“ยรรยง” อัดฝ่ายค้านมั่วข้อมูลสินค้าราคาแพง หลังตรวจตลาดไม่พบแพงตามอ้าง แต่ยอมรับไข่ไก่แพงขึ้นจริง ยันการแทรกแซงเพื่อช่วยผู้บริโภค ส่วนผู้เลี้ยงรอเอ้กบอร์ดเคาะช่วย โต้ “ปู” แพง 400% เวอร์เกิน
นายยรรยง พวงราช รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ กล่าวภายหลังการตรวจสอบราคาสินค้าในตลาดสดยิ่งเจริญว่า ราคาสินค้าอาหารสดทั่วไปมีแนวโน้มลดลงหลายรายการ การที่พรรคฝ่ายค้านออกมาระบุว่าราคาสินค้าใน 2 ตลาดใหญ่ ได้แก่ ตลาดยิ่งเจริญ และตลาดไท มีการแอบปรับราคาสินค้าอุปโภคบริโภคและอาหารสำเร็จรูปเพิ่มขึ้น 20-30% นั้น เท่าที่ตรวจสอบราคาสินค้าทั้ง 2 ตลาดไม่ได้มีการปรับราคาเพิ่มขึ้นตามที่มีการกล่าวอ้าง จึงไม่ทราบเจตนาผู้ให้ข่าวว่าออกมาสำรวจตลาดจริงหรือไม่
“หากพรรคฝ่ายค้านมีข้อมูลว่าราคาสินค้าเพิ่มขึ้นจริง ขอให้ส่งรายละเอียดมาที่กรมการค้าภายใน และการที่หัวหน้าทีมเศรษฐกิจพรรคประชาธิปัตย์ออกมาระบุว่ากระทรวงพาณิชย์บิดเบือนตัวเลขเงินเฟ้อ จึงไม่รู้ว่าเข้าใจอัตราเงินเฟ้อมากน้อยแค่ไหน”
นายยรรยงกล่าวว่า จากการสำรวจตลาดมีสินค้าที่ปรับราคาเพิ่มสูงขึ้นเพียงรายการเดียว คือ ไข่ไก่ เพราะความต้องการบริโภคมีมากถึง 36-37 ล้านฟอง/วัน สูงกว่าผลผลิตที่ 34 ล้านฟอง/วัน ทำให้ขาดแคลนอยู่ 2 ล้านฟอง/วัน แต่หากดูจากต้นทุนไข่ไก่อยู่ที่ 2.88 บาท/ฟอง เท่ากับว่าเกษตรกรจะมีกำไรเกินกว่า 20% รัฐบาลจึงต้องเข้ามาดูแลในส่วนผู้บริโภคให้เกิดความสมดุลระหว่างราคา ส่วนมาตรการอื่นๆ ที่จะช่วยเหลือเกษตรกรผู้เลี้ยงไก่ไข่ เป็นเรื่องของคณะกรรมการนโยบายพัฒนาไก่ไข่และผลิตภัณฑ์ (เอ้กบอร์ด) ที่จะประชุมในวันที่ 17 ก.ย.นี้
สำหรับกรณีที่กลุ่มเกษตรกรผู้เลี้ยงไก่ไข่ได้ร้องเรียนศาลปกครองขอให้คุ้มครองชั่วคราวกรณีที่ภาครัฐออกมาตรึงราคาไข่คละที่ 3.50 บาท/ฟอง ต้องขอขอบคุณเกษตรกรที่ไปฟ้องร้อง เพราะเป็นสิทธิตามรัฐธรรมนูญที่สามารถดำเนินการร้องเรียนตามกฎหมายได้ และเชื่อว่าแนวทางดังกล่าวดีกว่าการจัดม็อบมาปิดถนนสร้างความเดือดร้อนให้ประชาชน
“เท่าที่หารือกับผู้ประกอบการต่างตอบรับที่จะช่วยเหลือผู้บริโภค โดยยอมตรึงราคาไข่คละหน้าฟาร์มไว้ที่ฟองละ 3.50 บาท และนำไข่ไก่ส่วนหนึ่งมาเข้าร่วมโครงการธงฟ้าวันละ 2 ล้านฟอง ตลอด 3 สัปดาห์ ซึ่งยืนยันว่าไม่ได้นำไข่ไก่ธงฟ้ามาขายแข่งหรือตัดราคาในตลาด แต่เป็นเพียงการขอความร่วมมือเพื่อให้เกิดความสมดุลเท่านั้น” นายยรรยงกล่าว
นายยรรยงกล่าวว่า สินค้าปูทะเลที่พรรคฝ่ายค้านระบุว่าแพงขึ้น 400% เท่าที่มีการสำรวจราคาไม่ได้แพงขนาดนั้น โดยราคาที่สูงขึ้นแค่ กก.ละ 50 บาท อีกทั้งปูทะเลไม่ได้เป็นราคาควบคุม