“ทรรน” โร่ร้อง ก.พ.ค.กทม.วอนยกเลิกมติตั้ง ขรก.ซี 10 จำนวน 8 ราย ชี้ไม่เป็นธรรม ชี้โดนเอาเปรียบ! เพราะบางคนได้รับแต่งตั้งข้ามหัวทั้งที่เจ้าตัวอาวุโสกว่า ล่าสุด ก.พ.ค.กทม.ให้ยกเลิกคำสั่งดังกล่าว ด้าน “สุขุมพันธุ์” ยันทำถูกต้อง อ้างยึดความรู้ความสามารถมาก่อนอาวุโส
วันนี้ (31 ก.ค.) ที่ศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร นายทรรน ศิลาทอง รองผู้อำนวยการสำนักผังเมือง ในฐานะผู้ร้องต่อคณะกรรมการพิทักษ์ระบบคุณธรรมข้าราชการกรุงเทพมหานคร และบุคลากรกรุงเทพมหานคร (ก.พ.ค.กทม.) กล่าวถึงกรณีที่ ก.พ.ค.กทม. มีคำสั่งยกเลิกการแต่งตั้งตำแหน่งข้าราชการบริหารสูง (ซี 10) จำนวน 8 ตำแหน่ง ว่า เนื่องจากตนเห็นว่าคำสั่งแต่งตั้งข้าราชการซี 10 เมื่อปีที่ผ่านมาไม่ได้ยึดหลักคุณธรรม ไม่ได้ปฏิบัติตามมาตรา 41 ตาม พ.ร.บ.กรุงเทพมหานครและบุคลากรกรุงเทพมหานคร ที่จะต้องแต่งตั้งจากระบบคุณธรรมบทบัญญัติรัฐธรรมนูญ มาตรา 279 ที่จะต้องยึดระบบและหลักคุณธรรม โดยมีการแต่งตั้งบุคคลที่มีความอาวุโสทางราชการน้อยกว่าตนขึ้นไปรับตำแหน่งซี 10 ก่อนตนซึ่งอยู่ในระดับซี 9 มานานกว่า ตนจึงได้ร้องเรียนไปที่ ก.พ.ค.กทม.ซึ่งล่าสุด ก.พ.ค.กทม.ก็ได้มีคำสั่งให้ กทม.ยกเลิกคำสั่งแต่งตั้งข้าราชการซี 10 จำนวน 8 ตำแหน่ง เนื่องจากไม่เป็นไปตามระบบคุณธรรม ได้แก่ 1.นายธีระ ประสิทธิพร ผู้ตรวจราชการกรุงเทพมหานครสูง 2.นางสาวอมรรัตน์ กฤตยานวัช ผู้ตรวจราชการกรุงเทพมหานครสูง 3.นายพิชญา นาควัชระ ผู้ตรวจราชการกรุงเทพมหานครสูง 4.นางสาวทัศรินทร์ เหล่าไพโรจน์ ผู้อำนวยการสำนักงบประมาณกรุงเทพมหานคร 5.นายกิตตินันท์ ขาวสุทธิ์ ผู้อำนวยการสำนักเทศกิจ 6.นายเกรียงพล พัฒนรัฐ ผู้อำนวยการสำนักผังเมือง 7.นางรัชนีวรรณ อัศวธิตานนท์ ผู้อำนวยการสำนักยุทธศาสตร์และประเมินผล และ 8.นายพรเทพ อัครวรกุลชัย หัวหน้าสำนักงานคณะกรรมการข้าราชการกรุงเทพมหานคร
ทั้งนี้ เมื่อ กทม.รับทราบคำสั่งจาก ก.พ.ค.กทม.แล้ว ผู้ว่าฯ กทม.จะต้องปฏิบัติตามคำสั่งภายใน 60 วันหลังจากรับทราบคำสั่ง ซึ่งตามกฎหมายของ ก.พ.ค.กทม.ไม่ได้ให้อำนาจผู้ว่าฯ กทม.ในการอุทธรณ์คำสั่งของ ก.พ.ค.กทม.ได้ แต่จะต้องปฏิบัติตามคำสั่งของ ก.พ.ค.กทม.เท่านั้น หากผู้ว่าฯ กทม.ยังไม่ปฏิบัติตามคำสั่งของ ก.พ.ค.กทม. ตนก็จะดำเนินการตามมาตรการเบาไปหาหนัก โดยเริ่มจากทำหนังสือทวงถามไปยังผู้ว่าฯ กทม.หากผู้ว่าฯ กทม.ยังไม่ดำเนินการใดๆ จะถือว่าการแต่งตั้งมีเจตนาไม่สุจริต ดังนั้นตนจะฟ้องศาลอาญา ฐานละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ตามมาตรา 157
