ศน.ระบุ ผู้แสวงบุญฮัจญ์ปี 56 พร้อมเดินทาง 7 ก.ย.-18 พ.ย.เผย ซาอุฯเตือนดูแลสุขภาพก่อนเข้าร่วมพิธี
นายปรีชา กันธิยะ อธิบดีกรมการศาสนา (ศน.) กล่าวว่า เทศกาลฮัจญ์ เริ่มขึ้นในระหว่างวันที่ 7 กันยายน - 18 พฤศจิกายน 2556 โดยในส่วนของประเทศไทย ได้รับการจัดสรรโควตาจากประเทศซาอุดีอาระเบีย จำนวน 10,400 คน ซึ่ง ศน.ได้เตรียมการในด้านต่างๆ เพื่อรองรับการเดินทางไปประกอบพิธีฮัจญ์ของชาวไทยมุสลิมไว้เรียบร้อยแล้ว ดังนี้ ด้านเที่ยวบิน การบินไทยได้จัดเที่ยวบินผ่านท่าอากาศยาน รวม 4 แห่ง คือ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ท่าอากาศยานภูเก็ต ท่าอากาศยานหาดใหญ่ และท่าอากาศยานนราธิวาส แบ่งเป็น ท่าอากาศยานหาดใหญ่ 7 เที่ยวบิน และท่าอากาศยานนราธิวาส 2 เที่ยวบิน นอกจากนั้นยังมีผู้แสวงบุญที่เดินทางโดยเที่ยวบินปกติผ่านท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ และ ท่าอากาศยานภูเก็ต โดยจะเริ่มเดินทางตั้งแต่วันที่ 7 กันยายน เป็นต้นไป
สำหรับการจัดที่พัก ในปีนี้ คณะกรรมการส่งเสริมกิจการฮัจย์แห่งประเทศไทยได้เดินทางไปตรวจสอบเรื่องที่พักแล้ว 2 ครั้ง ขณะนี้การจัดเช่าที่พักได้เรียบร้อยแล้ว จำนวน 51 อาคาร อยู่ในบริเวณรอบๆมัสยิดญินและสุสานมะลา จุผู้แสวงบุญได้ 9,627 คน ส่วนที่ยังขาด 773 คน ผู้ประกอบกิจการฮัจญ์ได้จองที่พักไว้แล้วอยู่ในระหว่างดำเนินการเรื่องสัญญา พร้อมทั้งยังได้มีการจัดตั้งสำนักงานกลาง เพื่อประสานงานด้านต่างๆ ในบริเวณดังกล่าวด้วย ส่วนการยื่นวีซ่า ศน.ได้ระดมเจ้าหน้าที่ตรวจเอกสารการเดินทางของผู้แสวงบุญ พร้อมทั้งจัดส่งเจ้าหน้าที่ไปประสานงานในการยื่นวีซ่ากับสถานทูตซาอุดีอาระเบียประจำประเทศไทย โดยสถานทูตจะรับยื่นวีซ่าวันละ 700-1,000 คน และจะเปิดรับยื่นวีซ่าตั้งแต่วันที่ 13 สิงหาคม เป็นต้นไป
“ในการอำนวยความสะดวกครั้งนี้เรามีเจ้าหน้าที่ที่จะไปปฏิบัติงาน 130 คน อาทิ ผู้เชี่ยวชาญด้านภาษา คณะทำงานของอะมีรุ้ลฮัจญ์ แพทย์พยาบาล นอกจากนี้ สถานกงสุลใหญ่ ณ เมืองเจดดาห์ แจ้งว่า องค์การบริหารกิจการฮัจญ์กลุ่มประเทศเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ จะไม่อนุญาตนำน้ำซัมซัมที่บรรจุด้วยภาชนะอื่นๆ ออกนอกประเทศ ยกเว้นน้ำซัมซัมที่บรรจุด้วยภาชนะตามโครงการของสมเด็จพระราชาธิบดีอับดุลเลาะห์แห่งซาอุดีอาระเบียเท่านั้น นอกจากนี้ผู้ที่จะไปประกอบพิธีฮัจญ์จะต้องมีการดูแลเตรียมพร้อมในเรื่องสุขภาพของตนเอง ติดตามข่าวสารการระบาดของโรคต่างๆ ที่ทางการไทยได้เฝ้าติดตามอย่างใกล้ชิด” นายปรีชา กล่าว
