xs
xsm
sm
md
lg

SCC ยิ้ม! มาร์จิ้นพลาสติกดี ศก.จีนหดไม่กระทบส่งออก

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


ASTVผู้จัดการรายวัน - เอสซีจี เคมิคอลส์ชี้ความต้องการใช้เม็ดพลาสติกยังโตดี แม้ว่าราคาขยับสูงขึ้นตามทิศทางราคาน้ำมันและวัตถุดิบ ยันไม่ได้รับผลกระทบจากเศรษฐกิจจีนชะลอตัว ส่งผลให้สเปรดเม็ดพลาสติกพีอีและพีพีเฉลี่ย 570-600 เหรียญสหรัฐ/ตัน ขณะที่สเปรดเม็ดพลาสติกพีวีซีไตรมาส 3 ดีกว่าไตรมาสก่อน เผยปีหน้าใช้งบลงทุน 3 พันล้านบาทในการปรับปรุงเครื่องจักรเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการผลิต มั่นใจโครงการปิโตรเคมีคอมเพล็กซ์ที่เวียดนามผลิตเชิงพาณิชย์ได้ต้นปี 61

นายชลณัฐ ญาณารณพ กรรมการผู้จัดการใหญ่ เอสซีจี เคมิคอลส์ ในเครือปูนซิเมนต์ไทย (SCC) เปิดเผยว่า ขณะนี้ราคาเม็ดพลาสติกเริ่มขยับสูงขึ้นตามทิศทางเดียวกับราคาน้ำมันดิบและวัตถุดิบคือแนฟทา โดยราคาเม็ดพลาสติก PP และ PE ประมาณ 1,500 เหรียญสหรัฐ/ตัน ทำให้ส่วนต่างราคาผลิตภัณฑ์พลาสติก PE กับแนฟทา (สเปรด) อยู่ที่ 570 เหรียญสหรัฐ/ตัน และสเปรดเม็ดพลาสติก PP อยู่ที่ 600 กว่าเหรียญสหรัฐ/ตัน ลดลงจากไตรมาส 2 เล็กน้อย แต่ทั้งนี้คงต้องติดตามสถานการณ์ราคาน้ำมันดิบและเศรษฐกิจโลกต่อไป

ส่วนเม็ดพลาสติก PVC พบว่าไตรมาสนี้สเปรดปรับตัวสูงขึ้นอยู่ที่ 430 เหรียญสหรัฐ/ตัน ดีกว่าไตรมาส 2/2556 ที่สเปรดเฉลี่ย 380 เหรียญสหรัฐ/ตัน ขณะที่ความต้องการใช้เม็ดพลาสติก PVC ก็ยังเติบโตต่อเนื่องจากปีก่อน

สำหรับความต้องการใช้เม็ดพลาสติกทั้งในและต่างประเทศยังดีอยู่ แม้ว่าราคาเม็ดพลาสติกจะมีการปรับขึ้นบ้างตามต้นทุนที่สูงขึ้น โดยแนฟทาปรับขึ้นจาก 820 เหรียญสหรัฐ/ตันเป็น 920 เหรียญสหรัฐ/ตัน ส่วนค่าเงินบาทที่อ่อนค่าลงอยู่ที่บาทละ 32 บาท/ดอลลาร์สหรัฐนั้น ทำให้การส่งออกดีขึ้น ขณะที่จีนยังมีความต้องการนำเข้าเม็ดพลาสติกอยู่ แม้ว่าพลาสติกคงทนความต้องการใช้ในจีนจะอ่อนตัวลงนับตั้งแต่ต้นปี แต่พลาสติกที่ใช้ในชีวิตประจำวันยังดีอยู่ ขณะเดียวกันบริษัทฯ คงต้องติดตามการเติบโตทางเศรษฐกิจของจีนอย่างใกล้ชิดจากที่ผ่านมาชะลอตัวลง

นายชลณัฐกล่าวถึงแผนการลงทุนในปี 2557 ว่า ปีหน้าบริษัทฯ วางงบลงทุนเพิ่มประสิทธิภาพการผลิต ลดต้นทุนด้านพลังงาน และปรับปรุงโรงงานต่างๆ เพื่อพัฒนาสินค้ามูลค่าเพิ่ม ซึ่งเป็นงบลงทุนตามปกติประมาณ 3 พันล้านบาท ส่วนการลงทุนเพื่อซื้อกิจการปิโตรเคมีในต่างประเทศนั้นยังไม่ได้มีการพิจารณา รวมถึงการลงทุนโครงการใหม่ในไทย เว้นแต่โครงการปิโตรเคมีคอมเพล็กซ์ที่เวียดนามที่อยู่ระหว่างการดำเนินการและการจัดหาเงินกู้ คาดว่าจะได้ข้อสรุปในปลายปี 2557

