หลังจากตลาดหุ้น Nasdaq ของสหรัฐระงับการซื้อขายหุ้นมูลค่า 5.9 ล้านล้านดอลลาร์ในช่วงบ่ายวานนี้เพราะปัญหาขัดข้องทางเทคนิค เจ้าหน้าที่ของ Nasdaq ก็สามารถแก้ไขปัญหาดังกล่าวได้ภายในเวลาเพียง 30 นาที
อย่างไรก็ดี Nasdaq ยังไม่สามารถเปิดซื้อขายหุ้นอีกครั้งในทันที แต่ต้องรอต่อไปอีก 2 ชั่วโมงครึ่งก่อนที่จะเปิดทำการอีกครั้ง ซึ่งส่งผลให้ Nasdaq ปิดทำการเมื่อวานนี้เป็นเวลารวมกันราว 191 นาที
ช่วงเวลา 191 นาทีนี้ส่วนใหญ่หมดไปกับการหารือกันอย่างเร่งด่วนระหว่าง Nasdaq กับธนาคาร, บริษัทโบรกเกอร์, บริษัทการลงทุน รวมทั้งตลาดหลักทรัพย์อื่นๆ โดยสถาบันเหล่านี้ต้องการให้ Nasdaq รับประกันว่า การเปิดซื้อขายอีกครั้งจะดำเนินไปอย่างเป็นระเบียบ และจะไม่ก่อให้เกิดภาวะตื่นตระหนกในตลาด
เจ้าหน้าที่ Nasdaq คนหนึ่งกล่าวว่า "เราจำเป็นต้องสร้างความมัั่นใจว่า ตลาดหลักทรัพย์ทุกแห่งเชื่อมต่อกับเราได้สำเร็จ และบริษัทภายนอกสามารถติดต่อกับเราได้" ทั้งนี้ ตลาด Nasdaq อยู่ภายใต้การบริหารของบริษัท แนสแดค โอเอ็มเอ็กซ์ กรุ๊ป อิงค์
แผนกเทรดดิงของธนาคารหลายแห่งเตือน Nasdaq ว่าไม่ควรรีบร้อนเปิดตลาดอีกครั้ง เพราะเทรดเดอร์กังวลว่าการเปิดตลาดขณะที่ยังมีความผิดพลาดทางเทคนิคจะกลายเป็นการทำลายความเชื่อมั่นในตลาด
Nasdaq เปิดทำการอีกครั้งในเวลา 15.00 น.ตามเวลาท้องถิ่น โดยเปิดให้ซื้อขายหุ้นบริษัทขนาดเล็ก เพียงตัวเดียวเท่านั้้น ซึ่งได้แก่บริษัทแอตแลนติก อเมริกัน คอร์ป เพื่อเป็นการทดสอบ โดยหุ้นตัวนี้ได้รับเลือกเนื่องจากอักษรย่อของชื่อบริษัทอยู่ในลำดับแรกสุด เมื่อเรียงตามตัวอักษร
ตลาด Nasdaq เปิดทำการอย่างสมบูรณ์อีกครั้งในอีก 25 นาทีต่อมา และ ทางตลาดระบุว่า "การซื้อขายในวันพฤหัสบดีสิ้นสุดลงตามปกติ"
เจ้าหน้าที่ Nasdaq กล่าวว่า เมื่อปัญหาทางเทคนิคเริ่มต้นขึ้นในเวลา 12.14 น.ตามเวลาสหรัฐ (23.14 น.ตามเวลาไทย) แผนกบริการธุรกรรมของ Nasdaq ก็ปรับระบบการทำงานเข้าสู่ภาวะฉุกเฉินในทันที
แผนกนี้มุ่งความสนใจไปยังประเด็นที่ว่า Nasdaq ควรจะเปิดทำการอีกครั้งก่อนที่ตลาดจะปิดทำการในเวลา 16.00 น.หรือไม่ โดยทางแผนกได้พิจารณาความเป็นไปได้ในการเกิดสถานการณ์แบบ doomsday ซึ่งได้แก่การที่ตลาด เปิดทำการอีกครั้ง แต่ไม่สามารถรับมือกับคำสั่งซื้อขายจำนวนมากที่ทะลักเข้ามาในตลาด
