พล.ต.อ.วิเชียร พจน์โพธิ์ศรี ปลัดกระทรวงคมนาคม เปิดเผยถึงการเตรียมความพร้อมในการรับ-ส่งผู้แสวงบุญเพื่อไปประกอบพิธีฮัจญ์ ว่า หน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ร่วมกันฝึกซ้อมแผนและประชุมร่วมกัน โดยมีนายอภินันท์ ซื่อธานุวงศ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดนราธิวาส ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ปิยะ กิจถาวร รองเลขาธิการศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) น.อ.นิรัตน์ ทากุดเรือ รอง ผบ.หน่วยเฉพาะกิจนาวิกโยธิน กองทัพเรือ นายวรเดช หาญประเสริฐ อธิบดีกรมการบินพลเรือน น.ต. ประจักษ์ สัจจโสภณ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท วิทยุการบินแห่งประเทศไทย จำกัด นายอับดุลเลาะ หะยีสะบูดิง ผู้อำนวยการท่าอากาศยานนราธิวาส ผู้แทนบริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) หัวหน้าส่วนราชการกระทรวงคมนาคมในจังหวัด และคณะทำงาน เข้าร่วมประชุมที่ท่าอากาศยานนราธิวาส
ทั้งนี้ จากมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 24 พฤษภาคม 2548 ได้มอบให้กระทรวงคมนาคมรับไปประสานและเจรจากับ บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) เพื่อขอความร่วมมือในการจัดเที่ยวบินประเภทเหมาลำขนส่งผู้แสวงบุญพิธีฮัจญ์ และมติคณะกรรมการส่งเสริมกิจกรรมฮัจญ์แห่งประเทศไทย เมื่อวันที่ 24 ธันวาคม 2555 ให้การบินไทยจัดเที่ยวบินเหมาลำ หรือเที่ยวบินพิเศษขนส่งผู้เดินทางไปประกอบพิธีฮัจญ์จากภาคใต้เพียงสายการบินเดียวผ่านท่าอากาศยานหาดใหญ่ นราธิวาส ภูเก็ต และกระบี่ กระทรวงคมนาคมจึงได้มีคำสั่งแต่งตั้งคณะกรรมการเตรียมความพร้อมในการรับ-ส่งผู้แสวงบุญเพื่อไปประกอบพิธีฮัจญ์จากท่าอากาศยานนราธิวาส ปี 2556 ขึ้น โดยมีปลัดกระทรวงคมนาคมเป็นประธาน
โดยการบินไทยได้เปิดให้บริการเที่ยวบินจากท่าอากาศยานนราธิวาสถึงเมืองเจดดาห์ ประเทศซาอุดีอาระเบียในวันที่ 7 กันยายน 2556 จำนวน 2 เที่ยวบิน และที่ท่าอากาศยานหาดใหญ่ตั้งแต่วันที่ 8-11 กันยายน 2556 วัน จำนวน 7 เที่ยวบิน และเที่ยวกลับท่าอากาศยานนราธิวาส ระหว่างวันที่ 22-24 ตุลาคม 2556 จำนวน 2 เที่ยวบิน และท่าอากาศยานหาดใหญ่ ระหว่างวันที่ 24-30 ตุลาคม 2556 จำนวน 7 เที่ยวบิน
พล.ต.อ.วิเชียรกล่าวว่า การเตรียมความพร้อมเพื่อให้พี่น้องประชาชนในจังหวัดนราธิวาสสามารถเดินทางไปประกอบพิธีฮัจญ์จากท่าอากาศยานนราธิวาสไปยังประเทศซาอุดีอาระเบียโดยตรง ซึ่งจะเป็นการประหยัดเวลาและค่าใช้จ่าย โดยมีผู้ประสงค์ที่จะร่วมเดินทางจำนวน 552 คน และคาดว่าจะมีผู้มาส่งผู้เดินทางจำนวน 25,000 คน ซึ่งกระทรวงคมนาคม และจังหวัดนราธิวาสได้อำนวยความสะดวกและความปลอดภัยให้แก่ผู้แสวงบุญ และญาติพี่น้อง เช่น จัดเตรียมอาคารที่พักภายในท่าอากาศยาน พร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกอย่างเพียงพอ และติดตั้งรั้วโดยรอบท่าอากาศยานเพิ่มเติมเพื่อเพิ่มความปลอดภัย เป็นต้น
โดยการฝึกซ้อมแผนเตรียมความพร้อมฯ ด้านการตรวจบุคคลและสัมภาระบริเวณประตูทางเข้า และภายในอาคารที่พักผู้โดยสาร เช่น การตรวจใต้ท้องรถยนต์ การตรวจค้นสัมภาระ การควบคุมการผ่านเข้า-ออกประตู และการตรวจสอบความปลอดภัยโดยรอบท่าอากาศยาน ตลอดจนขั้นตอนการรับส่งผู้โดยสารและสัมภาระขึ้นเครื่อง ซี่งได้รับความร่วมมือจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ประกอบด้วย กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า หน่วยเฉพาะกิจนาวิกโยธิน กองทัพเรือ ศอ.บต. และตำรวจภูธรจังหวัดนราธิวาส ซึ่งเชื่อมั่นในการอำนวยความสะดวกให้ประชาชนในสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ได้