการสอบสวนดังกล่าว อัยการได้ข้อสรุปว่า เจพีมอร์แกนได้กระทำการละเมิดทางแพ่งต่อกฎหมายหลักทรัพย์ ด้วยการเสนอขายตราสารหนี้จำนองในปี 2005-2007 ซึ่งตราสารดังกล่าวได้รับการค้ำประกันจากสัญญาจำนองที่อยู่อาศัยของลูกหนี้ที่มีความน่าเชื่อถือต่ำ (ซับไพร์ม) หรือสัญญาจำนองที่มีความเสี่ยงสูงอื่นๆ
เมื่อไม่ถึงหนึ่งสัปดาห์ก่อนหน้านี้ เจพีมอร์แกนซึ่งเป็นธนาคารที่ใหญ่ที่สุดในสหรัฐ ได้จ่ายเงิน 1 พันล้านดอลลาร์เพื่อรอมชอมคดีอื้อฉาว London Whale และคดีออกใบแจ้งหนี้ผิดพลาดแก่ลูกค้าบัตรเครดิต
ขณะนี้ยังไม่เป็นที่แน่ชัดว่า ข้อกล่าวหาใหม่นี้จะเป็นข้อกล่าวหาในทางแพ่งหรือทางอาญา หรือทั้งสองกรณี
แหล่งข่าวกล่าวต่อรอยเตอร์ว่า การสอบสวนในเขตตะวันออกของรัฐแคลิฟอร์เนียนี้เกี่ยวข้องกับตราสารหนี้จำนองที่เสนอขายโดยเจพีมอร์แกน เอง และไม่เกี่ยวกับตราสารหนี้ที่เสนอขายโดยบริษัทอื่นๆที่เจพีมอร์แกนเข้าซื้อไว้ในช่วงที่เกิดวิกฤติการเงิน อย่างเช่นบริษัทวอชิงตัน มิวชวล และบริษัทแบร์ สเติร์นส์
คดีใหม่นี้ตอกย้ำให้เห็นว่า นายเจมี ไดมอน ซีอีโอของเจพีมอร์แกนมีความสามารถอันจำกัดในการสกัดกั้นปัญหาทางกฎหมายของเจพีมอร์แกนที่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ
ถึงแม้เจพีมอร์แกนคลี่คลายปัญหาใหญ่ในคดี London Whale ไปได้แล้วแต่ทางธนาคารก็ยังคงมีโอกาสถูกฟ้องร้องในทางอาญาจากหน่วยงานควบคุมกฎระเบียบตราสารอนุพันธ์ในกรณี London Whale
นอกจากการถูกฟ้องร้องโดยกระทรวงยุติธรรมสหรัฐแล้ว ธุรกิจหลักทรัพย์ที่ได้รับการค้ำประกันจากสัญญาจำนอง (MBS) ของเจพีมอร์แกนก็เผชิญกับปัญหาอื่นๆด้วยเช่นกัน โดยในขณะนี้อัยการในเมืองฟิลาเดลเฟียและรัฐนิวเจอร์ซีย์ กำลังจัดเตรียมคดีที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจแบร์ สเติร์นส์ โดยเจพีมอร์แกนได้เข้าซื้อ แบร์ สเติร์นส์ในปี 2008 ตามคำขอร้องของรัฐบาลสหรัฐ
นายเอริค ชไนเดอร์แมน อัยการสูงสุดของนิวยอร์ค ได้ฟ้องเจพีมอร์แกน ในเดือนต.ค. 2012 เกี่ยวกับ MBS ที่ได้รับการรวบรวมและจำหน่ายโดย เจพีมอร์แกน
เมื่อเกือบสองปีก่อนหน้านี้ ประธานาธิบดีบารัค โอบามาได้ประกาศจัดตั้ง คณะทำงานเฉพาะกิจเพื่อสอบสวนการกระทำผิดที่มีส่วนทำให้เกิดวิกฤติการเงินปี 2007-2009 นอกจากนี้ นายเอริค โฮลเดอร์ รมว.ยุติธรรมสหรัฐ ก็ให้สัญญาว่าจะดำเนินคดีครั้งใหญ่เกี่ยวกับ MBS ด้วย