นายปรีชา กันธิยะ อธิบดีกรมการศาสนา (ศน.) กล่าวว่า เทศกาลฮัจญ์ เริ่มขึ้นในระหว่างวันที่ 7 กันยายน - 18 พฤศจิกายน 2556 โดยในส่วนของประเทศไทย ได้รับการจัดสรรโควตาจากประเทศซาอุดีอาระเบีย จำนวน 10,400 คน ซึ่ง ศน.ได้เตรียมการในด้านต่างๆ เพื่อรองรับการเดินทางไปประกอบพิธีฮัจญ์ของชาวไทยมุสลิมไว้เรียบร้อยแล้ว ดังนี้ ด้านเที่ยวบิน การบินไทยได้จัดเที่ยวบินผ่านท่าอากาศยาน รวม 4 แห่ง คือ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ท่าอากาศยานภูเก็ต ท่าอากาศยานหาดใหญ่ และท่าอากาศยานนราธิวาส แบ่งเป็น ท่าอากาศยานหาดใหญ่ 7 เที่ยวบิน และท่าอากาศยานนราธิวาส 2 เที่ยวบิน นอกจากนั้นยังมีผู้แสวงบุญที่เดินทางโดยเที่ยวบินปกติผ่านท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ และ ท่าอากาศยานภูเก็ต โดยจะเริ่มเดินทางตั้งแต่วันที่ 7 กันยายน เป็นต้นไป
สำหรับการจัดที่พัก ในปีนี้ คณะกรรมการส่งเสริมกิจการฮัจย์แห่งประเทศไทยได้เดินทางไปตรวจสอบเรื่องที่พักแล้ว 2 ครั้ง ขณะนี้การจัดเช่าที่พักได้เรียบร้อยแล้ว จำนวน 51 อาคาร อยู่ในบริเวณรอบๆมัสยิดญินและสุสานมะลา จุผู้แสวงบุญได้ 9,627 คน ส่วนที่ยังขาด 773 คน ผู้ประกอบกิจการฮัจญ์ได้จองที่พักไว้แล้วอยู่ในระหว่างดำเนินการเรื่องสัญญา พร้อมทั้งยังได้มีการจัดตั้งสำนักงานกลาง เพื่อประสานงานด้านต่างๆ ในบริเวณดังกล่าวด้วย ส่วนการยื่นวีซ่า ศน.ได้ระดมเจ้าหน้าที่ตรวจเอกสารการเดินทางของผู้แสวงบุญ พร้อมทั้งจัดส่งเจ้าหน้าที่ไปประสานงานในการยื่นวีซ่ากับสถานทูตซาอุดีอาระเบียประจำประเทศไทย โดยสถานทูตจะรับยื่นวีซ่าวันละ 700-1,000 คน และจะเปิดรับยื่นวีซ่าตั้งแต่วันที่ 13 สิงหาคม เป็นต้นไป
“ในการอำนวยความสะดวกครั้งนี้เรามีเจ้าหน้าที่ที่จะไปปฏิบัติงาน 130 คน อาทิ ผู้เชี่ยวชาญด้านภาษา คณะทำงานของอะมีรุ้ลฮัจญ์ แพทย์พยาบาล นอกจากนี้ สถานกงสุลใหญ่ ณ เมืองเจดดาห์ แจ้งว่า องค์การบริหารกิจการฮัจญ์กลุ่มประเทศเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ จะไม่อนุญาตนำน้ำซัมซัมที่บรรจุด้วยภาชนะอื่นๆ ออกนอกประเทศ ยกเว้นน้ำซัมซัมที่บรรจุด้วยภาชนะตามโครงการของสมเด็จพระราชาธิบดีอับดุลเลาะห์แห่งซาอุดีอาระเบียเท่านั้น นอกจากนี้ผู้ที่จะไปประกอบพิธีฮัจญ์จะต้องมีการดูแลเตรียมพร้อมในเรื่องสุขภาพของตนเอง ติดตามข่าวสารการระบาดของโรคต่างๆ ที่ทางการไทยได้เฝ้าติดตามอย่างใกล้ชิด” นายปรีชา กล่าว