สุวรรณภูมิเปิดศูนย์อำนวยความสะดวกผู้เดินทางไปประกอบพิธีฮัจญ์ทั้งไปและกลับ ช่วงระหว่าง 4 ก.ย. - 3 ต.ค.คาดมีกว่า 6,400 คน ด้านดอนเมืองจัดทีมดูแลนักท่องเที่ยวจีน (Airport Help) เป็นพิเศษเน้นการสื่อสารภาษาจีนเพื่ออำนวยความสะดวก เหตุผู้โดยสาร 4 หมื่นคน/วัน เป็นคนจีนถึง 80%
นางระวีวรรณ เนตระคเวสนะ ผู้อำนวยการท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ ทอท.เปิดเผยว่า ในช่วงพิธีฮัจญ์ประจำปี 2556 ซึ่งถือเป็นเทศกาลสำคัญที่จะมีผู้ที่นับถือศาสนาอิสลามในประเทศไทย เดินทางไปประกอบพิธีฮัจญ์ ณ เมืองเมกกะ ราชอาณาจักรซาอุดีอาระเบีย เป็นจำนวนมาก โดยในส่วนของท่าอากาศยานสุวรรณภูมิจะมีผู้แสวงบุญเริ่มทะยอยเดินทางออกจากประเทศไทย ตั้งแต่วันที่ 4 กันยายน ถึง 3 ตุลาคม 2556 รวมทั้งสิ้น 6,461 คน หรือเฉลี่ยวันละประมาณ 215 คน ดังนั้นเพื่อให้ผู้แสวงบุญได้รับการบริการที่สะดวกรวดเร็ว ทอท.จึงได้ร่วมกับสำนักงานวัฒนธรรม จังหวัดสมุทรปราการ จัดตั้งศูนย์อำนวยความสะดวกแก่ผู้ที่เดินทางไปประกอบพิธีฮัจญ์ ที่บริเวณ ประตู 8 ชั้น 4 อาคารผู้โดยสาร ใกล้กับเคาน์เตอร์ตรวจบัตรโดยสารแถว R-S ซึ่งเริ่มให้บริการแก่ผู้ที่จะไปแสวงบุญตั้งแต่วันที่ 4 กันยายนที่ผ่านมา
โดยภายในศูนย์ฯ จะมีเจ้าหน้าที่ของ ทอท.เจ้าหน้าที่จากสำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดสมุทรปราการ เจ้าหน้าที่กรมการศาสนา รวมทั้งมีล่ามภาษามลายู ประจำอยู่ภายในศูนย์ฯ คอยให้คำแนะนำที่เป็นประโยชน์เกี่ยวกับการเดินทางในด้านต่างๆ ในช่วงที่มีเที่ยวบินเดินทาง เช่น การผ่านพิธีการขั้นตอนกระบวนการผู้โดยสารขาออก ข้อห้ามในการนำของเหลว เจล สเปรย์ขึ้นเครื่อง เป็นต้น โดยจะประสานงานกับหน่วยงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง ทั้งสายการบิน สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง ศุลกากร เพื่ออำนวยความสะดวกแก่ผู้แสวงบุญให้ได้รับการบริการที่รวดเร็วเป็นพิเศษ ตั้งแต่ขั้นตอนการตรวจบัตรโดยสาร การผ่านจุดตรวจค้น การตรวจหนังสือเดินทาง การผ่านพิธีการศุลกากรขาออก ไปจนถึงการขึ้นเครื่อง โดยเจ้าหน้าที่ 1 คนจะให้การดูแลผู้แสวงบุญ 50 คน ซึ่งจะทำให้ผู้แสวงบุญได้รับความสะดวก รวดเร็วในการใช้บริการเป็นอย่างมาก
