xs
xsm
sm
md
lg

นักลงทุนไทย-เทศห่วงจำนำข้าว-คอร์รัปชันฉุด ศก.ไทยระยะยาว

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


นักลงทุนไทย-เทศ ห่วงนโยบายการแทรกแซงราคาสินค้าเกษตรโดยเฉพาะจำนำข้าวจะนำมาซึ่งวิกฤตในอนาคตกระทบ ศก. การลงทุนหากหนี้พุ่ง เช่นเดียวกับการคอร์รัปชันที่สูงขึ้น ส.อ.ท.กรีดยับไม่มีอะไรไม่คอร์รัปชัน ภาษีฯ รง.4
 

นายเซยา ซูกิกาวา (Seiya Sukegawa) รองประธานฝ่ายวิเคราะห์เศรษฐกิจ และนักเศรษฐศาสตร์อาวุโส องค์การวันที่ส่งเสริมการค้าต่างประเทศของญี่ปุ่น (เจโทร) เปิดเผยในงานสัมมนา “อนาคตลงทุนไทย มองอย่างไรในสายตานักลงทุน” ซึ่งจัดโดยสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) ว่า ญี่ปุ่นเป็นห่วงนโยบายการอุดหนุนหรือแทรกแซงราคาพืชผลทางการเกษตรของไทยโดยเฉพาะข้าวที่จะต้องใช้เงินจำนวนมากซึ่งจำเป็นที่ควรให้ภาคเกษตรยืนได้ด้วยตนเอง อย่างไรก็ตาม ญี่ปุ่นยังคงมองไทยเป็นฐานการผลิตที่สำคัญและลงทุนเป็นอันดับ 1 เนื่องจากมีอุตสาหกรรมสนับสนุนที่พร้อม รวมถึงโครงสร้างพื้นฐานและสิทธิ์ประโยชน์การลงทุน

“การขยายการลงทุนของอุตสาหกรรมสนับสนุนไปยังประเทศเพื่อนบ้านเพื่อลดความเสี่ยงหลังจากเหตุการณ์น้ำท่วมที่ไทยมีผลกระทบอย่างมาก และค่าแรงที่ปรับขึ้นเป็น 300 บาทต่อวันทั่วประเทศแต่ภาพรวมฐานการผลิตยังคงอยู่ไทย อย่างไรก็ตาม ปัจจัยที่จะมีผลต่อการตัดสินใจลงทุนในไทย คือ ความไม่ชัดเจนในระบบภาษีต่างๆ โดยเฉพาะพิกัดศุลกากร ที่พบว่าบ่อยครั้งทำให้เกิดต้นทุนที่ไม่ได้วางแผนเอาไว้” นายเซยากล่าว

นายสนั่น อังอุบลกุล รองประธานกรรมการหอการค้าไทย กล่าวว่า เป็นห่วงนโยบายการแทรกแซงราคาพืชผลทางการเกษตรหรือการอุดหนุนที่มากเกินไปโดยเฉพาะข้าว ยางพาราและต่อไปจะมีพืชเกษตรอื่นๆ อีก ซึ่งจะเกิดวิกฤตในระยะยาวต่อระบบเศรษฐกิจและสังคม เพราะจะทำให้หนี้ภาครัฐสูงขึ้น เกิดความไม่แน่นอนทางสังคม บรรยากาศการลงทุนก็ย่อมไม่เกิดขึ้น ขณะเดียวกัน ค่าแรง 300 บาทต่อวันเท่ากันทั่วประเทศ บางจังหวัดได้เพิ่มขึ้นนับเท่าตัวทำให้ธุรกิจขนาดเล็กปรับตัวลำบาก

นายเจน นำชัยศิริ รองประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) กล่าวว่า เราคงต้องพูดความจริงกันความไม่ชัดเจนภาษีฯ ไม่ว่าจะเป็นศุลกากร สรรพากร ถามว่าคอร์รัปชันใหม่บอกได้ว่ามีไม่น้อย กรณีการอนุญาตประกอบกิจการโรงงานหรือรง.4ที่ดังไปทั่วโลกขณะนี้ก็มีไม่น้อยเหมือนกันเชื่อว่าการคอร์รัปชั่นในไทยมีมากเกิน 50% อดีตสามารถครอบคลุมต้นทุนได้หมด แต่ขณะนี้เริ่มเติบโตมากจนเริ่มจะทำให้ปัจจัยบวกในการลงทุนอื่นลดลง คงต้องถามว่าเราจะแก้กันไหม และถ้าแก้เราเองก็ต้องเริ่มที่ตนเองก่อน ซึ่งยอมรับว่ายากอยู่ที่จะปฏิเสธเพราะหากธุรกิจไม่จ่ายก็ย่อมเจ๊ง
กำลังโหลดความคิดเห็น