ฮัจญ์ไทยฉลุย เคลียร์ปัญหาซาอุฯลดโควตาแล้ว รอคำตอบสายการบินคืนค่าจองตั๋ว ขณะที่จุฬาราชมนตรี ห่วง การผู้แสวงบุญเบียดเสียด หลังลานประกอบศาสนกิจบางส่วนยังปรับปรุงไม่แล้วเสร็จ
นายปรีชา กันธิยะ อธิบดีกรมการศาสนา (ศน.) กล่าวถึงความคืบหน้าการแก้ไขปัญหากรณีทางการซาอุดีอาระเบียปรับลดโควตาผู้แสวงบุญทั่วโลกลง 20% หลังมีการปรับปรุงอาคารให้ได้มาตรฐาน ว่า จากการหารือกับสำนักจุฬาราชมนตรี ศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) และผู้ประกอบกิจการฮัจญ์ เพื่อแก้ไขปัญหาปรับลดโควตาของไทยนั้น ทุกหน่วยงานไม่ได้ขัดข้องกับมติของคณะกรรมการส่งเสริมกิจการฮัจญ์แห่งประเทศไทย ที่ให้ปรับลดผู้แสวงบุญลงจากเดิมจำนวน 13,000 คน ให้เหลือ 10,400 คน โดยตัดจากเจ้าหน้าที่ผู้ให้บริการผู้แสวงบุญ ของบริษัทต่างๆ จำนวน 2,400 คน และโควตาพิเศษของ ศอ.บต.จำนวน 200 คน
นายปรีชา กล่าวต่อว่า ส่วนการแก้ไขกรณีการสำรองบัตรโดยสารเครื่องบิน และจัดเช่าที่พักนั้น ได้ส่งหนังสือไปยังกระทรวงคมนาคมให้ประสานสายการบินต่างๆ เพื่อขอคืนเงินมัดจำ หรือช่วยหาวิธีให้ผู้ประกอบกิจการ และผู้แสวงบุญเดือดร้อนน้อยที่สุด ซึ่งต้องรอฟังคำตอบจากกระทรวงคมนาคม (คม.) อีกครั้ง ทั้งนี้การจัดเที่ยวบินขนส่งผู้แสวงบุญปีนี้ จะทำการขนส่งผู้แสวงบุญผ่านท่าอากาศยานหาดใหญ่ 10 เที่ยวบิน และท่าอากาศยานนราธิวาส 4 เที่ยวบิน ถือเป็นปีแรกที่มีการขนส่งผู้แสวงบุญไปยังซาอุดีอาระเบีย ส่วนกรณีการจองที่พักนั้น ผู้ประกอบการต่างพร้อมให้ความร่วมมือจัดผู้แสวงบุญไปเข้ายังสถานที่ที่ได้จัดเช่าไว้ให้เต็มจำนวน ขณะเดียวกัน ศน.จะทำหนังสือไปยังกระทรวงการต่างประเทศ (กต.) เพื่อแจ้งไปยังสถานกงสุลใหญ่ ณ เมืองเจดดาห์ ประสานงานกับทางการซาอุดีอาระเบียช่วยประสานการจัดเช่าที่พักของผู้ประกอบการไทยที่ถูกปรับลด
“ปีนี้กระทรวงการคลังได้อนุมัติงบเช่าออฟฟิศกลางของประเทศไทย เป็นศูนย์กลางประสานงานช่วยเหลือผู้แสวงบุญ หรือต้อนรับเจ้าภาพ และผู้ที่จะเดินทางมาชมการอำนวยความสะดวกของเจ้าหน้าที่ไทย รวมถึงรถประจำตำแหน่งของจุฬาราชมนตรีไทย และเป็นที่น่ายินดียิ่งยิ่ง เพราะได้รับการยืนยันว่า ท่านอาศิส พิทักษ์คุมพล จุฬาราชมนตรี จะเป็นหัวหน้าคณะนำผู้แสวงบุญชาวไทยเดินทางไปประกอบพิธีฮัจญ์ด้วยตนเองด้วย” อธิบดี ศน.กล่าว
ด้าน นายอิบรอเหม อาดำ ผู้แทนจุฬาราชมนตรี กล่าวว่า สิ่งที่น่ากังวลขณะนี้ คือ ทางการซาอุดีอาระเบีย ได้ทำำโครงการขยายมัสยิดหะรอม ขยายลานตอวาฟ ซึ่งถือเป็นหัวใจของการประกอบพิธีฮัจญ์ ที่ผู้แสวงบุญจะต้องมาปฏิบัติศาสนกิจที่ลานนี้ แต่ทราบว่า การก่อสร้างยังไม่แล้วเสร็จตามแผนที่วางไว้ ทำให้ปีนี้ผู้แสวงบุญที่เข้าไปประกอบศาสนกิจอาจต้องเบียดเสียดกันมาก ซึ่งจุฬาราชมนตรี ห่วงใยในกรณีนี้มาก และอยากให้ผู้ดูแลจัดระบบการเดินทางไม่ให้ผู้แสวงบุญเข้าไปยังลานตอวาฟในเวลาเดียวกันมากเกินไป และให้ผู้แสวงบุญทุกคนปฏิบัติตามคำแนะนำของหัวหน้าคณะ และผู้ดูแลอย่างเคร่งครัด ส่วนกรณีที่หลายฝ่ายกังวลว่า การปรับลดผู้ดูแลผู้แสวงบุญ จะทำให้การดูแลไม่ทั่วถึงนั้น ยืนยันว่า ทีมงานที่ดูแลผู้แสวงบุญได้รับอบรมอย่างดีที่สุด อีกทั้งยังมีคณะแพทย์ พยาบาล และเจ้าหน้าที่คอยอำนวยความสะดวก จึงเชื่อว่าทุกคนจะสามารถดูแลผู้แสวงบุญได้ทั่วถึงแน่นอน