เจ้าหน้าที่ Nasdaq กล่าวว่า "เราตั้งคำถามเกี่ยวกับสถานการณ์่ต่างๆ ที่อาจเกิดขึ้นได้ในทุกกรณี"
ถึงแม้ลูกค้าของ Nasdaq ไม่พอใจกับเหตุขัดข้องในครั้งนี้ แต่พวกเขาก็ต้องการให้ตลาดเตรียมการทุกอย่างให้เรียบร้อยก่อนที่จะเปิดทำการอีกครั้ง
แหล่งข่าวกล่าวว่า "ลูกค้าส่วนใหญ่บอก Nasdaq ว่า 'อย่ารีบร้อนแก้ไขปัญหานี้ เพราะการรีบร้อนเปิดตลาดอีกครั้งจะก่อให้เกิดความเสียหายที่มีขนาดใหญ่เป็น 10 เท่า'"
มีการประสานงานกันเป็นอย่างดีระหว่างเจ้าหน้าที่ด้านเทคโนโลยีของ Nasdaq, ตลาดคู่แข่งที่ได้ระงับการซื้อขายหุ้นที่จดทะเบียนใน Nasdaq, บริษัทโบรกเกอร์ และลูกค้ารายใหญ่ของบริษัทโบรกเกอร์
เจ้าหน้าที่ Nasdaq กล่าวว่า "เรื่องนี้ไม่ใช่ข้ออ้าง เพราะใครก็ตามที่เข้าใจความซับซ้อนของระบบซื้อขายและระบบจับคู่คำสั่งซื้อขาย และเข้าใจความยากลำบากในการให้ตลาดหลายแห่งซื้อขายหุ้นตัวเดียวกัน จะเข้าใจได้ว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องที่ยากลำบากมากเพียงใด"
อาจจะต้องใช้เวลาระยะหนึ่งก่อนที่จะมีการระบุได้ว่า ยอดความเสียหายที่เกิดขึ้นมีมูลค่ามากเพียงใด โดยเหตุการณ์นี้ส่งผลให้ Nasdaq เผชิญ ความเสี่ยงด้านชื่อเสียง ซึ่งจะส่งผลต่อธุรกิจจดทะเบียนหุ้นของ Nasdaq
แหล่งข่าวกล่าวว่า "ถ้าหากคุณแนะนำบริษัทแห่งใดแห่งหนึ่งให้ขายหุ้นต่อสาธารณชน คุณก็อาจจะไม่แนะนำให้บริษัทแห่งนั้นจดทะเบียนใน Nasdaq"
เหตุการณ์เมื่อวานนี้ถือเป็นหนึ่งในเหตุขัดข้องทางเทคนิคที่ร้ายแรงที่สุดที่ธุรกิจหลักทรัพย์ของสหรัฐประสบในระยะนี้ หลังจากที่ก่อนหน้านี้เคยเกิด ปัญหาด้านซอฟท์แวร์ในตลาดออปชั่นชิคาโกในฤดูใบไม้ผลิ ซึ่งส่งผลให้ตลาดเปิดทำการช้ากว่าปกติไปครึ่งวัน
Nasdaq ประสบปัญหาอื่นๆในช่วงนี้เช่นกัน โดยในเดือนพ.ค.ที่ผ่านมา Nasdaq ตกลงที่จะจ่ายเงิน 10 ล้านดอลลาร์เพื่อรอมชอมคดีทางแพ่งกับคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ของสหรัฐ ในเรื่องความผิดพลาดในการจัดการกับการเสนอขายหุ้นต่อสาธารณชนครั้งแรก (IPO) ของบริษัทเฟซบุ๊ค โดยค่าปรับดังกล่าวถือเป็นค่าปรับที่สูงที่สุดเป็น ประวัติการณ์สำหรับตลาดหุ้น