นอกจากนี้ยังได้จัดเตรียมสิ่งอำนวยความสะดวกในด้านอื่นๆ ไว้รองรับ ผู้แสวงบุญและญาติที่เดินทางไปส่ง เช่น การจัดพื้นที่นั่งพักคอยที่ห้องโถงผู้โดยสารขาออก การ จัดทำป้ายบอกทิศทางเป็นภาษามลายูติดตั้งในพื้นที่ต่างๆ การจัดจุดจอดรถรับ-ส่งผู้แสวงบุญที่บริเวณชานชาลาด้านนอกชั้น 4 ประตู 10 รวมทั้งยังมีห้องละหมาดไว้ให้บริการผู้แสวงบุญจำนวน 3 ห้อง ที่ชั้น 3 อาคารผู้โดยสาร ฝั่งตะวันตก และที่ชั้น 2 ภายในอาคารเทียบเครื่องบิน C และ E ด้วย ซึ่ง ทอท.ได้ให้ความสำคัญในการจัดการบริการและสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ ไว้รองรับผู้เดินทางที่นับถือศาสนาอิสลามไว้อย่างเพียบพร้อมในทุกด้าน จึงทำให้ในปีที่ผ่านมาท่าอากาศยานสุวรรณภูมิได้รับคัดเลือกจากสถาบัน Crescentrating ซึ่งตั้งอยู่ ณ ประเทศสิงคโปร์ ให้เป็นท่าอากาศยานดีเด่นอันดับ 1 ของโลก ประจำปี 2555 ที่มีการจัดสิ่งอำนวยความสะดวกไว้อย่างดีสำหรับผู้ใช้บริการชาวมุสลิม ในกลุ่มท่าอากาศยานของประเทศที่ไม่เป็นมุสลิม หรือ Non OIC ด้วย
สำหรับสายการบินที่ให้บริการเที่ยวบินจากท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ไปเมืองมักกะห์ในปีนี้มีจำนวนทั้งสิ้น 10 สายการบิน ได้แก่ สายการบินไทย อียิปต์แอร์ไลน์ กัลฟ์แอร์ เจทแอร์เวย์ส เอทิฮัดแอร์เวย์ส โอมานแอร์ เอมิเรตส์ แอร์ไลน์ คูเวตแอร์เวย์ การ์ตาแอร์เวย์ และรอยัลจอร์แดนเนียน แอร์ไลน์ สำหรับในส่วนการเดินทางกลับของผู้แสวงบุญ พบว่าจะเริ่มทยอยเดินทางกลับตั้งแต่ต้นเดือนพฤศจิกายน ซึ่ง ทสภ. จะได้ประสานงานกับกองบังคับการตรวจคนเข้าเมือง และศุลกากร เพื่ออำนวยความสะดวกให้เช่นกัน ทั้งนี้ หากต้องการสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม สามารถติดต่อได้ที่ Call Center ทสภ. โทร. 1722 ตลอด 24 ชั่วโมง
ด้านว่าที่ ร.ท.จตุรงคพล สดมณี ผู้อำนวยการท่าอากาศยานดอนเมือง ทอท.กล่าวว่า ปัจจุบันท่าอากาศยานดอนเมือง มีผู้โดยสารและผู้ใช้บริการประมาณ 40,000 คนต่อวัน แบ่งเป็นผู้โดยสารภายในประเทศ 26,000 คน ผู้โดยสารระหว่างประเทศ 14,000 คนซึ่งผู้โดยสารระหว่างประเทศส่วนใหญ่เป็นนักท่องเที่ยวชาวจีนประมาณร้อยละ 80 ที่สื่อสารด้วยภาษาจีน ดังนั้น ทอท.จึงได้จัดเจ้าหน้าที่ (Airport Help) ที่มีความสามารถในการพูดภาษาจีน เพื่อให้ข้อมูลและช่วยเหลือผู้โดยสารเมื่อประสบปัญหา
โดยเจ้าหน้าที่จะสวมสูทสีเหลืองอ่อนปักโลโก้ ทอท.เดินสอบถามความต้องการเพื่ออำนวยความสะดวก และให้การช่วยเหลือด้านต่างๆ แก่ผู้โดยสารนอกเหนือจากการให้บริการที่มีเจ้าหน้าที่ประจำเคาน์เตอร์ประชาสัมพันธ์เพื่อเป็นการเพิ่มการให้บริการของท่าอากาศยานให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น รวมทั้งสร้างความประทับใจแก่ผู้ใช้บริการท่าอากาศยานดอนเมือง