xs
xsm
sm
md
lg

EGCO ตั้งงบลงทุนปีหน้า 2.2 หมื่นล้านบาท

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


ASTVผู้จัดการรายวัน - เอ็กโก กรุ๊ปเพิ่มงบลงทุนปีนี้อีก 3 พันล้าน เป็น 1.8 หมื่นล้านบาท หลังซื้อกิจการโรงไฟฟ้าลมโบโคร็อกที่ออสเตรเลีย แย้มปีหน้าตั้งงบลงทุนไว้ 2.2 หมื่นล้านบาท ใช้ลงทุนโครงการต่อเนื่องทั้งใน-ตปท. และโรงไฟฟ้าพลังลมที่ชัยภูมิ คาดกำไรครึ่งปีหลังนี้ใกล้เคียงช่วงเดียวกันของปีก่อน

นายสหัส ประทักษ์นุกูล กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ผลิตไฟฟ้า จำกัด (มหาชน) (EGCO) เปิดเผยว่า ในปีนี้บริษัทฯ ได้ปรับเพิ่มงบลงทุนจาก 1.5 หมื่นล้านบาท เป็น 1.8 หมื่นล้านบาทเพื่อซื้อกิจการโรงไฟฟ้าพลังลมโบโคร็อก วินฟาร์มที่ออสเตรเลีย ขนาดกำลังการผลิต 113 เมกะวัตต์ไปเมื่อเร็วๆ นี้ เป็นเงิน 110 ล้านเหรียญออสเตรเลีย หรือ 3 พันกว่าล้านบาท

สำหรับปีหน้าบริษัทฯ วางงบลงทุนไว้ที่ 1.8-2.2 หมื่นล้านบาท ซึ่งเป็นการลงทุนโครงการต่อเนื่องทั้งโครงการโรงไฟฟ้าพลังลมโบโคร็อก 5 พันกว่าล้านบาท โรงไฟฟ้าขนอมส่วนขยาย 5 พันล้านบาท โรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ 2 โครงการที่ราชบุรี คือโรงไฟฟ้าทีพี โคเจน และเอสเค โคเจน 4 พันล้านบาท โรงไฟฟ้าพลังน้ำไชยะบุรี 1.3 พันล้านบาท และโรงไฟฟ้าเควซอนส่วนขยายที่ฟิลิปปินส์อีก 2 พันล้านบาท ทั้งนี้ หากโครงการโรงไฟฟ้าพลังลมที่ จ.ชัยภูมิขนาด 80-90 เมกะวัตต์ได้รับอนุมัติก็จะใช้เงินลงทุน 4 พันล้านบาท

ส่วนในปี 57 คาดใช้งบลงทุนเพิ่มเป็น 2.2 หมื่นล้านบาท โดยเป็นการลงทุนโครงการเดิมต่อเนื่องจากปีนี้ ได้แก่ โรงไฟฟ้าพลังงานลม “โบโคร็อก วินด์ฟาร์ม” อีก 5 พันกว่าล้านบาท โรงไฟฟ้าขนอม 5 พันกว่าล้านบาท โรงไฟฟ้า SPP 2 โครงการใน จ.ราชบุรี คือโครงการทีพี โคเจน และเอสเค โคเจน รวมใช้เงิน 4 พันล้านบาท โครงการไชยะบุรี 300 ล้านบาท ส่วนโครงการใหม่ ได้แก่ โรงไฟฟ้าเควซอนส่วนขยาย 2 พันล้านบาท และโรงไฟฟ้าพลังงานลมชัยภูมิ วินฟาร์ม ที่ จ.ชัยภูมิ 4 พันล้านบาท

“โครงการโรงไฟฟ้าชัยภูมิ วินด์ฟาร์ม เป็นโครงการที่บริษัทได้เสนอขายไฟฟ้าให้กับการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) ไปแล้ว และคาดว่าจะรู้ผลภายใน 1-2 เดือน โดยบริษัทฯ ถือหุ้น 90% และ PVI ซึ่งเป็นบริษัทเอกชนที่ช่วยจัดหาที่ดินอีก 10% คาดว่าจะจ่ายไฟได้ประมาณปลายปี 59 ขณะที่โรงไฟฟ้าเควซอนส่วนขยายคาดว่าจะได้ข้อสรุปในปลายปีนี้หรืออย่างช้าต้นปีหน้า”

นายสหัสกล่าวว่า ขณะนี้ยังไม่ได้รับการติดต่อจากกระทรวงพลังงานที่จะให้บริษัทสร้างโรงไฟฟ้าใหม่ในพื้นที่โรงไฟฟ้าระยองเดิม ซึ่งจะสิ้นสุดสัญญาซื้อขายไฟฟ้าในปลายปี 2557 เนื่องจากปัจจุบันการหาพื้นที่ใหม่ในการสร้างโรงไฟฟ้าทำได้ยาก โดยสร้างโรงไฟฟ้าขนาด 1.8 พันเมกะวัตต์ สอดรับการสายส่งไฟในขณะนี้ ทั้งนี้ บริษัทเคยเข้าประมูลก่อสร้างโรงไฟฟ้าไอพีพีโดยใช้พื้นที่ดังกล่าวในราคาค่าไฟฟ้าที่ต่ำ แต่ไม่ตรงหลักเกณฑ์การพิจารณาทำให้ต้องพลาดโอกาสไป

นอกจากนี้ บริษัทได้ทำหนังสือขอต่ออายุสัญญาซื้อขายไฟฟ้าจากโรงไฟฟ้าระยองออกไปอีก 5 ปี คาดว่าจะได้คำตอบในปลายปีนี้ หากไม่ได้รับการต่ออายุโรงไฟฟ้าก็คงต้องพิจารณาว่าเครื่องจักรโรงไฟฟ้านี้จะขายออกไปให้พม่าที่ยังมีความต้องการกระแสไฟฟ้าอยู่

นายสหัสกล่าวถึงแผนการลงทุนโรงไฟฟ้าในต่างประเทศว่า บริษัทยังแสวงหาโอกาสการลงทุนโรงไฟฟ้าในไทยและเอเชียแปซิฟิก ทั้งในเวียดนาม อินโดนีเซีย ลาว ออสเตรเลีย เป็นต้น โดยบริษัทได้ยื่นประมูลโรงไฟฟ้าถ่านหินที่อินโดนีเซีย ขนาดกำลังติดตั้ง 1,200 เมกะวัตต์ คาดว่าจะได้ข้อสรุปในปลายปีนี้หรือต้นปีหน้า โดยโครงการประมูลนี้เอ็กโก กรุ๊ป จะถือหุ้นประมาณ 25% ส่วนที่เวียดนามก็มีการเสนอขายหุ้นโครงการโรงไฟฟ้าถ่านหินให้บริษัทฯ ด้วย คาดว่าปีหน้าจะได้ข้อสรุป

สำหรับผลการดำเนินงานในครึ่งปีหลัง บริษัทฯ จะมีกำไรสุทธิใกล้เคียงกับช่วงเดียวกันของปีก่อน เนื่องจากปีที่แล้วบริษัทฯ รับรู้รายได้จากโครงการโรงไฟฟ้าใหม่ในช่วงครึ่งปีหลัง อย่างไรก็ตาม ปีนี้บริษัทฯ มีผลกำไรดีกว่าปี 2555
กำลังโหลดความคิดเห็น