เอเอฟพี - รัฐบาลแดนโรตีบอกปัด หลังจากอาเซียนประสานเสียง วอนยื่นมือช่วยคลี่คลายข้อพิพาทการอ้างกรรมสิทธิ์ครอบครองหมู่เกาะในทะเลจีนใต้ระหว่างพญามังกรกับสมาชิกอาเซียนบางชาติ
สมาคมประชาชาติเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ หรือ อาเซียน ซึ่งประกอบด้วยสมาชิก 10 ประเทศ เรียกร้องในระหว่างการประชุมสุดยอดอาเซียน-อินเดียสมัยพิเศษ ที่กรุงนิวเดลีเมื่อวันพฤหัสฯ (20 ธ.ค.) ให้อินเดียแสดงจุดยืน ที่ชัดเจนเด็ดขาดมากขึ้นในภูมิภาคอาเซียน หลังจากอินเดียเคยให้สัญญาว่า จะส่งเสริมสนับสนุนความร่วมมือด้านการค้าและความมั่นคงทางทะเลกับอาเซียน
นายกรัฐมนตรีเหงียน ตัน ดุง ของเวียดนามร้องขอให้อินเดียเข้าแทรกแซงโดยตรงในปัญหาการแย่งกรรมสิทธิ์ครอบครองหมู่เกาะในทะเลจีนใต้ ขณะที่ประธานาธิบดีเต็ง เส่งของพม่าระบุว่า อินเดียมีบทบาทสำคัญอย่างยิ่งในการทำให้มั่นใจว่า ภูมิภาคนี้จะมีเสถียรภาพและสันติภาพ
อย่างไรก็ตาม นาย ซัลมาน เคอร์ชิด รัฐมนตรีต่างประเทศของอินเดียยืนกรานว่า ข้อพิพาทนี้ไม่จำเป็นต้องให้อินเดียเข้าแทรกแซง โดยอ้างว่า ปัญหาเกี่ยวกับอธิปไตยต้องแก้ไขกันเองในหมู่ชาติ ที่มีปัญหา
ทั้งนี้ จีนได้อ้างกรรมสิทธิ์ครอบครองบริเวณส่วนใหญ่ในทะเลจีนใต้ ซึ่งรวมทั้งน่านน้ำ ที่ติดกับชายฝั่งชาติเพื่อนบ้าน โดยเชื่อกันว่า บริเวณเหล่านี้อุดมไปด้วยแหล่งทรัพยากรน้ำมันและแร่ธาตุ แต่ข้ออ้างของจีนถูกคัดค้านจากไต้หวัน และ 4 ชาติอาเซียนได้แก่ฟิลิปปินส์ บรูไน มาเลเซีย และเวียดนาม โดยชาติเหล่านี้ก็อ้างว่า ดินแดนของตนทับซ้อนอยู่ในบริเวณเดียวกับที่จีนอ้างเป็นเจ้าของ
ปัจจุบัน จีนและอินเดียได้พยายามขยายความสัมพันธ์ด้านการค้าระหว่างกัน แม้ชาติทั้งสองยังมีปัญหาขัดแย้งด้านพรมแดน และปัญหากระทบกระทั่งอื่น ๆ จากความไม่ไว้วางใจกัน อันเป็นผลจากการทำสงครามกันเมื่อปี 2505 ซึ่งเกิดขึ้นช่วงสั้น ๆ
นอกจากนั้น แม้การค้าขายระหว่างจีนกับชาติอาเซียนจะมีปริมาณมากกว่ากับอินเดีย แต่หลังจากอินเดียเริ่มดำเนินนโยบาย “มองตะวันออก” ตั้งแต่เมื่อ 20 ปีก่อน การค้าระหว่างอินเดียกับอาเซียนก็เติบโตขึ้นเรื่อย ๆ โดยมีมูลค่า 80,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯในปีที่แล้ว จาก 47,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ในปี 2551