นางแมรี โจ ไวท์ ประธานก.ล.ต.สหรัฐอาจจะนำเหตุการณ์เมื่อวานนี้ มาใช้เป็นข้ออ้างในการผลักดันกฎระเบียบใหม่ที่เคยเสนอไว้ในเดือนมี.ค. โดยกฎดังกล่าวระบุว่าตลาดหลักทรัพย์, สำนักงานหักบัญชี และตลาดประเภท dark pool บางแห่งจะต้องดำเนินมาตรการเพิ่มเติมเพื่อสกัดปัญหาขัดข้องทางเทคนิค โดย dark pool เป็นระบบซื้อขายหลักทรัพย์รายการใหญ่ที่ไม่เปิดเผยข้อมูลการซื้อขายต่อสาธารณะ
ถ้าหากมีการประกาศใช้กฎใหม่นี้ กฎดังกล่าวก็จะเข้ามาแทนที่กฎระเบียบแบบเก่าที่อนุญาตให้ตลาดหลักทรัพย์ปฏิบัติตามแนวปฏิบัติที่เรียกกันว่า Automation Review Policies ที่ยึดตามความสมัครใจของตลาด โดยแนวปฏิบัตินี้ใช้ในการแก้ไขปัญหาด้านความมั่นคงและเสถียรภาพของระบบซื้อขายในตลาด
ก.ล.ต.สหรัฐเร่งรีบยื่นข้อเสนอนี้เพื่อรับมือต่อปัญหาด้านซอฟท์แวร์ในปีที่แล้ว ซึ่งรวมถึงปัญหาในการทำ IPO ของเฟซบุ๊ค, ปัญหาในบริษัทไนท์ แคปิตัล ซึ่งเป็นมาร์เก็ตเมคเกอร์รายใหญ่ของ Nasdaq และการที่ตลาดหุ้น สหรัฐปิดทำการเป็นเวลานาน 2 วันในช่วงที่เกิดพายุเฮอริเคนแซนดี
ตลาดหลักทรัพย์หลายแห่ง ซึ่งรวมถึง Nasdaq และบริษัท NYSE Euronext ซึ่งเป็นบริษัทแม่ของตลาดหุ้นนิวยอร์ค ต่อต้านข้อเสนอของ ก.ล.ต.สหรัฐ โดยอ้างเหตุผลหลายประการ เช่น ปัญหาเรื่องต้นทุนและข้อกำหนดที่ระบุให้ทางตลาดเผยแพร่ข้อมูลเกี่ยวกับเหตุการณ์บางอย่างต่อบริษัทสมาชิก
ก่อนหน้านี้ ก.ล.ต.สหรัฐเคยเห็นพ้องที่จะขยายเวลารับฟังความเห็นเกี่ยวกับกฎระเบียบดังกล่าวออกไป อย่างไรก็ดี หลังจากเกิดเหตุขัดข้อง เมื่อวานนี้ นางไวท์ก็กล่าวว่าเขาจะผลักดันกฎระเบียบนี้ให้เสร็จสมบูรณ์
ตลาด Nasdaq เปิดดำเนินการอีกครั้งในเวลา 15.25 น.ตามเวลา สหรัฐ (02.25 น.ของเช้าวันนี้ตามเวลาไทย) หลังจากปิดการซื้อขายเป็นเวลา 3 ชั่วโมง 11 นาที ซึ่งส่งผลกระทบต่อการซื้อขายหุ้นราว 3,200 ตัว ซึ่งรวมถึงหุ้นบริษัทแอปเปิล อิงค์, เฟซบุ๊ค อิงค์, กูเกิล อิงค์ และไมโครซอฟท์ คอร์ป
การปิดดำเนินการในครั้งนี้ส่งผลให้นางแมรี โจ ไวท์ ประธานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ของสหรัฐ สั่งเรียกประชุมเทรดเดอร์ในย่านวอลล์สตรีทเพื่อหาทางรับประกันว่า ตลาดหลักทรัพย์จะดำเนินการอย่างต่อเนื่องและเป็นระเบียบ
