xs
xsm
sm
md
lg

“เอสซีจี เปเปอร์” จับมือญี่ปุ่น ตั้งโรงกระดาษชนิดพิเศษมูลค่า 2 พันล้าน

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


ASTVผู้จัดการรายวัน - เอสซีจี เปเปอร์จับมือนิปปอน เปเปอร์ ผุดโรงงานผลิตกระดาษเกรดพิเศษที่ใช้บรรจุอุปกรณ์ทางการแพทย์และสิ่งทอ เงินลงทุน 2 พันล้านบาทคาดว่าจะผลิตเชิงพาณิชย์ได้กลางปี 57 เผยปีนี้กลุ่มธุรกิจกระดาษมีรายได้โตเพียง 3-5% จากปีก่อน แต่มีกำไรดีขึ้น เนื่องจากหันมาผลิตสินค้ามูลค่าเพิ่มคิดเป็นมากกว่า 30% ในปีนี้

นายรุ่งโรจน์ รังสิโยภาส กรรมการผู้จัดการใหญ่ เอสซีจี เปเปอร์ ในเครือปูนซิเมนต์ไทย (SCC) เปิดเผยว่า บริษัทฯได้มีการวิจัยและพัฒนานวัตกรรมใหม่ๆเพิ่มมากขึ้นเพื่อตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคควบคู่กับการดูแลรักษาสิ่งแวดล้อม หลังจากความต้องการใช้กระดาษลดลงเป็นผลสืบเนื่องจากเทรนด์ทั่วโลกที่หันไปสู่ยุคดิจิตอล ทำให้ความต้องการใช้กระดาษเพื่อการพิมพ์ลดลง ทำให้มีการแข่งขันสูงและราคาต่ำลง แต่กระดาษบรรจุภัณฑ์ยังโตดีอยู่

ในปีนี้เอสซีจี เปเปอร์ ได้วางงบการวิจัยและพัฒนาไว้ 300 ล้านบาท โดยครึ่งหนึ่งใช้ในการพัฒนาในแง่สินค้าเพื่อเพิ่มมูลค่า (HVA) และที่เหลือใช้ในการปรับปรุงเพิ่มประสิทธิภาพการผลิต โดยปัจจุบันเอสซีจี เปเปอร์มีการผลิตสินค้า HVA อยู่ 30% และอีก 3-5 ปีข้างหน้า สินค้าHVA จะเพิ่มขึ้นเป็น 40% ของรายได้รวม

ทั้งนี้ บริษัทฯได้ร่วมทุนกับบริษัท นิปปอน เปเปอร์ ตั้งโรงงานผลิตกระดาษที่ใช้เทคโนโลยีมันเงาหลายระดับที่ป้องกันจุลินทรีย์ (Machine Glazed Paper) ใช้บรรจุอุปกรณ์ทางการแพทย์ที่ป้องกันการติดเชื้อ การผลิตผ้าและเฟอร์นิเจอร์ ขนาดกำลังการผลิต 4 หมื่นตัน/ปีที่จังหวัดราชบุรี ใช้เงินลงทุน 2 พันล้านบาท คาดว่าผลิตเชิงพาณิชย์ได้ไตรมาส 2 ปี 2557

โดยตลาดหลักจะเน้นขายในภูมิภาคเอเชีย รวมทั้งไทย โดยมีนิปปอน เปเปอร์ช่วยทำตลาดส่งออกด้วยในฐานะผู้ถือหุ้นใหญ่ 55% และเอสซีจี เปเปอร์ถือหุ้น 45%

นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังมีแนวคิดในการเพิ่มมูลค่าการใช้ประโยชน์จากเยื่อกระดาษในอุตสาหกรรมต่างๆ นอกเหนือจากการทำกระดาษ เช่นการผลิต Dissolving Pulp จากไม้ยูคาลิปตัสมาผลิตเส้นใยเรยอน มาใช้เป็นวัตถุดิบในอุตสาหกรรมสิ่งทอ ทำให้ผู้บริโภคได้สัมผัสผ้าเบาสบาย ระบายอากาศได้ดี ช่วยเพิ่มมูลค่าเยื่อกระดาษ ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการทดสอบ คาดว่าภายใน 2 เดือนนี้จะสามารถผลิตเชิงพาณชิย์ได้ และการพัฒนานำเยื่อกระดาษไม่ต้องผ่านการถักถอมาทำเป็นเป็นแผ่นเพื่อใช้ทำผ้าอ้อม คาดว่าจะผลิตได้ในปี 2558

บริษัทฯ ยังมีการพัฒนานวัตกรรม โดยการนำเส้นใยเซลลูโลสร่วมกับสารสังเคราะห์พิเศษ เพื่อให้กระดาษมีความแข็งแรงสูง นำมาผลิตเป็นแผ่นกรองอากาศ (cooling pad) ใช้ในพัดลมไอน้ำ และมีการคิดค้นนวัตกรรมกล่องลูกฟูกเพื่อยืดอายุผลไม้เพื่อการส่งออกได้ยาวนานขึ้น การผลิตผลิตภัณฑ์ลามิเนตสำหรับตกแต่งผิวหน้าเฟอร์นิเจอร์จากกระดาษคราฟท์เกรดพิเศษ ซึ่งผลิตจากเส้นใยรีไซเคิลที่มีความสะอาดสูง รวมถึงการผลิตแก้วกระดาษและบรรจุภัณฑ์อาหารที่สามารถย่อยสลายได้เองตามธรรมชาติภายใน 90 วันช่วยลดปริมาณขยะและปลอดภัยต่อผู้บริโภค

นายรุ่งโรจน์กล่าวต่อไปว่า ในปีนี้เอสซีจี เปเปอร์จะมีรายได้เติบโตจากปีก่อนเพียง 3-5% โดยช่วง 6 เดือนแรกมีรายได้ประมาณ 2.9 หมื่นล้านบาท โตจากช่วงเดียวกันของปีก่อนเพียง 3-4%เท่านั้น ซึ่งเป็นรายได้จากสินค้า HVA ประมาณ 1 หมื่นล้านบาท แต่ในแง่กำไรสุทธิจะเพิ่มสูงขึ้น

ส่วนการลงทุนซื้อกิจการโรงงานผลิตกระดาษบรรจุภัณฑ์เพิ่มเติมนั้น ขณะนี้บริษัทฯมีการเจรจาอีกหลายรายส่วนใหญ่เป็นการซื้อกิจการโรงงานผลิตกระดาษบรรจุภัณฑ์ โดยเน้นการซื้อกิจการที่เวียดนาม อินโดนีเซีย และไทย ส่วนที่ฟิลิปปินส์ซึ่งบริษัทมีโรงงานผลิตกระดาษบรรจุภัณฑ์อยู่พบว่าตลาดโตติดลบ 10% เนื่องจากได้รับผลกระทบจากพายุในปีก่อนทำให้การส่งออกผลไม้ในปีนี้ลดลง
กำลังโหลดความคิดเห็น