อย่างไรก็ดี กระทรวงยุติธรรมสหรัฐได้ถูกวิพากษ์วิจารณ์ในช่วงที่ผ่านมาว่าทางกระทรวงแทบไม่ได้ฟ้องร้องบริษัทการเงินขนาดใหญ่หรือผู้บริหารของบริษัทกลุ่มนี้
ในเดือนส.ค.ที่ผ่านมา กระทรวงยุติธรรมและคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ของสหรัฐได้ฟ้องร้องธนาคารแบงก์ ออฟ อเมริกา คอร์ป และกล่าวหาทางธนาคารว่าฉ้อโกงนักลงทุนในการขายหลักทรัพย์ที่ได้รับการค้ำประกันจากสัญญาจำนองที่อยู่อาศัย (RMBS) เป็นมูลค่า 850 ล้านดอลลาร์
ธนาคารแบงก์ ออฟ อเมริกามีกำหนดจะต้องขึ้นศาลสหรัฐในวันนี้ในอีกคดีหนึ่งซึ่งเกี่ยวข้องกับการที่กิจการคันทรีไวด์ในเครือแบงก์ ออฟ อเมริกาได้ขายสินเชื่อให้แก่สมาคมการจำนองแห่งชาติของรัฐบาลกลาง (แฟนนี เม) และบรรษัทจำนองสินเชื่อบ้านของรัฐบาลกลาง (เฟรดดี แมค)
(ข่าวจากสำนักข่าว รอยเตอร์)
ทวีสุข ธรรมศักดิ์
Executive Vice President.
RHB-OSK Securities (Thailand)PLC
RHB Banking Group
เจพีมอร์แกนเคยเปิดเผยในเดือนส.ค.ว่า อัยการของรัฐบาลกลางสหรัฐในรัฐแคลิฟอร์เนียกำลังสอบสวนทั้งทางแพ่งและทางอาญาในหลักทรัพย์จำนองของเจพีมอร์แกน
ในการสอบสวนดังกล่าว อัยการได้ข้อสรุปว่า เจพีมอร์แกนได้กระทำการละเมิดทางแพ่งต่อกฎหมายหลักทรัพย์ ด้วยการเสนอขายตราสารหนี้จำนองในปี 2005-2007 ซึ่งตราสารดังกล่าวได้รับการค้ำประกันจากสัญญาจำนองที่อยู่อาศัยของลูกหนี้ที่มีความน่าเชื่อถือต่ำ (ซับไพร์ม) หรือสัญญาจำนองที่มีความเสี่ยงสูงอื่นๆ
เมื่อไม่ถึงหนึ่งสัปดาห์ก่อนหน้านี้ เจพีมอร์แกนซึ่งเป็นธนาคารที่ใหญ่ที่สุดในสหรัฐ ได้จ่ายเงิน 1 พันล้านดอลลาร์เพื่อรอมชอมคดีอื้อฉาว London Whale และคดีออกใบแจ้งหนี้ผิดพลาดแก่ลูกค้าบัตรเครดิต
ขณะนี้ยังไม่เป็นที่แน่ชัดว่า ข้อกล่าวหาใหม่นี้จะเป็นข้อกล่าวหาในทางแพ่งหรือทางอาญา หรือทั้งสองกรณี
แหล่งข่าวกล่าวต่อรอยเตอร์ว่า การสอบสวนในเขตตะวันออกของรัฐแคลิฟอร์เนียนี้เกี่ยวข้องกับตราสารหนี้จำนองที่เสนอขายโดยเจพีมอร์แกน เอง และไม่เกี่ยวกับตราสารหนี้ที่เสนอขายโดยบริษัทอื่นๆที่เจพีมอร์แกนเข้าซื้อไว้ในช่วงที่เกิดวิกฤติการเงิน อย่างเช่นบริษัทวอชิงตัน มิวชวล และบริษัทแบร์ สเติร์นส์