นายซาล อาร์นุค หัวหน้าฝ่ายค้าหลักทรัพย๋์ของบริษัทเธมิส เทรดดิง กล่าวว่า "บริษัทโบรกเกอร์ทุกแห่งได้รับค่าจ้างจากการดำเนินการซื้อขาย ดังนั้นเราจึงได้รับความเสียหายจากเหตุการณ์นี้ และเรื่องนี้ก็ส่งผลกระทบต่อตลาดและความเชื่อมั่นของประชาชนด้วย"
บริษัทแนสแดค โอเอ็มเอ็กซ์ กรุ๊ป อิงค์ ซึ่งเป็นบริษัทแม่ของตลาด Nasdaq ประกาศวานนี้ว่า ทางบริษัทได้ระงับการซื้อขายหุ้นในตลาด หลังจากพบว่า Securities Information Processor หรือ SIP ไม่ได้แสดงระดับราคาล่าสุดของหลักทรัพย์
แนสแดคระบุว่า "ปัญหาด้านการเชื่อมต่อ" ระหว่างผู้มีส่วนเกี่ยวข้องในตลาดรายหนึ่งกับ SIP ส่งผลให้ระบบล่มลง และได้มีการตรวจพบสาเหตุและแก้ไขปัญหานี้แล้ว
แนสแดคระบุว่า "แนสแดค โอเอ็มเอ็กซ์จะทำงานร่วมกับตลาดอื่นๆ ที่เป็นสมาชิกของ SIP เพื่อสอบสวนปัญหาที่เกิดขึ้น และเราจะสนับสนุนขั้นตอนที่จำเป็นใดๆก็ตามในการปรับปรุงตลาด"
ในช่วงที่ตลาด Nasdaq ปิดทำการ การซื้อขายหุ้นบริษัทที่ไม่ได้จดทะเบียนใน Nasdaq ยังคงดำเนินต่อไป ส่วนการซื้อขายออปชั่นหุ้น ในตลาด Nasdaq หยุดชะงักลงด้วยเช่นกัน
ดัชนี Nasdaq ปิดตลาดวานนี้พุ่งขึ้น 1.1 % ซึ่งสูงกว่าระดับก่อนที่ตลาดจะระงับการซื้อขาย
นายไรอัน ดีทริค นักยุทธศาสตร์การลงทุนตามปัจจัยทางเทคนิคของบริษัท เชฟเฟอร์ส อินเวสท์เมนท์ รีเสิร์ช กล่าวว่า "การที่ตลาดไม่ได้ดิ่ิงลงอย่างรุนแรงแสดงให้เห็นว่า นักลงทุนส่วนใหญ่มีความคุ้นเคยมากยิ่งขึ้นกับความผิดพลาดแบบนี้"
นายโจช เออร์เนสต์ โฆษกทำเนียบขาวกล่าวว่า ประธานาธิบดีบารัค โอบามาของสหรัฐได้รับการสรุปข้อมูลเกีี่ยวกับเหตุขัดข้องนี้แล้ว
ตลาดหุ้นสหรัฐประสบเหตุขัดข้องหลายครั้งในช่วงที่ผ่านมา โดยเมื่อวันอังคารที่ผ่านมาได้เกิดความผิดพลาดในการซื้อขายออปชั่นหุ้นจำนวนมากในตลาดสหรัฐ เนื่องจากบริษัทโกลด์แมน แซคส์ กรุ๊ปได้ส่งคำสั่งซื้อขายเข้าไปในตลาดจากความผิดพลาดทางเทคนิค
ในวันที่ 6 ส.ค.ที่ผ่านมา บริษัทแบทส์ โกลบอล มาร์เก็ตส์ ซึ่งเป็นผู้ประกอบการตลาดหุ้น ต้องระงับการซื้อขายเป็นเวลานานเกือบหนึ่งชั่วโมง
นอกจากนี้ ปัญหาขัดข้องทางการซื้อขายในปี 2012 ของบริษัทไนท์ แคปิตัล กรุ๊ป อิงค์ มีส่วนทำให้บริษัทดังกล่าวต้องขายกิจการในเวลาต่อมา
(ข่าวจากสำนักข่าวรอยเตอร์)
ทวีสุข ธรรมศักดิ์
Executive Vice President.
