ASTVผู้จัดการรายวัน - “สหพัฒน์” ลั่นไม่หวั่นเศรษฐกิจตกต่ำ ย้ำลงทุนร่วมหอลงโรงกับลอว์สันญี่ปุ่นเพื่ออนาคต สร้างความแข็งแกร่งให้แก่ค้าปลีกคอนวีเนียนสโตร์ ลั่น 5 ปีจากนี้เปิดครบ 1,000 แห่ง งบลงทุน 2,000 ล้านบาท ด้านลอว์สันชูไทยเป็นฐานที่มั่นรุกตลาดอาเซียน
นายบุณยสิทธิ์ โชควัฒนา ประธานเครือสหพัฒน์ กล่าวว่า การที่เครือสหพัฒน์ร่วมลงทุนกับกลุ่มลอว์สัน อิงค์ ญี่ปุ่น จัดตั้งบริษัท สห ลอว์สัน จำกัด ขึ้นมาเพื่อรุกตลาดคอนวีเนียนสโตร์ในไทยในนาม ร้านลอว์สัน 108 กับร้าน 108 ชอปนั้นเพื่อต้องการสร้างความแข็งแกร่งให้ธุรกิจค้าปลีกคอนวีเนียนสโตร์ของสหพัฒน์ เนื่องจากในตลาดคู่แข่งใหญ่อย่างแบรนด์เซเว่นอีเลฟเว่นก็อยู่ภายใต้กลุ่มซีพีที่แข็งแกร่ง หรือร้านแฟมิลี่มาร์ทที่เป็นญี่ปุ่นเหมือนกับเราก็อยู่ในกลุ่มเซ็นทรัลที่แข็งแกร่งเช่นกัน ดังนั้นหากสหพัฒน์ไม่ปรับตัวก็คงไม่สามารถต่อสู้ได้
“เรามองการลงทุนครั้งนี้เป็นระยะยาว ไม่ได้มองแค่ปัจจุบัน แม้ว่าเวลานี้ภาวะเศรษฐกิจของไทยจะตกลงและกำลังซื้อของผู้บริโภคลดลงแต่ก็เป็นไปทั่วโลกหลายที่ อีกทั้งภาวะเศรษฐกิจก็มีขึ้นมีลงอยู่แล้วเป็นไปตามรอบของมัน ที่ผ่านมา 10 กว่าปีตั้งแต่ไทยเกิดวิกฤตต้มยำกุ้งปี 2540 เราก็ผ่านมาแล้ว ช่วง 2-3 ปีก็จะเจอภาวะแย่ครั้งหนึ่งแล้วก็ดีขึ้น ดังนั้นการร่วมทุนกับลอว์สันเป็นคนละเรื่องกับเศรษฐกิจ แต่เราต้องการจะทำให้ค้าปลีกของเราแข็งแกร่ง และเราก็คุยกับทางลอว์สันมานานแล้ว”
ทั้งนี้ สหพัฒน์มีร้าน 108 ชอป ที่เป็นของตัวเองกับพันธมิตรรวมประมาณ 300 สาขา และมีสาขาอยู่ในพม่าอีกประมาณ 14 สาขา ซึ่งในพม่ามั้นยังไม่มีการเปลี่ยนแปลง ส่วนในไทยนั้นได้โอนร้าน 108 ชอปทั้งหมดเข้ามาอยู่ภายใต้การบริหารงานของบริษัทร่วมทุนที่ตั้งใหม่นี้ และที่ผ่านมาร้านลอว์สัน 108 ได้เริ่มเปิดบริการมาตั้งแต่เดือนมีนาคมปีนี้แล้ว โดยการนำร้านเก่าของ 108 ชอปมาปรับปรุงเปลี่ยนชื่อร้านประมาณ 15 สาขา
ตามเป้าหมายระยะยาวภายใน 5 ปีจากนี้หรือภายในปี 2561 จะต้องมีร้านลอว์สันเปิดในไทยประมาณ 1,000 สาขา ด้วยงบลงทุนสูงถึง 2,000 ล้านบาท
นายเวทิต โชควัฒนา ผู้บริหารที่ดูแลร้าน 108 ชอปของสหพัฒน์ กล่าวว่า มีแผนที่จะนำสาขาบางส่วนของ 108 ชอปแปลงมาเป็นร้านลอว์สัน 108 แต่คงไม่ทั้งหมด ขึ้นอยู่กับความเหมาะสม ทำเล และขนาดพื้นที่ที่มีอยู่เดิม ส่วนบางสาขาก็จะยังคงเป็น 108 ชอปเช่นเดิม และจะยังขยายตัวเช่นเดิม แต่คงจะมีการปรับเปลี่ยนเพื่อความเหมาะสม โดยการลงทุนจะมีตั้งแต่ 2-8 ล้านบาทต่อสาขา แล้วแต่ขนาดพื้นที่ ตั้งแต่ 50-200 ตารางเมตร อย่างไรก็ตาม หากในอนาคตสหลอว์สันวางระบบและประกาศขายแฟรนไชส์ได้เมื่อใด ร้านโชวห่วยที่เป็นพันธมิตรเครือข่ายกับสหพัฒน์ที่สนใจจะเข้าร่วมเป็นแฟรนไชส์ก็ยินดี
