ตรัง - หอการค้า จ.ตรัง เตรียมผลักดันโครงการ 1 ไร่ 1 แสนบาท เป็นแห่งแรกของภาคใต้ ที่จังหวัดตรัง เพื่อเป็นแนวทางช่วยเหลือเกษตรกรชาวสวนยาง ซึ่งกำลังประสบปัญหาราคาตกต่ำอย่างหนัก
นายสลิล โตทับเที่ยง ประธานหอการค้าจังหวัดตรัง เปิดเผยว่า ขณะนี้ชาวตรัง หรือชาวภาคใต้ มีความเสี่ยงทางด้านเศรษฐกิจค่อนข้างสูง เนื่องจากพึ่งพาการทำสวนยางพาราเพียงอย่างเดียว เนื่องจากถ้าหากพืชเศรษฐกิจเหล่านี้มีราคาตกต่ำลงมาอย่างหนัก เหมือนกับที่กำลังเกิดขึ้นในปัจจุบัน ก็ย่อมจะส่งผลกระทบต่อการดำรงชีวิตของเกษตรกรเป็นอย่างมาก ดังนั้น หอการค้าไทยจึงได้น้อมนำเอาปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง มาเพื่อส่งเสริมให้แก่เกษตรกรในภูมิภาคต่างๆ นับตั้งแต่เมื่อปี 2553 ตามโครงการ 1 ไร่ 1 แสนบาท
ทั้งนี้ ในโอกาสที่จะมีการประชุมใหญ่สามัญประจำปี 2556 ของหอการค้าทั่วประเทศ ในปลายปีนี้ ที่จังหวัดตรัง ทางหอการค้าจะผลักดันให้เกิดโครงการ 1 ไร่ 1 แสนบาท ขึ้นเป็นแห่งแรกของพื้นที่ภาคใต้ ที่จังหวัดตรัง ในเดือนสิงหาคมนี้ เนื่องจากเมื่อลองเทียบพื้นที่ 1 ไร่ สำหรับการปลูกยางพาราแล้ว พบว่าถึงแม้จะมีราคาขึ้นไปถึงกิโลกรัมละ 100 บาท แต่จะทำให้มีรายได้เพียงแค่ไร่ละ 3 หมื่นบาทต่อปีเท่านั้น ซึ่งไม่เพียงพอต่อการใช้จ่ายของเกษตรกรที่สูงขึ้นในยุคปัจจุบัน จึงเห็นควรเร่งผลักดันโครงการนี้ออกไปสู่พื้นที่ต่างๆ ให้มากที่สุด
ซึ่งผลจากการทดลองดำเนินโครงการ 1 ไร่ 1 แสนบาท ในภาคอื่นๆ พบว่า ในพื้นที่ 1 ไร่ เกษตรกรสามารถสร้างรายได้ให้สูงถึงปีละ 1.5 แสนบาท ดีกว่านำพื้นที่เหล่านี้ไปปลูกเฉพาะยางพาราถึง 10 ไร่ จึงเป็นแนวคิดใหม่สำหรับเกษตรกรในจังหวัดตรัง หรือภาคใต้ ที่ควรจะนำมาทบทวน หรือเปลี่ยนแปลงพฤติกรรม โดยอย่าพึงพอพอใจแค่เพียงการทำสวนยางพารา โดยมิได้พัฒนาคุณภาพ ลดต้นทุน และเพิ่มรายได้ เพราะในอนาคตข้างหน้าอาจจะต้องเจอกับความเสี่ยงในหลายๆ ด้าน นอกเหนือไปจากเรื่องราคา และสภาพธรรมชาติ
สำหรับพื้นที่ว่างภายในสวนยางพารานั้น เกษตรกรสามารถปลูกพืชชนิดอื่นๆ แซมได้ โดยเฉพาะพืชผักสวนครัว รวมทั้งยังเหมาะต่อการเลี้ยงไก่พื้นบ้าน ปลาดุก และกบ ขณะที่เศษพืชผัก หรือมูลสัตว์ ก็ถือเป็นปุ๋ยธรรมชาติชั้นดี แทนที่เกษตรกรจะต้องไปซื้อปุ๋ยเคมีซึ่งมีต้นทุนสูงมาก หรือถ้าสามารถแบ่งพื้นที่ว่างไปปลูกข้าวร่วมด้วย ก็จะยิ่งก่อให้เกิดประโยชน์ต่อเกษตรกรอย่างมาก เพราะนอกจากสร้างแหล่งอาหารในครอบครัวแล้ว ยังสร้างรายได้เสริมให้อีกด้วย ดีกว่าปล่อยทิ้งร้าง หรือนำไปใช้ประโยชน์ได้ไม่เต็มที่