RHB-OSK Securities (Thailand)PLC
RHB Banking Group
อย่างไรก็ดี Nasdaq ยังไม่สามารถเปิดซื้อขายหุ้นอีกครั้งในทันที แต่ต้องรอต่อไปอีก 2 ชั่วโมงครึ่งก่อนที่จะเปิดทำการอีกครั้ง ซึ่งส่งผลให้ Nasdaq ปิดทำการเมื่อวานนี้เป็นเวลารวมกันราว 191 นาที
ช่วงเวลา 191 นาทีนี้ส่วนใหญ่หมดไปกับการหารือกันอย่างเร่งด่วนระหว่าง Nasdaq กับธนาคาร, บริษัทโบรกเกอร์, บริษัทการลงทุน รวมทั้งตลาดหลักทรัพย์อื่นๆ โดยสถาบันเหล่านี้ต้องการให้ Nasdaq รับประกันว่า การเปิดซื้อขายอีกครั้งจะดำเนินไปอย่างเป็นระเบียบ และจะไม่ก่อให้เกิดภาวะตื่นตระหนกในตลาด
เจ้าหน้าที่ Nasdaq คนหนึ่งกล่าวว่า "เราจำเป็นต้องสร้างความมัั่นใจว่า ตลาดหลักทรัพย์ทุกแห่งเชื่อมต่อกับเราได้สำเร็จ และบริษัทภายนอกสามารถติดต่อกับเราได้" ทั้งนี้ ตลาด Nasdaq อยู่ภายใต้การบริหารของบริษัท แนสแดค โอเอ็มเอ็กซ์ กรุ๊ป อิงค์
แผนกเทรดดิงของธนาคารหลายแห่งเตือน Nasdaq ว่าไม่ควรรีบร้อนเปิดตลาดอีกครั้ง เพราะเทรดเดอร์กังวลว่าการเปิดตลาดขณะที่ยังมีความผิดพลาดทางเทคนิคจะกลายเป็นการทำลายความเชื่อมั่นในตลาด
Nasdaq เปิดทำการอีกครั้งในเวลา 15.00 น.ตามเวลาท้องถิ่น โดยเปิดให้ซื้อขายหุ้นบริษัทขนาดเล็ก เพียงตัวเดียวเท่านั้้น ซึ่งได้แก่บริษัทแอตแลนติก อเมริกัน คอร์ป เพื่อเป็นการทดสอบ โดยหุ้นตัวนี้ได้รับเลือกเนื่องจากอักษรย่อของชื่อบริษัทอยู่ในลำดับแรกสุด เมื่อเรียงตามตัวอักษร
ตลาด Nasdaq เปิดทำการอย่างสมบูรณ์อีกครั้งในอีก 25 นาทีต่อมา และ ทางตลาดระบุว่า "การซื้อขายในวันพฤหัสบดีสิ้นสุดลงตามปกติ"
เจ้าหน้าที่ Nasdaq กล่าวว่า เมื่อปัญหาทางเทคนิคเริ่มต้นขึ้นในเวลา 12.14 น.ตามเวลาสหรัฐ (23.14 น.ตามเวลาไทย) แผนกบริการธุรกรรมของ Nasdaq ก็ปรับระบบการทำงานเข้าสู่ภาวะฉุกเฉินในทันที
แผนกนี้มุ่งความสนใจไปยังประเด็นที่ว่า Nasdaq ควรจะเปิดทำการอีกครั้งก่อนที่ตลาดจะปิดทำการในเวลา 16.00 น.หรือไม่ โดยทางแผนกได้พิจารณาความเป็นไปได้ในการเกิดสถานการณ์แบบ doomsday ซึ่งได้แก่การที่ตลาด เปิดทำการอีกครั้ง แต่ไม่สามารถรับมือกับคำสั่งซื้อขายจำนวนมากที่ทะลักเข้ามาในตลาด
เจ้าหน้าที่ Nasdaq กล่าวว่า "เราตั้งคำถามเกี่ยวกับสถานการณ์่ต่างๆ ที่อาจเกิดขึ้นได้ในทุกกรณี"
