- เทรดเดอร์ส่วนใหญ่คาดว่าธนาคารกลางยุโรป (ECB) จะช่วยควบคุมอัตราดอกเบี้ยกู้ยืมระหว่างธนาคารในยูโรโซนให้อยู่ในระดับต่ำในช่วง 1 ปีข้างหน้า หลังจากที่ได้ตรึงไว้ที่สถิติต่ำ สุด 0.5 % ตั้งแต่ 1 ส.ค. และเชื่อว่าจะอยู่ที่ระดับนี้หรือต่ำกว่าเป็นเวลาระยะหนึ่ง (โพลล์รอยเตอร์)
- รัฐบาลเยอรมนีปฏิเสธรายงานที่ว่ากรีซจำเป็นต้องขอความช่วยเหลือทางการเงินครั้งใหม่ภายในต้นปีหน้า โดยยืนยันว่ากรีซกำลังมีความคืบหน้าในการปฏิรูป ซึ่งเห็นได้จากข้อมูลเศรษฐกิจที่ดีขึ้น ทำให้นักเศรษฐศาสตร์บางคนคาดว่าภาวะถดถอยจะปรับตัวดีขึ้นในไตรมาส 4
- ส.สถิติเยอรมนี รายงานว่า
- ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) เดือน ก.ค.อยู่ที่ 0.5% เมื่อเทียบรายเดือน และ 1.9% เมื่อเทียบรายปี
- ราคาพลังงานเพิ่มขึ้น 0.3% เมื่อเทียบรายเดือน และ 2.2% เมื่อเทียบรายปี
- ราคาอาหารลดลง 0.2% เมื่อเทียบรายเดือน แต่เพิ่มขึ้น 5.1% เมื่อเทียบรายปี
- ดัชนีราคาค้าส่งอยู่ที่ 121.8 ในเดือน ก.ค. ลดลง 0.3% เมื่อเทียบกับเดือนก่อนและทรงตัวเมื่อเทียบกับปีก่อน
- อังกฤษ เผยว่า ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ในเดือน ก.ค. อยู่ที่ 2.8% ลดลงจาก 2.9% ในเดือน มิ.ย. โดยได้แรงหนุนจากค่าตั๋วเครื่องบินและเครื่องนุ่งห่มที่ลดลง อย่างไรก็ดี ราคาบ้านซึ่งไม่ได้ถูกรวมในดัชนี CPI โดยตรงกำลังปรับตัวขึ้นอย่างรวดเร็ว โดยผลสำรวจของสถาบันผู้รังวัดที่ได้รับอนุญาต (RICS) บ่งชี้ว่า ราคาบ้านกำลังทำสถิติพุ่งขึ้นมากที่สุด บตั้งแต่ปี 2006 และข้อมูลของทางการพบว่าราคาบ้านปรับตัวขึ้นเร็วกว่าอัตราเงินเฟ้อในอัตรา 3.1%
- นักวิจัยในธนาคารกลางสหรัฐ ระบุว่า นักลงทุนไม่จำเป็นต้องให้ความสนใจมากนักกับประเด็นปรับลดวงเงิน QE3 เพราะมีความสำคัญน้อยกว่าสัญญาณที่บ่งชี้ว่า FED จะเริ่มปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเมื่อใด เนื่องจากจะส่งผลกระทบสำคัญต่ออัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจและอัตราเงินเฟ้อของสหรัฐ
- รัฐบาลบราซิลเลื่อนการเปิดประมูลโครงการรถไฟความเร็วสูงออกไปอย่างน้อยอีก 1 ปี เนื่องจากมีกลุ่มบริษัทเพียงกลุ่มเดียวที่เข้าแข่งขัน โดยโครงการสร้างทางรถไฟความเร็วสูงระยะ 260 ไมล์ (420 กิโลเมตร) ถือเป็นหัวใจหลักของแผนการลงทุนวงเงิน 1 แสนล้านดอลลาร์ของประเทศเพื่อปรับปรุงถนน ทางรถไฟ ท่าอากาศยาน และท่าเรือ
- สำนักสารสนเทศพลังงานสหรัฐ คาดการณ์ว่า จีนจะนำเข้าน้ำมันสุทธิรายใหญ่สุดของโลกแซงหน้าสหรัฐในเดือน ต.ค. นี้ และปีหน้าการนำเข้าน้ำมันสุทธิของจีนจะมากกว่าของสหรัฐ และช่องว่างจะมากขึ้นเรื่อยๆ โดยขณะนี้จีนเป็นประเทศผู้ใช้พลังงานรายใหญ่สุดของโลก
- ผู้อำนวยการ สศค. กล่าวว่า หากร่าง พ.ร.บ. กู้เงินวงเงิน 2 ล้านล้านบาทไม่ผ่านความเห็นชอบจากสภาฯ รัฐบาลก็เตรียมทางเลือกไว้แล้วเพื่อให้การลงทุนเดินหน้าต่อไปได้โดยไม่หยุดชะงัก โดยได้เตรียมแผนลงทุนในโครงการที่จำเป็นเร่งด่วนต้องเดินหน้าก่อ สร้าง เช่น รถไฟฟ้า 10 เส้นทาง ในกรุงเทพฯ และปริมณฑล เพื่อจัดสรรงบประมาณปี 2557 และศึกษาโครงการ จากนั้นจึงค่อยโยกโครงการลงทุนไปใช้เงินลงทุน 2 ล้านล้านบาทภายหลัง
- รองโฆษกประจำสำนักนายกฯ รายงานว่า หน่วยราชการและรัฐวิสาหกิจสามารถเบิกจ่ายงบประมาณได้แล้ว 1.831 ล้านล้านบาท หรือ 76.33% ของงบรายจ่าย และคาดว่าจนถึงสิ้นปีงบประมาณ 56 ในวันที่ 30 ก.ย.นี้ การเบิกจ่ายจะเป็นไปตามเป้าหมายที่กำหนดว่าไม่ต่ำกว่า 80%
- SET Index ปิดที่ 1,459.08 จุด เพิ่มขึ้น 26.83 จุด หรือ +1.87% ด้วยมูลค่าซื้อขาย 44,515.12 ล้านบาท โดยดัชนีเคลื่อนไหวในแดนบวกสอดคล้องกับตลาดอื่นๆ ในภูมิภาคเอเชียหลังจากได้รับแรงบวกจากการประกาศตัวเลขการผลิตของจีนในเดือน ก.ค. ประกอบกับปัจจัยภายในประเทศขณะนี้ยังไม่มีเหตุการณ์ใด ๆ เข้ามากระทบตลาด
- อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลเปลี่ยนแปลงในช่วง 0.00% ถึง +0.03%
- สมาคมทองจีน (CGA) ระบุว่า จีนบริโภคทอง 706.36 ตันในช่วงครึ่งแรกของปีนี้ โดยเพิ่มขึ้น 54% จากปีก่อน ขณะที่ราคาทองที่ปรับตัวลงได้ดึงดูดผู้ซื้อ และตอกย้ำการคาดการณ์ของสภาทองคำโลกที่ว่า อุปสงค์ทองของจีนอาจแตะระดับสูงเป็นประวัติการณ์ที่ 1,000 ตันในปีนี้ และแซงหน้าอินเดียขึ้นเป็นประเทศผู้บริโภคทองรายใหญ่ที่สุดของโลก โดยการบริโภคทองของอินเดียในปีนี้คาดว่าจะต่ำกว่าปีที่แล้วซึ่งอยู่ที่ 860 ตัน ขณะที่รัฐบาลกำลังพยายามที่จะควบคุมการนำเข้าเพื่อลดยอดขาดดุลการค้า