ASTVผู้จัดการรายวัน - ปตท.ลั่นกลางปีหน้าเข็น “SPRC” เข้าตลาดหลักทรัพย์ฯ ให้ได้หลังเจอโรคเลื่อนมาหลายปี ส่วนจะถือหุ้นใน SPRC ต่อหรือไม่นั้นขึ้นอยู่กับนโยบายกระทรวงพลังงาน หลังจากก่อนหน้านี้โดนกดดันว่าผูกขาดธุรกิจการกลั่นน้ำมันในประเทศ
นายวิรัตน์ เอื้อนฤมิต ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ การเงินองค์กร บริษัท ปตท.จำกัด (มหาชน) เปิดเผยความคืบหน้าการนำบริษัท สตาร์ปิโตรเลียม รีไฟน์นิ่ง จำกัด (มหาชน) (SPRC) เข้าตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยว่า ได้มีการเจรจากับกระทรวงพลังงานเพื่อเร่งรัดการขายหุ้น IPO ของบริษัทสตาร์ปิโตรเลียมฯ แต่ไม่สามารถเข้าตลาดหลักทรัพย์ฯ ได้ทันในปีนี้ เนื่องจากติดปัญหาทางเทคนิค คาดว่าจะนำบริษัทสตาร์ปิโตรเลียมฯ เข้าตลาดหลักทรัพย์ฯ ได้ในกลางปี 2557 อย่างแน่นอน เนื่องจากผู้ถือหุ้นใหญ่คือ เชฟรอน ก็ไม่ขัดข้องในการนำ SPRC เข้าตลาดฯ แต่อย่างใด เนื่องจากเป็นเงื่อนไขของรัฐบาลตั้งแต่อนุญาตให้มีการก่อตั้งโรงกลั่นน้ำมัน
ส่วน ปตท.ผู้ถือหุ้นใน SPRC อยู่ 36% ของทุนจดทะเบียนนั้นยังไม่ได้ตัดสินใจว่าจะขายหุ้นทั้งหมดในมือ หรือจะลดสัดส่วนการถือหุ้น SPRC เมื่อเข้าตลาดหลักทรัพย์ฯ ขึ้นอยู่กับนโยบายกระทรวงพลังงาน โดยยอมรับว่าปัจจุบัน ปตท.ถือหุ้นในโรงกลั่นน้ำมันไทยเป็นส่วนใหญ่ถึง 5 โรงจากจำนวนทั้งหมด 6 โรงกลั่น เว้นโรงกลั่นเอสโซ่ ทำให้ช่วงที่ผ่านมา ปตท.เคยถูกโจมตีว่าผูกขาดธุรกิจการกลั่นน้ำมันในประเทศ จนเคยมีแนวคิดที่จะขายทั้งหมดใน SPRC ทันทีที่เข้าตลาดหลักทรัพย์ฯ ในยุคที่นายประเสริฐ บุญสัมพันธ์ ดำรงตำแหน่งซีอีโอ ปตท.
ทั้งนี้ โรงกลั่นน้ำมันสตาร์ปิโตรเลียมฯ ถือเป็นโรงกลั่นน้ำมันเพียงรายเดียวของไทยที่ยังไม่ได้เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ ตามเงื่อนไขการลงทุนของรัฐบาลไทย ซึ่งที่ผ่านมาทางเชฟรอนไม่ต้องการที่จะนำบริษัทลูกเข้าตลาดหลักทรัพย์ฯ และบริษัทแม่อยู่ต่างประเทศทำให้การดำเนินการต่างๆ เป็นไปอย่างล่าช้า
โรงกลั่นน้ำมันสตาร์ปิโตรเลียมฯ เริ่มประกอบกิจการกลั่นน้ำมันมาตั้งแต่ปี 2539 โดยมีกำลังการกลั่นน้ำมันประมาณ 1.5 แสนบาร์เรล/วัน โดยมีเชฟรอนถือหุ้นใหญ่คิดเป็นสัดส่วน 64% และ ปตท.ถือหุ้น 34%