ถึงแม้ลูกค้าของ Nasdaq ไม่พอใจกับเหตุขัดข้องในครั้งนี้ แต่พวกเขาก็ต้องการให้ตลาดเตรียมการทุกอย่างให้เรียบร้อยก่อนที่จะเปิดทำการอีกครั้ง
แหล่งข่าวกล่าวว่า "ลูกค้าส่วนใหญ่บอก Nasdaq ว่า 'อย่ารีบร้อนแก้ไขปัญหานี้ เพราะการรีบร้อนเปิดตลาดอีกครั้งจะก่อให้เกิดความเสียหายที่มีขนาดใหญ่เป็น 10 เท่า'"
มีการประสานงานกันเป็นอย่างดีระหว่างเจ้าหน้าที่ด้านเทคโนโลยีของ Nasdaq, ตลาดคู่แข่งที่ได้ระงับการซื้อขายหุ้นที่จดทะเบียนใน Nasdaq, บริษัทโบรกเกอร์ และลูกค้ารายใหญ่ของบริษัทโบรกเกอร์
เจ้าหน้าที่ Nasdaq กล่าวว่า "เรื่องนี้ไม่ใช่ข้ออ้าง เพราะใครก็ตามที่เข้าใจความซับซ้อนของระบบซื้อขายและระบบจับคู่คำสั่งซื้อขาย และเข้าใจความยากลำบากในการให้ตลาดหลายแห่งซื้อขายหุ้นตัวเดียวกัน จะเข้าใจได้ว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องที่ยากลำบากมากเพียงใด"
อาจจะต้องใช้เวลาระยะหนึ่งก่อนที่จะมีการระบุได้ว่า ยอดความเสียหายที่เกิดขึ้นมีมูลค่ามากเพียงใด โดยเหตุการณ์นี้ส่งผลให้ Nasdaq เผชิญ ความเสี่ยงด้านชื่อเสียง ซึ่งจะส่งผลต่อธุรกิจจดทะเบียนหุ้นของ Nasdaq
แหล่งข่าวกล่าวว่า "ถ้าหากคุณแนะนำบริษัทแห่งใดแห่งหนึ่งให้ขายหุ้นต่อสาธารณชน คุณก็อาจจะไม่แนะนำให้บริษัทแห่งนั้นจดทะเบียนใน Nasdaq"
เหตุการณ์เมื่อวานนี้ถือเป็นหนึ่งในเหตุขัดข้องทางเทคนิคที่ร้ายแรงที่สุดที่ธุรกิจหลักทรัพย์ของสหรัฐประสบในระยะนี้ หลังจากที่ก่อนหน้านี้เคยเกิด ปัญหาด้านซอฟท์แวร์ในตลาดออปชั่นชิคาโกในฤดูใบไม้ผลิ ซึ่งส่งผลให้ตลาดเปิดทำการช้ากว่าปกติไปครึ่งวัน
Nasdaq ประสบปัญหาอื่นๆในช่วงนี้เช่นกัน โดยในเดือนพ.ค.ที่ผ่านมา Nasdaq ตกลงที่จะจ่ายเงิน 10 ล้านดอลลาร์เพื่อรอมชอมคดีทางแพ่งกับคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ของสหรัฐ ในเรื่องความผิดพลาดในการจัดการกับการเสนอขายหุ้นต่อสาธารณชนครั้งแรก (IPO) ของบริษัทเฟซบุ๊ค โดยค่าปรับดังกล่าวถือเป็นค่าปรับที่สูงที่สุดเป็น ประวัติการณ์สำหรับตลาดหุ้น
