“ศรีรัตน์” ผลักดันตั้งศูนย์กระจายสินค้าไทยในโปแลนด์ แทนซาเนีย สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ บาห์เรน และญี่ปุ่น หวังเป็นที่พักสินค้าไทยก่อนกระจายเข้าสู่ตลาดเป้าหมาย เล็งเพิ่มเทรดดิ้งเฟิร์มช่วยดันส่งออก OTOP รุกขยายตลาดบริการดิจิตอลคอนเทนต์ พร้อมผลักดันผู้ผลิตเพิ่มนวัตกรรมในสินค้า หลังสินค้าแบบเดิมๆ ขายยากขึ้น
นางศรีรัตน์ รัษฐปานะ อธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ เปิดเผยว่า กรมฯ มีแผนที่จะผลักดันการจัดตั้งศูนย์กระจายสินค้าไทยในตลาดเป้าหมาย ได้แก่ โปแลนด์ แทนซาเนีย ญี่ปุ่น สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ และบาห์เรน โดยให้เอกชนเป็นผู้ดำเนินการ และกรมฯ เข้าไปให้การช่วยเหลือและสนับสนุนในด้านต่างๆ เพื่อให้เกิดความเชื่อมั่นในการซื้อขายสินค้าไทยผ่านศูนย์กระจายสินค้า ซึ่งจะเป็นอีกแนวทางหนึ่งในการผลักดันการส่งออกให้กับสินค้าไทย เพราะในภาวะที่การส่งออกชะลอตัวจะต้องมีกลยุทธ์และเทคนิคใหม่ๆ ในการช่วยเพิ่มยอดส่งออก
โดยการตั้งศูนย์กระจายสินค้าไทยที่โปแลนด์มีเป้าหมายเพื่อเจาะตลาดในกลุ่มยุโรปตะวันออก แทนซาเนียเจาะตลาดแอฟริกา ส่วนที่สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ และบาห์เรนเน้นเจาะตลาดตะวันออกกลาง ซึ่งทั้งหมดล้วนแต่เป็นตลาดใหม่ที่มีศักยภาพในการขยายการส่งออกให้สินค้าไทยได้ ส่วนตลาดญี่ปุ่น เห็นว่ายังมีโอกาสในการผลักดันสินค้าไทยเข้าสู่ตลาดได้อีกมาก ทั้งนี้ เฉพาะตลาดญี่ปุ่นกรมฯ มีแผนที่จะจับมือกับไปรษณีย์ญี่ปุ่นในการขายสินค้าไทยด้วย โดยให้ผู้ซื้อสั่งซื้อ และส่งสินค้าทางไปรษณีย์
นางศรีรัตน์กล่าวว่า กรมฯ ยังมีแผนในการผลักดันการส่งออกสินค้าหนึ่งตำบลหนึ่งผลิตภัณฑ์ (OTOP) โดยจะผลักดันให้เกิดเทรดดิ้งเฟิร์มให้มากขึ้น เพราะผู้ผลิตสินค้า OTOP ส่วนใหญ่มักจะเป็นผู้ผลิตจริงๆ ไม่มีขีดความสามารถในการทำตลาดต่างประเทศ แม้กรมฯ จะเข้าไปช่วยสนับสนุนและส่งเสริมให้มีการส่งออกแล้วก็ตาม แต่ก็ยังมีเป็นจำนวนน้อยที่ส่งออกได้ จึงต้องมีเทรดดิ้งเฟิร์มเข้าไปช่วย ซึ่งไม่เพียงแค่เฉพาะสินค้า OTOP แต่ยังต้องการให้เทรดดิ้งเฟิร์มช่วยในการผลักดันการส่งออกสินค้าตัวอื่นๆ ด้วย
นอกจากนี้ยังมีแผนที่จะส่งเสริมธุรกิจบริการใหม่ๆ เพราะต้องตามเทคโนโลยีให้ทัน โดยเฉพาะธุรกิจบริการเกี่ยวกับดิจิตอลคอนเทนต์ซึ่งเป็นธุรกิจที่มีโอกาสขยายตัวได้สูง เช่น ภาพยนตร์ เกม ไอที ซึ่งกรมฯ จะเข้าไปสนับสนุนให้ผู้ประกอบการรุ่นใหม่มีการพัฒนาและสร้างรายได้จากธุรกิจบริการเหล่านี้ให้เพิ่มมากขึ้น ถือเป็นการพัฒนาจากธุรกิจบริการเดิมๆ ที่กรมฯ ให้การสนับสนุน ไม่ว่าจะเป็นร้านอาหาร สปา โรงพยาบาล
อย่างไรก็ตาม ในด้านการติดอาวุธให้ผู้ประกอบการไทย กรมฯ จะเน้นการพัฒนาให้สินค้ามีการเพิ่มดีไซน์ เพิ่มนวัตกรรมเข้าไปในสินค้า เพราะขณะนี้สินค้าขายได้ยากขึ้น หากยังเป็นสินค้ารูปแบบเดิมๆ จึงต้องมีการพัฒนาสินค้า ซึ่งกรมฯ จะเชิญผู้เชี่ยวชาญทั้งจากภาครัฐและเอกชนมาช่วย โดยจะทำเป็นกลุ่มสินค้า โดยล่าสุดได้เข้าไปช่วยเหลือกลุ่มเซรามิก ลำปาง ทำให้สามารถลดต้นทุน และสามารถผลิตสินค้าแข่งขันกับจีนและเวียดนามได้ดีขึ้น
“ในช่วงปลายเดือน ก.ย. 2556 กรมฯ จะจัดงาน Innovation & Trade Exposition 2013 ที่ไบเทค บางนา โดยนำสินค้าที่เกิดจากการสร้างสรรค์นวัตกรรมใหม่ๆ ในกลุ่มเกษตร อาหาร สิ่งทอ เครื่องประดับ อิเล็กทรอนิกส์ ยานยนต์ ก่อสร้าง และดิจิตอลคอนเทนต์ มาจัดแสดง เพื่อจุดประกายให้แก่อุตสาหกรรมของไทยได้มีการพัฒนานวัตกรรมใหม่ๆ เพราะทุกวันนี้จะขายสินค้าแบบเดิมๆ มันเริ่มยาก ต้องมีอะไรใหม่ๆ ไปสู้” นางศรีรัตน์กล่าว