คดีใหม่นี้ตอกย้ำให้เห็นว่า นายเจมี ไดมอน ซีอีโอของเจพีมอร์แกนมีความสามารถอันจำกัดในการสกัดกั้นปัญหาทางกฎหมายของเจพีมอร์แกนที่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ
ถึงแม้เจพีมอร์แกนคลี่คลายปัญหาใหญ่ในคดี London Whale ไปได้แล้วแต่ทางธนาคารก็ยังคงมีโอกาสถูกฟ้องร้องในทางอาญาจากหน่วยงานควบคุมกฎระเบียบตราสารอนุพันธ์ในกรณี London Whale
นอกจากการถูกฟ้องร้องโดยกระทรวงยุติธรรมสหรัฐแล้ว ธุรกิจหลักทรัพย์ที่ได้รับการค้ำประกันจากสัญญาจำนอง (MBS) ของเจพีมอร์แกนก็เผชิญกับปัญหาอื่นๆด้วยเช่นกัน โดยในขณะนี้อัยการในเมืองฟิลาเดลเฟียและรัฐนิวเจอร์ซีย์ กำลังจัดเตรียมคดีที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจแบร์ สเติร์นส์ โดยเจพีมอร์แกนได้เข้าซื้อ แบร์ สเติร์นส์ในปี 2008 ตามคำขอร้องของรัฐบาลสหรัฐ
นายเอริค ชไนเดอร์แมน อัยการสูงสุดของนิวยอร์ค ได้ฟ้องเจพีมอร์แกน ในเดือนต.ค. 2012 เกี่ยวกับ MBS ที่ได้รับการรวบรวมและจำหน่ายโดย เจพีมอร์แกน
เมื่อเกือบสองปีก่อนหน้านี้ ประธานาธิบดีบารัค โอบามาได้ประกาศจัดตั้ง คณะทำงานเฉพาะกิจเพื่อสอบสวนการกระทำผิดที่มีส่วนทำให้เกิดวิกฤติการเงินปี 2007-2009 นอกจากนี้ นายเอริค โฮลเดอร์ รมว.ยุติธรรมสหรัฐ ก็ให้สัญญาว่าจะดำเนินคดีครั้งใหญ่เกี่ยวกับ MBS ด้วย
อย่างไรก็ดี กระทรวงยุติธรรมสหรัฐได้ถูกวิพากษ์วิจารณ์ในช่วงที่ผ่านมาว่าทางกระทรวงแทบไม่ได้ฟ้องร้องบริษัทการเงินขนาดใหญ่หรือผู้บริหารของบริษัทกลุ่มนี้
ในเดือนส.ค.ที่ผ่านมา กระทรวงยุติธรรมและคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ของสหรัฐได้ฟ้องร้องธนาคารแบงก์ ออฟ อเมริกา คอร์ป และกล่าวหาทางธนาคารว่าฉ้อโกงนักลงทุนในการขายหลักทรัพย์ที่ได้รับการค้ำประกันจากสัญญาจำนองที่อยู่อาศัย (RMBS) เป็นมูลค่า 850 ล้านดอลลาร์
ธนาคารแบงก์ ออฟ อเมริกามีกำหนดจะต้องขึ้นศาลสหรัฐในวันนี้ในอีกคดีหนึ่งซึ่งเกี่ยวข้องกับการที่กิจการคันทรีไวด์ในเครือแบงก์ ออฟ อเมริกาได้ขายสินเชื่อให้แก่สมาคมการจำนองแห่งชาติของรัฐบาลกลาง (แฟนนี เม) และบรรษัทจำนองสินเชื่อบ้านของรัฐบาลกลาง (เฟรดดี แมค)
(ข่าวจากสำนักข่าว รอยเตอร์)
ทวีสุข ธรรมศักดิ์
Executive Vice President.
RHB-OSK Securities (Thailand)PLC
RHB Banking Group