นายปรีชา กันธิยะ อธิบดีกรมการศาสนา (ศน.) กล่าวถึงความคืบหน้าการแก้ไขปัญหากรณีทางการซาอุดีอาระเบียปรับลดโควตาผู้แสวงบุญทั่วโลกลง 20% หลังมีการปรับปรุงอาคารให้ได้มาตรฐาน ว่า จากการหารือกับสำนักจุฬาราชมนตรี ศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) และผู้ประกอบกิจการฮัจญ์ เพื่อแก้ไขปัญหาปรับลดโควตาของไทยนั้น ทุกหน่วยงานไม่ได้ขัดข้องกับมติของคณะกรรมการส่งเสริมกิจการฮัจญ์แห่งประเทศไทย ที่ให้ปรับลดผู้แสวงบุญลงจากเดิมจำนวน 13,000 คน ให้เหลือ 10,400 คน โดยตัดจากเจ้าหน้าที่ผู้ให้บริการผู้แสวงบุญ ของบริษัทต่างๆ จำนวน 2,400 คน และโควตาพิเศษของ ศอ.บต.จำนวน 200 คน
นายปรีชา กล่าวต่อว่า ส่วนการแก้ไขกรณีการสำรองบัตรโดยสารเครื่องบิน และจัดเช่าที่พักนั้น ได้ส่งหนังสือไปยังกระทรวงคมนาคมให้ประสานสายการบินต่างๆ เพื่อขอคืนเงินมัดจำ หรือช่วยหาวิธีให้ผู้ประกอบกิจการ และผู้แสวงบุญเดือดร้อนน้อยที่สุด ซึ่งต้องรอฟังคำตอบจากกระทรวงคมนาคม (คม.) อีกครั้ง ทั้งนี้การจัดเที่ยวบินขนส่งผู้แสวงบุญปีนี้ จะทำการขนส่งผู้แสวงบุญผ่านท่าอากาศยานหาดใหญ่ 10 เที่ยวบิน และท่าอากาศยานนราธิวาส 4 เที่ยวบิน ถือเป็นปีแรกที่มีการขนส่งผู้แสวงบุญไปยังซาอุดีอาระเบีย ส่วนกรณีการจองที่พักนั้น ผู้ประกอบการต่างพร้อมให้ความร่วมมือจัดผู้แสวงบุญไปเข้ายังสถานที่ที่ได้จัดเช่าไว้ให้เต็มจำนวน ขณะเดียวกัน ศน.จะทำหนังสือไปยังกระทรวงการต่างประเทศ (กต.) เพื่อแจ้งไปยังสถานกงสุลใหญ่ ณ เมืองเจดดาห์ ประสานงานกับทางการซาอุดีอาระเบียช่วยประสานการจัดเช่าที่พักของผู้ประกอบการไทยที่ถูกปรับลด
“ปีนี้กระทรวงการคลังได้อนุมัติงบเช่าออฟฟิศกลางของประเทศไทย เป็นศูนย์กลางประสานงานช่วยเหลือผู้แสวงบุญ หรือต้อนรับเจ้าภาพ และผู้ที่จะเดินทางมาชมการอำนวยความสะดวกของเจ้าหน้าที่ไทย รวมถึงรถประจำตำแหน่งของจุฬาราชมนตรีไทย และเป็นที่น่ายินดียิ่งยิ่ง เพราะได้รับการยืนยันว่า ท่านอาศิส พิทักษ์คุมพล จุฬาราชมนตรี จะเป็นหัวหน้าคณะนำผู้แสวงบุญชาวไทยเดินทางไปประกอบพิธีฮัจญ์ด้วยตนเองด้วย” อธิบดี ศน.กล่าว
ด้าน นายอิบรอเหม อาดำ ผู้แทนจุฬาราชมนตรี กล่าวว่า สิ่งที่น่ากังวลขณะนี้ คือ ทางการซาอุดีอาระเบีย ได้ทำำโครงการขยายมัสยิดหะรอม ขยายลานตอวาฟ ซึ่งถือเป็นหัวใจของการประกอบพิธีฮัจญ์ ที่ผู้แสวงบุญจะต้องมาปฏิบัติศาสนกิจที่ลานนี้ แต่ทราบว่า การก่อสร้างยังไม่แล้วเสร็จตามแผนที่วางไว้ ทำให้ปีนี้ผู้แสวงบุญที่เข้าไปประกอบศาสนกิจอาจต้องเบียดเสียดกันมาก ซึ่งจุฬาราชมนตรี ห่วงใยในกรณีนี้มาก และอยากให้ผู้ดูแลจัดระบบการเดินทางไม่ให้ผู้แสวงบุญเข้าไปยังลานตอวาฟในเวลาเดียวกันมากเกินไป และให้ผู้แสวงบุญทุกคนปฏิบัติตามคำแนะนำของหัวหน้าคณะ และผู้ดูแลอย่างเคร่งครัด ส่วนกรณีที่หลายฝ่ายกังวลว่า การปรับลดผู้ดูแลผู้แสวงบุญ จะทำให้การดูแลไม่ทั่วถึงนั้น ยืนยันว่า ทีมงานที่ดูแลผู้แสวงบุญได้รับอบรมอย่างดีที่สุด อีกทั้งยังมีคณะแพทย์ พยาบาล และเจ้าหน้าที่คอยอำนวยความสะดวก จึงเชื่อว่าทุกคนจะสามารถดูแลผู้แสวงบุญได้ทั่วถึงแน่นอน