“พาณิชย์” ลงนามโมซัมบิก ตั้งเป้าเพิ่มการค้า ลงทุนเท่าตัวในปี 2560 “ศรีรัตน์” เดินหน้าทำแผนร่วมมือค้าขายอัญมณี
นางศรีรัตน์ รัษฐปานะ อธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ เปิดเผยถึงการร่วมคณะ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เดินทางเยือนสาธารณรัฐโมซัมบิก แทนซาเนีย และยูกันดา ว่า กระทรวงพาณิชย์จะมีการลงนามในความตกลงด้านการค้า การลงทุนไทยและโมซัมบิก ซึ่งเป็นหนึ่งในจำนวนความตกลงทั้งหมด 6 ฉบับที่จะมีการลงนามในครั้งนี้ โดยมีนายกรัฐมนตรีของไทย และนายอาร์มันโด เอมิลิโอ กูเอบูซา ประธานาธิบดีโมซัมบิก ร่วมเป็นสักขีพยาน
ทั้งนี้ การลงนามในความตกลงดังกล่าวเพื่อเพิ่มการค้า การลงทุนไทยกับโมซัมบิก เป็น 2 เท่าภายในปี 2560 ตามนโยบายของนายนิวัฒน์ธำรง บุญทรงไพศาล รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.พาณิชย์ และหลังจากนี้จะมีการตั้งคณะกรรมการร่วมทางการค้า (เจทีซี) ขึ้นมาเพื่อหารือในการเพิ่มการค้า การลงทุน และลดอุปสรรคทางการค้าที่มี เพื่อให้การค้าสองฝ่ายขยายตัวเพิ่มขึ้น
โดยปัจจุบันการค้าไทยกับโมซัมบิกมีประมาณปีละ 180 ล้านเหรียญสหรัฐ โดยไทยส่งออกไปประมาณ 160 ล้านเหรียญสหรัฐ สินค้าส่งออกอันดับหนึ่งคือ ข้าว หรือคิดเป็น 80% ของการส่งออกรวม แต่การค้าปีละ 180 ล้านเหรียญสหรัฐถือว่าน้อยมาก และโมซัมบิกเองก็มีทรัพยากรธรรมชาติมาก ทั้งอัญมณี ก๊าซ และถ่านหิน จึงน่าจะเป็นแหล่งวัตถุดิบสำคัญของไทยในอนาคต
ส่วนการค้าไทยกับโมซัมบิกในช่วงครึ่งแรกปี 2556 (ม.ค.-มิ.ย.) มีมูลค่า 59 ล้านเหรียญสหรัฐ ลดลง 36% ไทยส่งออก 55 ล้านเหรียญสหรัฐ และนำเข้า 4 ล้านเหรียญสหรัฐ ไทยได้ดุลการค้า 51 ล้านเหรียญสหรัฐ
นอกจากนี้จะมีการหารือความคืบหน้าในการค้าการลงทุนด้านทรัพยากรแร่ หลังจากที่ได้มีการลงนามในเอ็มโอยูไปเมื่อเดือน ก.พ. 2556 ที่ผ่านมา ซึ่งจากการหารือก่อนหน้านี้ทั้งสองฝ่ายต้องการผลักดันการค้าวัตถุดิบอัญมณีให้ถูกต้องตามกฎหมาย จากปัจจุบันที่ยังมีการค้าที่ไม่ถูกกฎหมายอยู่ ซึ่งทั้งสองฝ่ายได้ตกลงจัดทำแผนงานระยะ 3 ปีขึ้นเพื่อทำงานร่วมกัน