สำหรับร้านลอว์สันใหม่ล่าสุดตั้งอยู่ที่เอ็มโพริโอเพลส สุขุมวิท 24 นายเวทิตกล่าวว่า สาขานี้มีพื้นที่ประมาณ 100 ตารางเมตร ตกแต่งสไตล์ญี่ปุ้น มีสินค้าอาหารสด และของใช้ทั่วไป มีที่นั่งรับประทานอาหารด้วย ซึ่งเป็นสาขาที่เปิดใหม่ไม่ได้โอนจากร้าน 108 ชอป จากการทดลองเปิดมาได้ระยะหนึ่งพบว่ามียอดขายต่อบิลที่ 100 บาทต่อบิล สูงกว่าเป้าที่ตั้งไว้ที่ 60 บาทต่อบิล มีปริมาณคนเข้าร้านเฉลี่ย 600 คนต่อวัน ต่ำกว่าเป้าที่ตั้งไว้ที่ 700-800 คนต่อวัน จากเดิมที่ร้าน 108 ชอปเดิมมีรายได้เฉลี่ย 13,000 บาทต่อคนต่อสาขา มีปริมาณลูกค้าเข้าประมาณ 500 ครั้งต่อวัน
นายทาเคชิ นินามิ ซีอีโอบริษัท ลอว์สัน อิงค์ จากประเทศญี่ปุ่น กล่าวว่า ลอว์สันจะใช้ธุรกิจที่ร่วมทุนกับสหพัฒน์ในไทยเป็นฐานในการรุกตลาดค้าปลีกคอนวีเนียนสโตร์ในอาเซียน โดยจะเป็นทั้งศูนย์กลางของการพัฒนาสินค้า การอบรม และการพัฒนารูปแบบบริการใหม่ๆ ซึ่งก็มีการเจรจากับทางเครือสหพัฒน์บ้างแล้วเช่นกัน โดยตั้งเป้าหมายไว้ว่า ภายในปี 2566 หรืออีก 10 ปีจากนี้จะมีร้านลอว์สันเปิดรวมกัน 5,000 สาขาในกลุ่มประเทศอาเซียนนี้ และคาดว่าจะมีสาขาในไทยประมาณ 1,000 สาขาภายในปี 2562
ปัจจุบันร้านลอว์สันมีอันดับใหญ่เป็นที่สองของญี่ปุ่นรองจากเซเว่นอีเลฟเว่นในเซกเมนต์คอนวีเนียนสโตร์ โดยมีจำนวนสาขาในญี่ปุ่น 10,457 สาขาเมื่อสิ้นปี 2555 ขณะที่เซเว่นอีเลฟเว่นมีสาขาในญี่ปุ่นเมื่อสิ้นปี 2555 ประมาณ 14,005 สาขา ล่าสุดจำนวนสาขาของร้านลอว์สันในญี่ปุ่นเมื่อสิ้นเดือนกรกฎาคม 2556 มีประมาณ 11,308 สาขา ครอบคลุมทั่ว 47 จังหวัดในประเทศญี่ปุ่น อีกทั้งยังมีสาขานอกญี่ปุ่นอีกประมาณ 466 สาขา กระจายอยู่ใน จีน 371 สาขา อินโดนีเซีย 83 สาขา ฮาวาย 3 สาขา และไทย 9 สาขา เมื่อสิ้นเดือนกรกฎาคม 2556
“ลอว์สันจะไม่กระโดดลงไปเล่นในตลาดหรือพื้นที่ที่แข่งขันรุนแรงอยู่แล้ว (เรดโอเชียน/Red Ocean) เพราะเรามองว่าตลาดคอนวีเนียนสโตร์ยังมีโอกาสและมีช่องว่างอีกมากที่เราจะเข้าไปลงทุนทั้งในตลาดเมืองไทยและในอาเซียน” นายทาเคชิกล่าว
ทั้งนี้ ร้านลอว์สัน 108 ในไทยจะยังคงมีรูปแบบ 3 แบบเช่นเดียวกับที่ญี่ปุ่น อีกทั้งจะมีการพัฒนาโมเดลใหม่ขึ้นมาด้วยเพื่อเป็นไปตามพฤติกรรมและความต้องการของลูกค้า โดย 3 โมเดลคือ 1. ร้านลอว์สันคอนวีเนียนสโตร์ทั่วไป 2. ร้านเนเชอรัลลอว์สัน เน้นขายสินค้าสุขภาพและความงาม 3. ร้านลอว์สัน 100 สโตร์ เน้นขายสินค้าอาหารสด พืช ผัก ผลไม้