“พาณิชย์” ร่วมคณะนายกฯ เยือนปากีสถาน เตรียมเซ็นเอ็มโอยูตั้งคณะกรรมการร่วมทางการค้าเพื่อขยายการค้าและการลงทุนระหว่างกัน
นายยรรยง พวงราช รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า กระทรวงพาณิชย์จะร่วมคณะ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เดินทางไปเยือนปากีสถาน ระหว่างวันที่ 19-21 ส.ค. 2556 โดยจะมีการลงนามบันทึกความเข้าใจว่าด้วยการจัดตั้งคณะกรรมการร่วมทางการค้าไทย-ปากีสถาน และการประชุมคณะกรรมการร่วมทางการค้าไทย-ปากีสถาน ครั้งที่ 1 รวมถึงการที่ทั้งสองฝ่ายมีกำหนดจะลงนามในบันทึกความเข้าใจว่าด้วยการจัดตั้ง Joint Business Council ระหว่างภาคเอกชนไทยกับสาธารณรัฐอิสลามปากีสถาน
“ทางกระทรวงพาณิชย์ และผม ซึ่งร่วมเดินทางไปด้วยในครั้งนี้จะมีการหยิบยกกลุ่มสินค้าที่ไทยและปากีสถานมีศักยภาพ และต้องการค้าขายระหว่างกันขึ้นมาหารือ รวมทั้งสร้างความร่วมมือในกลุ่มสินค้าที่ทั้งสองฝ่ายจะตกลงกันเพื่อให้เกิดการค้าต่อไปในอนาคต” นายยรรยงกล่าว
นางสาวลีนา พงษ์พฤกษา รองอธิบดีกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ กล่าวว่า ปัจจัยที่น่าสนใจของปากีสถานคือขณะนี้ได้มีการดำเนินนโยบายมองตะวันออก (Look East Policy) ส่งเสริมและขยายความสัมพันธ์กับเอเชีย โดยเฉพาะเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และเอเชียตะวันออก ลดการพึ่งพาทางเศรษฐกิจกับประเทศในภูมิภาคเดียวกัน และดำเนินนโยบายเศรษฐกิจที่เปิดเสรีมากขึ้นเพื่อดึงดูดการลงทุนจากต่างประเทศ โดยได้ยกเลิกระบบการควบคุมอัตราแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ รวมทั้งให้สิทธิประโยชน์แก่ผู้ส่งออก และหากมองในแง่ของการเป็นตลาดใหม่ ปากีสถานถือเป็นตลาดเป้าหมายที่มีศักยภาพ ภาคเอกชนไทยก็ต้องการให้กระทรวงไปเปิดสำนักงานส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ (สคร.) ในปากีสถาน เพื่อสนับสนุนการค้าและการลงทุนของนักธุรกิจไทยในปากีสถาน
ปัจจุบันปากีสถานเป็นคู่ค้าอันดับที่ 46 ของไทย และเป็นคู่ค้าอันดับที่ 2 ของไทยในภูมิภาคเอเชียใต้ รองจากอินเดีย ในระยะ 5 ปีที่ผ่านมา (2551-2555) การค้าระหว่างไทยกับปากีสถานมีมูลค่าเฉลี่ย 889.24 ล้านเหรียญสหรัฐ ขยายตัวเฉลี่ยปีละร้อยละ 6.74 โดยในปี 2556 (ม.ค.-มิ.ย.) การค้ารวมไทย-ปากีสถานมีมูลค่า 563.79 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้นจากปีก่อนหน้าร้อยละ 7.25 ไทยเป็นฝ่ายได้ดุลการค้า 446.30 ล้านเหรียญสหรัฐ