นางแมรี โจ ไวท์ ประธานก.ล.ต.สหรัฐอาจจะนำเหตุการณ์เมื่อวานนี้ มาใช้เป็นข้ออ้างในการผลักดันกฎระเบียบใหม่ที่เคยเสนอไว้ในเดือนมี.ค. โดยกฎดังกล่าวระบุว่าตลาดหลักทรัพย์, สำนักงานหักบัญชี และตลาดประเภท dark pool บางแห่งจะต้องดำเนินมาตรการเพิ่มเติมเพื่อสกัดปัญหาขัดข้องทางเทคนิค โดย dark pool เป็นระบบซื้อขายหลักทรัพย์รายการใหญ่ที่ไม่เปิดเผยข้อมูลการซื้อขายต่อสาธารณะ
ถ้าหากมีการประกาศใช้กฎใหม่นี้ กฎดังกล่าวก็จะเข้ามาแทนที่กฎระเบียบแบบเก่าที่อนุญาตให้ตลาดหลักทรัพย์ปฏิบัติตามแนวปฏิบัติที่เรียกกันว่า Automation Review Policies ที่ยึดตามความสมัครใจของตลาด โดยแนวปฏิบัตินี้ใช้ในการแก้ไขปัญหาด้านความมั่นคงและเสถียรภาพของระบบซื้อขายในตลาด
ก.ล.ต.สหรัฐเร่งรีบยื่นข้อเสนอนี้เพื่อรับมือต่อปัญหาด้านซอฟท์แวร์ในปีที่แล้ว ซึ่งรวมถึงปัญหาในการทำ IPO ของเฟซบุ๊ค, ปัญหาในบริษัทไนท์ แคปิตัล ซึ่งเป็นมาร์เก็ตเมคเกอร์รายใหญ่ของ Nasdaq และการที่ตลาดหุ้น สหรัฐปิดทำการเป็นเวลานาน 2 วันในช่วงที่เกิดพายุเฮอริเคนแซนดี
ตลาดหลักทรัพย์หลายแห่ง ซึ่งรวมถึง Nasdaq และบริษัท NYSE Euronext ซึ่งเป็นบริษัทแม่ของตลาดหุ้นนิวยอร์ค ต่อต้านข้อเสนอของ ก.ล.ต.สหรัฐ โดยอ้างเหตุผลหลายประการ เช่น ปัญหาเรื่องต้นทุนและข้อกำหนดที่ระบุให้ทางตลาดเผยแพร่ข้อมูลเกี่ยวกับเหตุการณ์บางอย่างต่อบริษัทสมาชิก
ก่อนหน้านี้ ก.ล.ต.สหรัฐเคยเห็นพ้องที่จะขยายเวลารับฟังความเห็นเกี่ยวกับกฎระเบียบดังกล่าวออกไป อย่างไรก็ดี หลังจากเกิดเหตุขัดข้อง เมื่อวานนี้ นางไวท์ก็กล่าวว่าเขาจะผลักดันกฎระเบียบนี้ให้เสร็จสมบูรณ์
ตลาด Nasdaq เปิดดำเนินการอีกครั้งในเวลา 15.25 น.ตามเวลา สหรัฐ (02.25 น.ของเช้าวันนี้ตามเวลาไทย) หลังจากปิดการซื้อขายเป็นเวลา 3 ชั่วโมง 11 นาที ซึ่งส่งผลกระทบต่อการซื้อขายหุ้นราว 3,200 ตัว ซึ่งรวมถึงหุ้นบริษัทแอปเปิล อิงค์, เฟซบุ๊ค อิงค์, กูเกิล อิงค์ และไมโครซอฟท์ คอร์ป
การปิดดำเนินการในครั้งนี้ส่งผลให้นางแมรี โจ ไวท์ ประธานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ของสหรัฐ สั่งเรียกประชุมเทรดเดอร์ในย่านวอลล์สตรีทเพื่อหาทางรับประกันว่า ตลาดหลักทรัพย์จะดำเนินการอย่างต่อเนื่องและเป็นระเบียบ
นายซาล อาร์นุค หัวหน้าฝ่ายค้าหลักทรัพย๋์ของบริษัทเธมิส เทรดดิง กล่าวว่า "บริษัทโบรกเกอร์ทุกแห่งได้รับค่าจ้างจากการดำเนินการซื้อขาย ดังนั้นเราจึงได้รับความเสียหายจากเหตุการณ์นี้ และเรื่องนี้ก็ส่งผลกระทบต่อตลาดและความเชื่อมั่นของประชาชนด้วย"
