ฟ้าผ่าโรงแยกก๊าซฯ หน่วยที่ 5 ของ ปตท.ส่งผลให้ไทยขาดแอลพีจี 7-7.5 หมื่นตันต่อเดือน ต้องนำเข้าแอลพีจี ส.ค.เพิ่มอีก 4 หมื่นตันหรือเป็น 1.8 แสนตัน ขณะที่เหลือจะลดจากการส่งป้อนปิโตรฯ ด้านโรงกลั่นถกจันทร์นี้เพื่อเพิ่มกำลังการผลิตช่วยในประเทศ ย้ำประชาชนต้องไม่เดือดร้อน
นายวีระพล จิรประดิษฐกุล อธิบดีกรมธุรกิจพลังงาน เปิดเผยว่า จากกรณีที่โรงแยกก๊าซธรรมชาติหน่วยที่ 5 ของ บมจ.ปตท.ฟ้าผ่าเมื่อวันที่ 14 ส.ค.จนต้องหยุดผลิต 3-5 เดือนและกระทบต่อการผลิตก๊าซหุงต้มหรือแอลพีจี ล่าสุด บมจ.ปตท.แจ้งว่าแอลพีจีจะหายไปราว 7 หมื่นตันต่อเดือน ดังนั้นจึงต้องหยุดส่งแอลพีจีป้อนภาคปิโตรเคมี 3 หมื่นตันต่อเดือนที่เหลือ 4 หมื่นตันคงจะต้องนำเข้า
“การนำเข้าแอลพีจี 4 หมื่นตันจะมีการนำเรือที่เป็นคลังแอลพีจี (floating LPG) มาเพิ่มอีก1 ลำในเดือนสิงหาคม เดิม ปตท.มีการนำเข้าแอลพีจี 1.4 แสนตันอยู่แล้ว จึงทำให้การนำเข้าจะเพิ่มเป็น 1.8 แสนตัน ซึ่งถือเป็นอัตราที่กลับมาสูงอีกครั้ง โดยขณะนี้นายพงษ์ศักดิ์ รักตพงศ์ไพศาล รมว.พลังงาน ได้กำชับว่าต้องไม่ให้ประชาชนเดือดร้อน” นายวีระพลกล่าว
นายชายน้อย เผื่อนโกสุม ผู้อำนวยการสถาบันบริหารกองทุนพลังงาน เปิดเผยหลังการหารือกับกลุ่มโรงกลั่นน้ำมันเพื่อที่จะหาแนวทางในการผลิตก๊าซหุงต้มหรือแอลพีจีเพิ่มขึ้นหลังจากเกิดเหตุโรงแยกก๊าซธรรมชาติหน่วยที่ 5 ของ บมจ.ปตท.ที่ จ.ระยองเกิดฟ้าผ่าทำให้การผลิตต้องหยุด 3-5 เดือน ซึ่งเบื้องต้นได้ขอความร่วมมือให้โรงกลั่นหาดูรายละเอียดถึงความเป็นไปได้ในการผลิตแอลพีจีให้แก่ภาคครัวเรือน ขนส่งและอุตสาหกรรมเพิ่มขึ้นเช่น ปรับเปลี่ยนแหล่งน้ำมันดิบที่จะซื้อให้ผลิตแอลพีจีได้มากขึ้น หรือดึงแอลพีจีที่ป้อนภาคปิโตรเคมีมาป้อนแทนโดยให้ภาคปิโตรฯ ใช้วัตถุดิบอื่นเช่นแนฟทา
“คงจะต้องมีการนำเข้าส่วนหนึ่ง ซึ่งยอมรับว่าก็คงจะกระทบต่อฐานะกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงที่จะต้องจ่ายการนำเข้าเพิ่มขึ้นแต่จะเป็นเงินเท่าใดก็จะต้องมาดูก่อนรวมถึงปริมาณที่ชัดเจน โดยขณะนี้ราคาแอลพีจีตลาดโลกเฉลี่ยอยู่ที่ 835 เหรียญสหรัฐต่อตัน” นายชายน้อยกล่าว
นายสุรงค์ บูลกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหารการเงิน บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า วันที่ 19 ส.ค.นี้ทางโรงกลั่นจะหารือกันทั้งหมดเพื่อพิจารณาแนวทางดังกล่าวว่าจะสามารถทำได้มากน้อยเพียงใด โดยเฉพาะการเปลี่ยนน้ำมันดิบซึ่งเบื้องต้นยอมรับว่าการจัดซื้อใช้เวลา 1-2 เดือนจะทันหรือไม่อย่างไร โดยขณะนี้โรงกลั่นผลิตแอลพีจีได้รวมทั้งหมด 8 หมื่นตันต่อเดือน ส่วนป้อนปิโตรเคมีฯ แต่ละโรงกลั่นไม่ทราบละเอียดจึงต้องหารือ โดย บมจ.ไทยออยล์กับ บมจ.บางจากที่ไม่ได้ป้อนให้ภาคปิโตรเคมีแต่อย่างใด