นายทรรน กล่าวต่อว่า ตนไม่มีเจตนากลั่นแกล้งใครเป็นการใช้สิทธิตามกฎหมาย ไม่ได้ต้องการให้การบริหารบุคคลได้รับความเสียหายแต่อย่างใด แต่ขอให้ผู้บริหารกทม.เห็นใจตนด้วย ตนรอตำแหน่ง 3 ปี ที่ผ่านมาตนถูกปล้นตำแหน่ง จึงขอตำแหน่งกลับคืน ส่วนกรณีที่มีข่าวว่าทั้ง 8 คนที่ถูกยกเลิกตำแหน่งจะฟ้องศาลปกครองในการยกเลิกตำแหน่งนั้น ตนมีความมั่นใจว่าศาลปกครองจะต้องยกคำร้องเนื่องจากทั้ง 8 คนนั้นไม่ได้เป็นผู้เสียหายโดยตรง อย่างไรก็ตาม ก.พ.ค.กทม.ชุดนี้ ได้ถูกผลักดันให้เกิดขึ้นเมื่อปี 54 ได้ทำหน้าที่อย่างถูกต้อง โดยได้รักษาผลประโยชน์ของข้าราชการอย่างยุติธรรม ซึ่งการพิจารณายกเลิกคำสั่งการแต่งตั้งข้าราชการซี 10 นี้ถือเป็นครั้งแรกที่มีคำสั่งยกเลิกตำแหน่งที่สูงระดับนี้
ด้าน ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าฯ กทม.กล่าวว่า ตนยังไม่ทราบคำสั่งของ ก.พ.ค.กทม.อย่างเป็นทางการ แต่ทั้งนี้ตนยืนยันว่ากระบวนการแต่งตั้งข้าราชการซี 10 นั้นถูกต้องตามหลักเกณฑ์ ซึ่งการแต่งตั้งนั้นไม่ได้ยึดความอาวุโสมาเป็นอันดับแรก แต่จะต้องพิจารณาจากความรู้ความสามารถของข้าราชการเป็นอันดับแรกด้วย โดย ก.พ.ค.กทม.ก็มีหน้าที่ในการพิจารณาตามอำนาจหน้าที่ ส่วนตนที่มีอำนาจในการแต่งตั้งก็ต้องดำเนินการให้ถูกต้องตามกระบวนการอยู่แล้ว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าสำหรับรายชื่อคณะกรรมการ ก.พ.ค.กทม.มีจำนวน 5 คน ประกอบด้วย 1.นายสุชาติ เวโรจน์ ประธานคณะกรรมการระบบพิทักษ์คุณธรรม 2.นายชลอ คชรัตน์ คณะกรรมการ ก.พ.ค. 3.นายธีระชัย เธียรสรรชัย คณะกรรมการ ก.พ.ค. 4.นางบุษบา กรัยวิเชียร คณะกรรมการ ก.พ.ค. 5. นายพูลพันธ์ ไกรเสริม คณะกรรมการ โดยคณะกรรมการชุดนี้ดำรงตำแหน่งตั้งแต่วันที่ 31 ม.ค. 55 มีวาระ 6 ปี ซึ่ง ก.พ.ค.กทม.จะทำหน้าที่เช่นเดียวกับคณะกรรมการพิทักษ์ระบบคุณธรรม หรือ ก.พ.ค.ของข้าราชการพลเรือนสามัญ โดยจะพิจารณาเรื่องอุทธรณ์ของข้าราชการผู้ถูกลงโทษทางวินัย รวมทั้งพิจารณาเรื่องร้องทุกข์ของข้าราชการที่มีเหตุมาจากผู้บังคับบัญชา เช่น การแต่งตั้งโยกย้าย หรือไม่ได้รับความเป็นธรรมจากการบริหารงานบุคคล อย่างไรก็ตามหากข้าราชการคิดว่าไม่ได้รับความเป็นธรรมสามารถใช้สิทธิ์อุทธรณ์หรือร้องทุกข์ได้
อย่างไรก็ตามกฎหมายระเบียบข้าราชการกรุงเทพมหานครฉบับปรับปรุงแก้ไขใหม่ พ.ศ.2554 ได้ตอบสนองบทบัญญัติตามรัฐธรรมนูญฉบับปัจจุบัน ที่กำหนดให้การบริหารงานบุคคลของราชการบริหารส่วนท้องถิ่นต้องมีกลไกในการพิทักษ์คุณธรรม ด้วยการกำหนดให้มีองค์กรวินิจฉัยชี้ขาดอุทธรณ์องค์กรหนึ่งสำหรับให้ความเป็นธรรมแก่ข้าราชการ กทม.หรือที่เรียกว่าคณะกรรมพิทักษ์ระบบคุณธรรมกรุงเทพมหานคร (ก.พ.ค.กทม.)