โครงการปิโตรเคมีคอมเพล็กซ์มูลค่า 4.5 พันล้านเหรียญสหรัฐในเวียดนามคาดว่าจะผลิตเชิงพาณิชย์ได้ในต้นปี 2561 โดยโครงสร้างผู้ถือหุ้นคือ บริษัทฯ และ บมจ.ไทยพลาสติกและเคมีภัณฑ์ 46% ปิโตรเวียดนามและวีนาเคม 29% ที่เหลือเป็นกาตาร์ ซึ่งขณะนี้ทางวีนาเคมอยู่ระหว่างการพิจารณาว่าจะลดสัดส่วนการถือหุ้นหรือไม่ ซึ่งไม่มีปัญหาใด เพราะผู้ถือหุ้นรายอื่นพร้อมที่จะเข้าไปถือหุ้นแทน

นายชลณัฐกล่าวย้ำว่า การลงทุนโครงการปิโตรเคมีในประเทศอาเซียนบริษัทฯ ได้มีการวางแผนดำเนินการอยู่แล้ว โดยยืนยันที่จะเดินหน้าโครงการปิโตรเคมีในเวียดนามและอินโดนีเซียเพื่อรองรับความต้องการใช้ภายในประเทศที่เติบโตขึ้น โดยไม่ได้รับผลกระทบจากการลงทุนปิโตรเคมีคอมเพล็กซ์ของกลุ่ม ปตท.ที่มีแผนจะลงทุนในเวียดนาม และอินโดนีเซีย

สำหรับงบวิจัยและพัฒนา (R&D) ของกลุ่มธุรกิจเอสซีจี เคมิคอลส์ ในปีนี้จะใช้เงินมากกว่า 600 ล้านบาทเพื่อเพิ่มมูลค่าผลิตภัณฑ์พลาสติก (HVA) โดยปีนี้ยอดขายสินค้าHVA เฉลี่ยอยู่ที่ 49% ของยอดขายกลุ่มเคมิคอลส์ คาดว่าจะเพิ่มขึ้นเป็น 60% ในอีก 5 ปีข้างหน้า ขณะที่รายได้รวมของกลุ่มเคมิคอลส์จะโตเฉลี่ย 5% ตลอด 5 ปีนี้ เว้นปีนี้ที่รายได้จะลดลงเล็กน้อยจากปีก่อน เนื่องจากการหยุดซ่อมบำรุงโรงมาบตาพุด โอเลฟินส์เป็นเวลา 45 วัน แต่มีกำไรสูงกว่าปีก่อน

วานนี้ (24 ส.ค.) เอสซีจี เคมิคอลส์ ได้จัดงาน Plastics foe Life by SCG Chemicals ขึ้นภายในงาน SCG 100 Anniversary Innovative Exposition เพื่อจุดประกายและแลกเปลี่ยนความรู้เกี่ยวกับนวัตกรรมพลาสติกสำหรับวงการแพทย์ โดยมีการนำวัสดุพลาสติกทดแทนวัสดุที่เป็นโลหะ เช่น สเตนเลสในเครื่องมืออุปกรณ์การแพทย์ และสามารถผลิตเป็นสินค้าสู่ตลาดเชิงพาณิชย์ ลดการนำเข้าเม็ดพลาสติกและอุปกรณ์การแพทย์จากต่างประเทศด้วย ทำให้ผู้ป่วยสามารถเข้าถึงการรักษาในราคาที่ถูกลง

ล่าสุด บริษัทฯ ได้ร่วมกับ ผศ.นพ.สุนทร วงษ์ศิริ ผู้เชี่ยวชาญด้านกระดูกและข้อ คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ และบริษัท แปซิฟิค เฮลท์แคร์ กับทีมงาน Design Catalyst ในเครือเอสซีจี เคมิคอลส์ ออกแบบและเลือกใช้วัสดุพลาสติกที่เหมาะสมผลิตเครื่องมือผ่าตัดพังผืดรัดเส้นประสาทข้อมือโดยใช้พลาสติกมีต้นทุนที่ถูกกว่าหลายเท่าตัวและช่วยร่นเวลาการผ่าตัดให้สั้นขึ้นด้วย คาดว่าผลิตภัณฑ์นี้จะวางขายเชิงพาณิชย์ในเร็วๆ นี้ พร้อมทั้งมีความคิดที่จะพัฒนาวัสดุทางการแพทย์ที่ทำจากพลาสติกอีกหลายชิ้น

พร้อมจัดกิจกรรมระดมจิตอาสาทำ DIY Spacer เครื่องพ่นยาสำหรับผู้ป่วยหอบหืด ให้แก่โรงพยาบาลธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติจำนวน 3 พันชุด
กำลังโหลดความคิดเห็น