นายกสมาคมพืชสวนฯคาดจำนำข้าวที่ล่าสุดคาดใช้เงินแล้วล้านล้านบาทกำลังเป็นนโยบายที่จะทำให้พืชอื่นๆ ร้องอุ้มราคาหากตกต่ำและไม่มีเหตุผลที่รัฐจะไม่ช่วยเหลือกรณียางพาราตัวอย่างที่ควรนำมาเป็นบทเรียน จี้รัฐวางยุทธศาสตร์พัฒนาพืช ศก.ที่มีอยู่ราว 15 ชนิดใหม่เพื่อแก้ปัญหาระยะยาวและยั่งยืน
นายอนันต์ ดาโลดม นายกสมาคมพืชสวนแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า การจำนำข้าวของรัฐบาลตั้งแต่ที่ผ่านมาจนถึงขณะนี้กว่า 2 ปี คาดว่าได้มีการใช้เงินในการดำเนินงานทั้งหมดไปแล้ว 1 ล้านล้านบาท และนโยบายการจำนำข้าวจะกลับมาเป็นสิ่งที่ทำให้พืชเกษตรอื่นๆ เมื่อราคาตกต่ำจะเกิดการเรียกร้องการดูแลจากรัฐบาลและตัวอย่างล่าสุดที่เห็นก็คือยางพารา ดังนั้น รัฐบาลควรจะทบทวนยุทธศาสตร์ของพืชเศรษฐกิจของไทยที่มีประมาณ 15 ชนิดใหม่หมดเพื่อที่จะแก้ไขปัญหาในระยะยาวไม่ใช่แก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าเช่นกรณียางพารา
“กรณียางพารานั้นเกิดจากเศรษฐกิจโลกถดถอย สัญญาณราคาตกต่ำมีมาระยะหนึ่งแล้ว และรัฐบาลเองก็ทราบดีว่าเกษตรกรมีการยื่นหนังสือและเรียกร้องให้รัฐบาลช่วยเหลือแต่จะด้วยเหตุผลใดที่ผ่านมาก็ไม่ทราบหรืออาจจะประมาทว่าคงไม่มีอะไรมากก็เลยนิ่งเฉย และการช่วยเหลือแน่นอนว่าปฏิเสธได้ยาก เพราะยางพาราก็ราคากลไกตลาดเช่นเดียวกับข้าว ซึ่งกรณียางสิ่งสำคัญคือการที่รัฐบาลจะต้องวางยุทธศาสตร์และกำหนดเป้าหมายการนำมาแปรรูปให้มากสุด โดยตั้งเป้าหมายให้ชัดเจนเพราะมาเลเซียผลิตยางน้อยกว่าไทย 4 เท่า แต่กลับมีการส่งออกผลิตภัณฑ์ยางมูลค่า 6-7 แสนล้านบาท ใกล้เคียงกับไทยที่มีผลผลิตยางจำนวนมากถึง” นายอนันต์กล่าว
ทั้งนี้ สิ่งที่รัฐบาลควรจะต้องเร่งดำเนินการ คือ การวางยุทธศาสตร์พืชผลทางการเกษตรที่เป็นพืชเศรษฐกิจของไทยได้แก่ ข้าว ยางพารา อ้อย ข้าวโพด มันสำปะหลัง ปาล์ม หอมแดง กระเทียม กล้วยไม้ ไม้ผล เช่น ทุเรียน ลำไย เงาะ รวมถึงปศุสัตว์ เช่น โคนมโคเนื้อ ไข่ ไก่ กุ้งกุลาดำ โดยมีการวางกรอบการพัฒนาและเป้าหมายที่ชัดเจนไม่ใช่ปล่อยให้เป็นไปตามยถากรรมเช่นปัจจุบัน