บริษัทแนสแดค โอเอ็มเอ็กซ์ กรุ๊ป อิงค์ ซึ่งเป็นบริษัทแม่ของตลาด Nasdaq ประกาศวานนี้ว่า ทางบริษัทได้ระงับการซื้อขายหุ้นในตลาด หลังจากพบว่า Securities Information Processor หรือ SIP ไม่ได้แสดงระดับราคาล่าสุดของหลักทรัพย์
แนสแดคระบุว่า "ปัญหาด้านการเชื่อมต่อ" ระหว่างผู้มีส่วนเกี่ยวข้องในตลาดรายหนึ่งกับ SIP ส่งผลให้ระบบล่มลง และได้มีการตรวจพบสาเหตุและแก้ไขปัญหานี้แล้ว
แนสแดคระบุว่า "แนสแดค โอเอ็มเอ็กซ์จะทำงานร่วมกับตลาดอื่นๆ ที่เป็นสมาชิกของ SIP เพื่อสอบสวนปัญหาที่เกิดขึ้น และเราจะสนับสนุนขั้นตอนที่จำเป็นใดๆก็ตามในการปรับปรุงตลาด"
ในช่วงที่ตลาด Nasdaq ปิดทำการ การซื้อขายหุ้นบริษัทที่ไม่ได้จดทะเบียนใน Nasdaq ยังคงดำเนินต่อไป ส่วนการซื้อขายออปชั่นหุ้น ในตลาด Nasdaq หยุดชะงักลงด้วยเช่นกัน
ดัชนี Nasdaq ปิดตลาดวานนี้พุ่งขึ้น 1.1 % ซึ่งสูงกว่าระดับก่อนที่ตลาดจะระงับการซื้อขาย
นายไรอัน ดีทริค นักยุทธศาสตร์การลงทุนตามปัจจัยทางเทคนิคของบริษัท เชฟเฟอร์ส อินเวสท์เมนท์ รีเสิร์ช กล่าวว่า "การที่ตลาดไม่ได้ดิ่ิงลงอย่างรุนแรงแสดงให้เห็นว่า นักลงทุนส่วนใหญ่มีความคุ้นเคยมากยิ่งขึ้นกับความผิดพลาดแบบนี้"
นายโจช เออร์เนสต์ โฆษกทำเนียบขาวกล่าวว่า ประธานาธิบดีบารัค โอบามาของสหรัฐได้รับการสรุปข้อมูลเกีี่ยวกับเหตุขัดข้องนี้แล้ว
ตลาดหุ้นสหรัฐประสบเหตุขัดข้องหลายครั้งในช่วงที่ผ่านมา โดยเมื่อวันอังคารที่ผ่านมาได้เกิดความผิดพลาดในการซื้อขายออปชั่นหุ้นจำนวนมากในตลาดสหรัฐ เนื่องจากบริษัทโกลด์แมน แซคส์ กรุ๊ปได้ส่งคำสั่งซื้อขายเข้าไปในตลาดจากความผิดพลาดทางเทคนิค
ในวันที่ 6 ส.ค.ที่ผ่านมา บริษัทแบทส์ โกลบอล มาร์เก็ตส์ ซึ่งเป็นผู้ประกอบการตลาดหุ้น ต้องระงับการซื้อขายเป็นเวลานานเกือบหนึ่งชั่วโมง
นอกจากนี้ ปัญหาขัดข้องทางการซื้อขายในปี 2012 ของบริษัทไนท์ แคปิตัล กรุ๊ป อิงค์ มีส่วนทำให้บริษัทดังกล่าวต้องขายกิจการในเวลาต่อมา
(ข่าวจากสำนักข่าวรอยเตอร์)
ทวีสุข ธรรมศักดิ์
Executive Vice President.
RHB-OSK Securities (Thailand)PLC
RHB Banking Group
